7

1241 Words
“นิกกี้!” เสียงทักจากด้านหลังทำให้คนที่กำลังนั่งกินอาหารที่เพื่อนสนิทวนเวียนเอามาส่งให้อย่างเอร็ดอร่อยหันไปมอง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร นิกษาได้แต่มองตามนาตาชาที่นั่งลงบนสตูลตัวสูงข้างๆ เธอ อีกฝ่ายวางแก้วเครื่องดื่มที่ถือติดมือมาลงบนเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะพูดกับเธอเสียงสูงที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ซึ่งเป็นน้ำเสียงปกติที่นาตาชาใช้กับเธออยู่แล้ว “ฉันไม่คิดว่าจะเจอแกที่นี่ หนีเที่ยวหรือไงคืนนี้?” “พี่!” หญิงสาวร้องเรียกอีกฝ่ายอย่างตระหนก ราวกับจะปฏิเสธว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นไม่ใช่ความจริง “ตกใจอะไรกัน?” นาตาชาชักสีหน้าบึ้งตึงใส่เธอทันควันเช่นเดียว กัน “คิดว่าฉันไม่มีปัญญามาเที่ยวที่นี่หรือยังไง” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตีความท่าทีของเธอไปอีกทาง นิกษาจึงรีบโบกมือไปมาพร้อมกับปฏิเสธเสียงดังทันที “เปล่าค่ะ ฉันก็แค่ไม่คิดว่าจะเจอพี่...ก็เท่านั้น” ตอนท้ายเธอเบาเสียงลงนิดหน่อย ผับนี้แม้จะเพิ่งเปิดใหม่ แต่ก็รู้กันว่าเป็นสถานที่มีระดับ ผู้คนที่มาใช้บริการต่างเป็นพวกกระเป๋าหนักทั้งนั้น ที่คริสต้ามาเลี้ยงที่นี่ไม่นับว่าแปลก แต่ที่นาตาชาโผล่มาที่นี่เลยทำให้เธอค่อนข้างตกใจนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มีปัญญามาที่นี่อย่างที่พูดหรอกนะ “รังเกียจฉันหรือไง?” น้ำเสียงที่เจือความโมโหเพิ่มมากขึ้นของคนเป็นพี่สาวทำให้นิกษา รีบปลอบโยนอีกฝ่ายให้ใจเย็นลง “ปะ…เปล่านะ! ยังไงพี่ก็เป็นพี่ของฉันนี่” แม้ว่านาตาชาจะไม่มองว่าเธอเป็นน้องสาว แต่เธอยังคงมองอีกฝ่ายเป็นพี่สาวของเธอเสมอ นาตาชาเองตอนยังเด็กก็ดีกับเธอมาก แต่เพราะอีกฝ่ายคบเพื่อนไม่ดี บวกกับนิสัยอ่อนไหว ยุแยงง่าย คล้อยตามคำพูดของคนอื่นอยู่เสมอ และบางครั้งก็มีนิสัยขี้อิจฉา แต่เพราะนาตาชาเป็นลูกสาวของบิดา มารดาบุญธรรมที่มีบุญคุณกับเธอ เป็นคนในครอบครัวที่แม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่ก็ตัดไม่ขาดของเธอ “ก็ยังดีที่เห็นว่าฉันเป็นพี่” อีกฝ่ายตอบเสียงเหยียดพร้อมกับหัวเราะหยันออกมา ท่าทีเดี๋ยวโกรธเดี๋ยวหัวเราะของพี่สาวทำให้หญิงสาวหรี่ตามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “พี่เมาหรือเปล่าเนี่ย” เธออ้อมแอ้มถามอีกฝ่ายเสียงเบา ไม่กล้าตัดสินใจฉับลงไปเพราะเกรงว่าจะกลายเป็นยุให้นาตาชาโกรธ อีกฝ่ายอาละวาดในที่นี้ขึ้นมาเธอไม่มีปัญญาชดใช้หรอกนะ... “ฉันยังมีสติย่ะ!” นาตาชากระแทกเสียงตอบ มองเธอตาขวางทันที “ทำไม! คิดว่าฉันจะคุยกับแกดีๆ ไม่เป็นหรือไง” “ก็…” ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นานหลายปีแล้วที่นาตาชาไม่เคยพูดกับเธอเกินสามนาทีแบบนี้ และไม่ได้อาละวาดใส่เธอหรือขอเงินเธออีกด้วย มันทำให้เธออดสงสัยไม่ได้จริงๆ “แด๊ดเป็นไงมั่ง?” คำถามเปลี่ยนเรื่องกะทันหันทำให้นิกษาปรับตัวไม่ทัน และยิ่งประหลาดใจมากยิ่งขึ้นที่อีกฝ่ายถามถึงอาการของบิดา ทว่าความดีใจกลับมีมากกว่า เมื่อพี่สาวเริ่มหันมาสนใจคนในครอบครัวแล้ว ถึงแม้จะไม่หายสงสัยก็ตามทีว่านาตาชาอาจจะเมา แต่ถึงอย่างนั้นแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว “บอกตามตรงนะคะ...” หญิงสาวชะงักไปนิด พยายามเรียบเรียงประโยคที่ทำให้คนฟังไม่รู้สึกว่ามันเลวร้ายมากเกินไป แม้ในความเป็นจริงอาการของแด๊ดจะทรุดหนักก็ตาม “…หมอว่าอาการไม่ค่อยดีเลย แด๊ดไม่ค่อยมีกำลังใจด้วย ฉันอยากให้พี่...เอ่อ...” เธออึกอัก ไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิด แต่ถึงอย่างนั้นนาตาชาก็รู้ทัน “ทำตัวดีๆ หน่อยใช่ไหม เหอะ” เจ้าหล่อนส่งเสียงหยัน “จะทำไปทำไม ในเมื่อแด๊ดมีลูกสาวแสนดีอย่างแกอยู่แล้ว!” คำพูดที่สื่อถึงความน้อยอกน้อยใจปนประชดประชันทำให้นิกษาส่ายหน้ายิกๆ ปฏิเสธอีกครั้ง “ยังไงฉันก็เป็นแค่ลูกเลี้ยง เป็นเด็กที่ขอมาเลี้ยงนะ สู้คนในสายเลือดเดียวกันไม่ได้หรอกนะพี่” เธอชี้ให้นาตาชาเห็นความจริง ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจตัวเองก็ตาม ซึ่งนั่นทำให้สีหน้าของนาตาชาดีขึ้น “หึ” “นะคะ ถือว่าฉันขอร้อง เอ่อ…ให้ฉันจ้างพี่ก็ได้” ประโยคท้ายเธอพูดพลางปรายตามองอีกฝ่ายอย่างเกรงใจ และต้องคอย่นด้วยความกลัวเมื่อนาตาชาตบโต๊ะปังพร้อมกับตวาดใส่เธอว่า “คิดจะเอาเงินฟาดหัวฉันหรือไงยะ?” “มะ…ไม่ใช่นะ!” “ฉันก็ไม่คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกจะหาเงินได้เยอะจนพอจะจ้างฉันหรอก!” “…” หญิงสาวเลยได้แต่เงียบกริบ เพราะจะว่าไปพี่สาวก็พูดได้ถูกต้อง ถ้าเกิดนาตาชาเรียกร้องเงินจำนวนมาก เธอก็หาให้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี “แต่เห็นแก่ที่ขอร้องขนาดนี้จะยอมทำตามก็ได้นะ” “เอ๋…?” ประโยคต่อมาทำให้นิกษาที่หวาดกลัวว่าอาจจะโดนด่าอีกระลอกถึงกับลืมตาขึ้นทันควันแล้วจ้องมองคนพูดเขม็ง แล้วเธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นนาตาชายิ้ม เป็นรอยยิ้มขำอย่างจริงใจที่เธอไม่ได้เห็นมานาน... “มา…กินนี่ซะสิ” เจ้าหล่อนพูดพลางเลื่อนแก้วที่ถือติดมือมาตั้งแต่แรกมาตรงหน้าเธอ “…แล้วฉันจะถือว่าเราสงบศึกกัน แล้วฉันจะยอมทำตามที่แกต้องการนะนิกกี้” “จะ…จริงเหรอคะ?” นิกษาถึงกับตื่นเต้นปากคอสั่นด้วยความดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน แด๊ด ต้องดีใจมากแน่ๆ ที่พี่นาตาชาจะกลับตัวกลับใจแล้วเลิกทำตัวเอ้อระเหยลอยชายแล้ว “เออ” “ขอบคุณนะพี่! ขอบคุณจริงๆ แด๊ดคงดีใจถ้าพี่จะไปคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเขาทุกวัน” นิกษาแทบน้ำตาไหลกับคำตอบรับของอีกฝ่าย เธอจับมือนาตาชา แล้วเขย่าไปมาด้วยความตื่นเต้น “หึ! ดีใจอะไรกันกับเรื่องแค่นี้” นาตาชายิ้มให้เธอ ก่อนจะจับแก้วเหล้าใบนั้นใส่มือเธอพร้อมกับบอกว่า “เอ้า! กินเสียสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะถือว่าแกไม่ตกลงฉันก็ไม่รับปากนะ” “ได้เลย ฉันจะกินเดี๋ยวนี้!” นิกษายิ้มกว้าง วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดวันหนึ่งของเธอเลยทีเดียว เธอคิดถูกแล้วจริงๆ ที่สุดท้ายก็ยอมมางานวันเกิดของคริสต้าและได้เจอกับนาตาชาที่นี่ หญิงสาวคิดขณะที่ยกแก้วเหล้าที่อีกฝ่ายส่งมาให้แล้วดื่มรวดเดียวจนหมดตามคำยุยงของอีกฝ่าย …โดยที่ไม่สังเกตสายตาจงเกลียดจงชังและสะใจที่ลอบมองเธอในระหว่างที่กำลังดื่มเหล้าด้วยความดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD