“คุณส่งฉันมาตายรึเปล่าเนี่ย คุณรู้ไหมไอ้มาเฟียโรคจิตนั้นมันฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลาเลยรู้ไหม บอกฉันมาตรง ๆ ดีกว่าคุณต้องการข้อมูลอะไรกันแน่”
“หึ สาวน้อยใจเย็น ๆ มันไม่ฆ่าเธอหรอก เธอทำงานออกมาได้ด้วยดี ตอนนี้เธอมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ก็น่าประหลาดใจแล้วไม่ใช่เหรอ”
“คุณเองก็บ้าไม่ต่างไปกับไอ้โรคจิตนั้นหรอก พี่สาวฉันล่ะ วันนี้ยังไงฉันก็ต้องได้คุย”
“เฮ้อ ฉันให้คุยแล้วกลับไปทำงานให้มันได้เรื่องด้วยล่ะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนและเป่าหัวพี่สาวเธอ”
“ไอ้เลว!!”
“อยากให้พี่สาวเธอตายเร็ว ๆ ก็ปากเก่งอีกสิ แนนนี่ส่งเสียงให้น้องสาวเธอได้ยินหน่อยสิ”
“นานา นานาน้องโอเคไหม” เสียงกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงส่งเสียงถาม
“นานาโอเคค่ะพี่แนน แล้วพี่ล่ะมันได้ทำอะไรพี่ไหม”
“ไม่ พี่โอเค ปล่อยนะ ขอให้ฉันคุยกับน้องอีกหน่อยเถอะ”
“พี่แนน! พี่แนน! ไม่ต้องเป็นห่วงนะ นานาจะช่วยพี่ออกมาเอง” เธอรีบบอกให้อีกฝ่ายไม่ต้องกังวล เพราะรู้ดีว่าพี่สาวเธอจะคิดมากและคอยเป็นห่วงเธออยู่ตลอดเวลา
“พี่น้องสมานฉันท์กันเหลือเกินนะ ฉันให้เวลาเธออีก 5 เดือน ถ้ายังไม่ได้ข้อมูลธุรกิจของมันทั้งหมด และแหล่งเก็บสินค้าของมันเธอเตรียมรับหัวพี่สาวของเธอได้เลยนานา”
“ไอ้...โธ่เว้ย” เธอกัดปากตัวเองที่เกือบจะหลุดคำด่าออกมา แต่ด้วยความที่กลัวว่าพี่จะตกอยู่ในอันตรายจึงเลือกสบถออกมาอย่างหัวเสียแทน
“เป็นเด็กดีล่ะ อีก 2 ฉันจะโทรเข้ามาถามความคืบหน้า ราตรีสวัสดิ์"
ตู๊ด ตู๊ด!!
“ไอ้เลว ไอ้ชาติชั่ว ไอ้ชาติหมา ไอ้ระยำ” เมื่อปลายสายตัดไปแล้วเธอจึงบันดาลโทสะที่เต็มไปด้วยความแค้นเคือง ถ้าคำแช่งคำด่าทำให้อีกฝ่ายตายได้ก็คงดี คนเลว ๆ จะได้หมดโลกสักที
ภายในความมืดสลัวที่ทุกคนกำลังทำงานตามหน้าที่ของตนเองนั้น มีร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งที่พยายามเดินหลบมุมท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากสปอตไลน์สาดลงมาเล็กน้อย
เธอค่อย ๆ ย่องออกมาอย่างเบาที่สุด ขึ้นมาชั้นสามที่เป็นโซน Vip ก็ต้องชะงักเพราะชั้นนี้ลูกน้องชุดดำยืนเฝ้ากันแต่ละจุดเต็มไปหมด
“แม่งเอ๊ย” เธอสบถในใจเล็กน้อยและค่อย ๆ เดินกลับทางเดิมอย่างเงียบเชียบที่สุด
“นานาหายไปไหนพี่หาเราตั้งนาน” โรมเดินเข้ามาหาและฉีกยิ้มกว้าง
“พี่โรมจะใช้อะไรนานาค่ะ”
“ไปดูแลแขกโต๊ะนั้นที ดูแลดี ๆ เพราะโต๊ะนั้นทั้งกลุ่มเป็นเพื่อนบอสทั้งหมด”
“ค่ะ แล้วบอสจะลงมาไหมคะ”
“บอสก็นั่งอยู่ในกลุ่มนั่นแหละ เอาแก้วเหล้าบอสแยกไปด้วยล่ะ”
“ค่ะพี่โรม” เธอรับแก้วใบใหม่มาและเดินถอนหายใจเข้าไป เธอไม่รู้จะตีหน้าแบบไหนกับมาเฟียคนนั้นกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“สวัสดีครับคุณนานา” เป็นอีกครั้งที่คนเดิมเอ่ยทักทายเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มกรุ้มกริ่มและเจ้าเล่ห์ และมีสายตาคมจ้องมองมาที่เธอสบตาเข้าจนทำให้เสียวสันหลังไปทั้งตัว
“สวัสดีค่ะ นานาขออนุญาตรินวิสกี้ให้นะคะ”
“เชิญครับ” เป็นชิเอลอีกครั้งที่ยิ้มมาให้จนน่าหมั่นไส้ แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้เขาดูดีอย่างเห็นได้ชัด
“ไซรัสมึงต้องระวังธุรกิจของมึงให้ดีนะ เพราะตอนนี้น่าจะมีจะมีหนูเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว”
หญิงสาวรินเหล้าไปและเงี่ยหูฟังไปกับการสนทนาที่มาเฟียหนุ่มพูด
“ใครมันจะมาลูบคมอย่างเฮียฟาริสว่ะ ถ้าไม่อยากตาย” ไซรัสเอ่ยถามอย่างสงสัยว่าไอ้คนที่เข้ามาทำให้ธุรกิจของเจ้าพ่อมาเฟียอย่างฟาริสเสียหายนี่มันไม่กลัวตายเลยรึไงกันถึงได้เข้ามาในถ้ำเสือได้
“นั่นนะสิเฮีย ใครจะกล้า” เวกัสเอ่ยเสริมทัพและจิบเหล้าของตัวเองต่อ
“เพราะแบบนี้ไงกูถึงได้เรียกพวกมึงมาเพราะมีคนมาลูบคมกูแล้ว” ฟาริสเอ่ยบอกและเงียบเสียงลงเมื่อเห็นร่างบางเข้ามารินเหล้าให้ตัวเองอีกครั้ง “เธอออกไปก่อนไป”
“ค่ะบอส” นานารับคำอย่างว่าง่ายและรีบเดินออกไป
“ไอ้โรมเรื่องไปถึงไหนแล้ว” ทันทีที่ชายหนุ่มเรียกชื่อ โรมที่แอบอยู่ในมุมมืดก็ยิ้มและเดาะลิ้นเดินเข้ามา
“ก็น่าสงสัยสุด ๆ ไปเลยนะสิวะ”
“น่าสงสัยอะไรกันพี่โรม” ชิเอลถามด้วยความสงสัย เพราะจะว่าไปโรมก็แอบไปทำอะไรไม่สมเป็นเขาเลย เพราะคลั่งล่าสุดเห็นอยู่คลับเฮ้าส์
“แอบไปทำงานให้ไอ้ริสไง”
“อ๋อเป็นผู้ชายขายน้ำนะเหรอพี่โรม ฮ่า ฮ่า” ชิเอลนั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็งถึงว่าทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้เพราะแอบไปทำงานโดยไม่บอกนี่เอง
“ฟาริสกูว่าพอแล้วมั้งที่ให้ไอ้โรมไปสืบนะ” ไซรัสเอ่ยขึ้นมาเพราะแอบเป็นห่วงเพื่อนถ้าคนทางบ้านรู้หัวใจคงได้วายกันพอดีลูกชายทายาทพันล้านเพียงคนเดียวแต่ไปเต้นรูดเสาร์จับป้าแก่ ๆ กิน
“กูใช้ให้มันไปทำที่ไหนล่ะ มันไปของมันเอง กูบอกให้มันหยุดมันฟังที่ไหน” ฟาริสโต้กลับเพราะเขาเองก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเข้าไปแต่โรมเข้าไปเอง
“เหอะ! แปลว่ามึงชอบใช่ไหมไอ้โรม”
“กูมีอะไรให้เสียหายล่ะ มันสนุกด้วยไง” โรมพูดอย่างสบายใจไม่ได้เดือดร้อนใจเหมือนกับที่เพื่อนเป็นห่วง
“เออยังก็ระวังตัวไว้ไอ้โรม แล้วงานที่วานล่ะ” ฟาริสถามเสียงขรึมและมองไปรอบ ๆ ว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม
“อืม น้องเขาแอบมองอยู่ตลอดเลยสงสัยคงชอบมึงล่ะมั้ง”
“ไอ้โรมกูให้มึงมาทำงานที่นี่เพื่อสนุกรึไง เอาจริงเอาจังสักทีสิวะ” ฟาริสดุพร้อมกับเอาปืนมาวางไว้บนโต๊ะ ถ้าขืนโรมยังเล่นไม่เลิกเขาจะเอาปืนเป่าปากมันแทน เพื่อนก็เพื่อเถอะ
“เขามองมึงจริง แต่มองแบบไม่ได้อยากกิน มองแบบมึงเป็นเหยื่อ”
“แล้วมันต่างกันยังไงพี่โรม คือเขามองเพราะเขาชอบเฮียฟาริสใช่ไหม”
“ไม่ใช่ แต่น้องเขามองแบบพร้อมที่จะกระสวกไส้นะสิ” เมื่อชิเอลได้ยินในสิ่งที่โรมบอกก็หลุดขำออกมา
“เหอะ เหอะ ปกติมีแต่คนกลัวถ้ามองเฮียแบบนั้น ส่วนมากผู้หญิงมองเพราะเขาแอบชอบและอยากจับเฮียกิน แต่มองแบบต้องการกระสวกนี้ ฮ่า ฮ่า เฮียระวังเขาให้ดีล่ะเผลอ ๆ โดนมีดปักกลางอกตายทำไง”
“ไอ้กัสปากมึงน่าเอาปืนจ่อปากแล้วยิงสักสองสามนัดไม่ให้วิญญาณมึงได้ไปผุดไปเกิดเลยไอ้เวร”
“ล้อเล่นครับเฮีย” ปากบอกว่าล้อเล่นแต่กลับนั่งหัวเราะกับชิเอลอย่างสนุกสนาน
“ระวังไว้ไม่เสียหายนะฟาริส เพราะน้องเขาชอบใช้สายตาสอดส่อง กูสังเกตมาตั้งแต่น้องเขาขึ้นมาข้างบนแล้ว ปกติถ้าใช้ให้ใครขึ้นไปหามึงจะต้องกลัวกันจนตัวสั่น แต่น้องกับดีใจถึงแม้พยายามปกปิดไม่ให้กูรู้ก็เถอะ แต่กูดูออก และอีกอย่างกูใช้ให้ลูกน้องกูไปสืบมาเพิ่มเติม มึงรู้ไหมกูเจออะไร”
“อะไร”
“น้องเขาอายุแค่ 18 แต่ทำบัตรปลอมว่าอายุ 20 และอีกอย่างน้องใช้ชื่อปลอมเข้ามาทำงาน”
“ฮ่า ฮ่า เด็กน้อยเล่นกูซะแล้ว ไอ้เชี่ย” ฟาริสนั่งหัวเราะชอบใจ ต่างจากคนอื่นที่มองหน้ากันอย่างกังวลเพราะกลัวสาวน้อยนั้นตาย
-------------------------------------------
พร้อมให้น้องกระสวกไส้ไหมคะพี่ฟ้าริส
แต่ขอบอกเลยนะว่าน้องด่าเก่ง ^^