ทัณฑ์พิศวาส (1)

1174 Words
ใช้เวลาบนท้องถนนไม่ถึงสามสิบนาทีปรวีร์ก็พาฝนแก้วมาถึงเพนต์เฮาส์ หญิงสาวพะอึดพะอมแต่สู้กลืนมันลงคอ พยายามมีสติกับสถานการณ์ตรงหน้าให้มากที่สุด ปรวีร์โอบเอวบางไว้แน่นในขณะที่หญิงสาวคอยแต่แกะออก มือไม้อ่อนเปลี้ยเพราะฤทธิ์เหล้าไม่กระเทือนแรงคนตัวโต ซ้ำยังปั้นหน้าเป็นจนฝนแก้วชักไม่ไหวจะทน “โอ๊ยๆ!” เสียงเข้มร้องลั่นลิฟต์เมื่อโดนคมเขี้ยวฝังที่ต้นแขน เขาปล่อยพันธนาการจากร่างเล็ก แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ดึงกลับมากอดใหม่เมื่อเธอพุ่งไปที่แผงหมายเลขชั้นอาคารหวังกดออกไปจากตรงนี้ “ปล่อยนะจะกลับบ้าน” “ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าครบเจ็ดวันเมื่อไหร่ก็ปล่อยเมื่อนั้น” “ทำไมคะ จับฝนมาทำไม” ใบหน้าที่มีแต่เงาหวาดหวั่นช้อนมองคนที่กอดเธอไว้ ปรวีร์มองสบแต่ไม่ตอบอะไร เขาเงียบอีกแล้ว “ตอบสิคะ ตอบฝนมา!” “แม่เธอรักเธอมากไหม เพราะถ้ารักมากก็แปลว่าคิดถูกแล้วที่ฉันใช้เธอเป็นเครื่องมือ” เสียงทุ้มสะกดต่ำร่ายคำตอบที่คนฟังขมวดคิ้วไม่เข้าใจ และก่อนที่เธอจะทันได้ถามอะไรประตูอะลูมิเนียมก็เปิดออก ณ กลางห้องเพนต์เฮาส์ของปรวีร์ ร่างสูงลากเธอออกมาพร้อมประตูลิฟต์ที่ปิดลง แม้ฝนแก้วอึ้งกับคำตอบปริศนาแต่ยังพอมีสติว่าต้องปฏิเสธการเกาะกุมของเขา จนกระทั่งปรวีร์เป็นฝ่ายถอนอ้อมกอดเมื่อถึงกลางห้องกว้างโอบล้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์คุมโทนสีขาวเทา เยื้องจากห้องนั่งเล่นไปตรงระเบียงคือสระว่ายน้ำส่วนตัวสะท้อนแสงไฟสีส้มนวล หากแต่ความหรูหรามีระดับของห้องพักถูกผลักจากความสนใจของฝนแก้วในชั่วขณะนี้ “หมายความว่าไงคะ ใช้เป็นเครื่องมือ?” ปรวีร์ผละไปตรงบาร์ รินวิสกี้ใส่แก้วแล้วดื่มพรวดจนหมด ก่อนกลับมาหาคนตรงหน้าที่ดวงตาระริกไหวมีทั้งความกลัวปะปนกับความไม่เข้าใจ “เธอรู้ไหมว่าตอนนี้แม่ฉันอยู่โรงพยาบาล” “ป้ารีย์เป็นอะไรคะ” สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “ตกบันไดเพราะช็อกกับสิ่งที่เห็น แม่เธอเล่นชู้กับพ่อของฉัน กล้าทำต่ำๆ ในบ้านของแม่ฉัน แม่เธอมันส่ำส่อนมากนะฝนแก้ว” เพี๊ยะ! เธอทำลงไปโดยไม่รู้ตัว ฝนแก้วมองมือของตนที่สั่นระริกก่อนพุ่งไปหาปรวีร์ “ฝนขอโทษค่ะ ฝนไม่ได้ตั้งใจ โอ๊ย!” ปรวีร์เพียงต้องการสลัดเธอออก ไม่ตั้งใจผลักแรงจนล้มไปกองกับพื้น กระนั้นแม้ตกใจแต่ก็ใจแข็งไม่คิดช่วย ฝนแก้วสะอื้นไห้ เกินขีดจำกัดจะฝืนทน สมองอื้ออึงจากฤทธิ์เหล้าแต่พยายามประคองตัวเองอย่างสุดความสามารถ “ฝนไม่เชื่อ แม่ไม่มีทางทำแบบนั้น มันอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ร่างบางส่ายหน้าระรัว ยึดโซฟาเป็นหลักพยุงลุก ก่อนมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ที่พามาส่งเมื่อครู่ เธอไม่อยู่หรอก แม้แต่นาทีเดียวก็ไม่อยากอยู่มองหน้าเขา “ฟังไม่เข้าใจเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าถ้าไม่ครบเจ็ดวันไม่ให้กลับ” “มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง มีสิทธิ์อะไรมากักขังหน่วงเหนี่ยว” ฝนแก้วสะบัดแขนจากเขาพลางล้วงมือถือในกระเป๋าตั้งใจจะโทร.หาผู้ปกครอง ทว่าปรวีร์ฉวยไปจากมือพร้อมออกแรงเขวี้ยงจนโทรศัพท์เครื่องแพงนอนแอ้งแม้งหมิ่นขอบสระ ฝนแก้วอ้าปากค้างตะลึงเบือนกลับมามองคนหน้าถมึงทึงอย่างเอาเรื่อง “พี่มันบ้าไปแล้ว! มีสติอยู่หรือเปล่า จับฝนมาแก้แค้นงั้นเหรอ แก้แค้นบ้าบออะไร และฝนไม่เชื่อหรอกนะว่าแม่จะเป็นชู้กับคุณลุง พี่วีร์อาจเข้าใจผิด คุณลุงมีเมียน้อยตั้งมากมายแต่หนึ่งในนั้นยังไงก็ไม่ใช่แม่ฝน อีกอย่างถึงเรื่องนี้มันจริงแต่ไม่ใช่ฝนที่ต้องรับผิดชอบ” “ใช่สิ! ฉันจะให้เธอเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้” ปรวีร์แทรกเสียงตะคอกจนร่างบางสะดุ้งโหยง สองเท้าก้าวถอยหลังเมื่อเขาก้าวคุกคาม ปรวีร์ไม่ขู่ฟ่อนานนักมือยาวกระชากเธอเข้าสู่อ้อมกอดจนใบหน้าเฉียดชนกัน ความร้อนฉ่าในตัวที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันปรวีร์ตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะความใกล้ชิด หรือฤทธิ์สุราในกระแสเลือด ฝนแก้วเสหน้าหลบวูบเมื่อริมฝีปากจ้องฉกลงมา เขากำลังทำอะไร คิดจะทำอะไรเธอ มือหนาช้อนประคองคอระหงตรึงให้นิ่งอยู่กับที่ ในนาทีที่ฝนแก้วอ้าปากพูดเขาก็ก้มครอบจูบทันที กลิ่นราสเบอร์รี่ผสมแอลกอฮอล์ละมุนกันอยู่ในรสสัมผัส ยิ่งฝนแก้วอู้อี้ประท้วง เขายิ่งกดจูบให้หนักเอาให้เธอแบ่งห้วงหายใจไม่ถูก ร่างกายที่ถูกกร่อนด้วยฤทธิ์สุราว่าอ่อนแอแล้วพอเจอสัมผัสดูดดื่มจากผู้ชายที่ใจหวั่นไหวมาด้วยตลอด ยิ่งทำเรี่ยวแรงต่อต้านถดถอย ฝนแก้วรู้ตัวดีว่าหากเขายังเอาแต่ไล่ต้อนเรียวลิ้นของเธอที่หลบหนี เพียงแค่อึดใจเดียวก็คงต้านทานไม่ไหวแล้ว “อื้ม หวานดีนะ” ปรวีร์ยอมถอนริมฝีปากแต่ไม่ยอมปล่อยร่างบาง “แต่ไม่ได้เรื่อง ไอ้ดารานั่นไม่สอนจูบหรือไง” ฝนแก้วปรือตามองเขา เม้มปากหวังกำจัดคราบน้ำลาย แต่แบบนี้ไม่สะใจเท่ากับใช้เสื้อเชิ้ตของเขาเช็ดปาก แสดงให้รู้กันไปเลยว่ารังเกียจ ซึ่งนั่นทำปรวีร์กัดฟันกรอดจนสันกรามนูนชัด “เขามีชื่อค่ะ ไม่ใช่ไอ้ดารา และพี่กันต์ก็สอนจูบออกจะบ่อย เพียงแต่ฝนไม่อยากจูบกับพี่ และพี่กันต์ก็เป็นจูบแรกของฝนด้วย” “จูบแรก แน่ใจเหรอ?” “แล้วมีอะไรไม่แน่ใจ” แม้ถามอย่างอวดเก่งแต่กลับรู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนหนึ่งก็เพราะดวงตาคู่คมดุวาบ คล้ายแฝงความเยาะหยันอยู่ในทีนั่นแหละ “ช่างแม่งมัน จะจูบแรกหรือจูบไหนก็ไม่สำคัญ ว่าแต่เธอเคยนอนกับมันหรือยังไอ้ดารานั่นน่ะ” ฝนแก้วฉุนจัดใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีหวังผลักตัวเองจากอ้อมกอด เมื่อคนตัวโตไม่ขยับก็หันไปเล่นงานของต่ำที่เท้าแทน แต่ดูเหมือนเจ้ายักษ์ปักหลั่นจะรู้ทันทุกอย่าง หลบหลีกรวดเร็วจนเธอโมโห ฝนแก้วไม่ยอมแพ้เขย่งปลายเท้าเพิ่มความสูงแล้วกัดซอกคอเขาอย่างแรง แม้ปรวีร์ร้องลั่นเสียงดังเธอก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ กระทั่งถูกผลักออกนั่นแหละ ปรวีร์ตะปบต้นคอที่โดนฝังคมเขี้ยว รู้สึกเจ็บแสบเสียจนต้องดึงฝ่ามือที่เปียกชื้นออกมาดู “เลือด! นี่กะเอาถึงตายเลยหรือไง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD