"ปล่อยนะ! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ!" มารีน่าดิ้นขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของเซบาสเตียนได้ ชายหนุ่มฉุดลากฉุดดึงร่างกะทัดรัดเข้ามาในห้องนอนและปิดประตู ก่อนจะผลักเธอจนล้มนอนลงบนเตียงนอน
"ไหนบอกว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่ในบ้านหลังนี้ไง จะพูดให้ตัวเองดูดีทำไม คิดว่าฉันมองไม่ออกเหรอว่าผู้ชายอย่างคุณมันเป็นคนประเภทไหน เป็นมาเฟียก็ต้องมีนางบำเรอ ผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็คงจะใช่"
"และเธอเองก็จะกลายมาเป็นนางบำเรอฉันเหมือนกันถ้ายังพูดมากอยู่แบบนี้!" เขาตะคอกเสียงดัง มารีน่าสะดุ้งตกใจกับคำว่านางบำเรอ และตนจะไม่มีทางตกอยู่ในสถานะนั้นอย่างแน่นอน
"ไม่เป็น ฉันไม่ยอมเป็นเด็ดขาด คุณออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!" หญิงสาวเปลี่ยนมาออกปากไล่เขาแทน
"นี่มันห้องนอนของฉัน"
"แต่เมื่อคืนฉันนอนอยู่บนเตียงนี้"
"ใช่ไง" เขายกยิ้มมุมปากเย้ยหยัน
"ว่าแต่...เมื่อคืนคุณนอนตรงไหน?" เธอขมวดคิ้วพลันครุ่นคิด
"ก็นอนอยู่ข้างๆ เธอไง" ชายหนุ่มตอบโดยไม่แม้แต่จะคิด
"อะไรนะ เมื่อคืนเรานอนด้วยกันเหรอ?" มารีน่าตกใจตาโต
"ก็แค่นอน เธอหลับเป็นตาย เมาจนไม่รู้เรื่องอะไรขนาดนั้น ถ้าเกิดโดนผู้ชายลากไปข่มขืนก็คงไม่มีทางรู้เรื่องอะไร" คำพูดของเซบาสเตียนทำให้มารีน่าตระหนักดี ว่าตนไม่ควรดื่มจนเมาไร้สติเช่นนั้น
"ไม่ต้องมาพูดเหมือนตัวเองเป็นคนดี ที่คุณฉุดฉันมามันก็เลวร้ายไม่ต่างกันหรอก"
"ทำไมจะไม่ต่างกัน ลืมไปแล้วเหรอว่าเธออยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ และถ้าเธอไม่เอาแต่เถียงฉันแบบนี้เธอก็จะมีชีวิตที่ดี รับขอเสนอของฉันไปซะ แลกกับเงินตามที่เธอต้องการ"
"แล้วถ้าฉันยืนยันว่าไม่เอาล่ะ?"
"ฉันจะให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป เพื่อให้เธอคิดไตร่ตรองดูข้อเสนอของฉัน เผื่อเธอจะติดใจการถูกปฏิบัติราวกับว่าเป็นนางฟ้า เธอจะได้เปลี่ยนใจยอมท้องลูกให้ฉัน"
"มันไม่ได้ผลหรอก ต่อให้คุณจะปฏิบัติต่อฉันดียังไงฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะอุ้มท้องตั้งเก้าเดือนแล้วก็ยกลูกให้กับคุณ"
"เธอจะคิดอะไรเยอะแยะขนาดนั้น เธอได้เงินตามที่เธอต้องการส่วนฉันก็ได้ลูก"
"อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ ฉันรู้สึกปวดหัวยังไงก็ไม่รู้ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา แล้วก็ปล่อยฉันกลับไปได้แล้ว" มารีน่ายื่นมือมาตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อขอโทรศัพท์คืน
เซบาสเตียนเอาแต่จ้องมองใบหน้าสวยคมบึ้งตึง เขารู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปหญิงสาวก็คงเอาแต่ปฏิเสธหัวชนฝา จึงตัดสินเดินออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้เธออยู่ตามลำพัง
"เซบาสเตียน กลับมาคุยกันก่อนสิ เอาโทรศัพท์ของฉันคืนมานะ" มารีน่าเดินตามหลังชายหนุ่มออกมาจากห้องนอน
แต่เซบาสเตียนไม่มีทีท่าจะหันกลับมามอง เธอจึงรีบวิ่งตามหลังเขาลงบันไดมาจนถึงชั้นล่างอีกครั้ง
"ต่อให้ฉันพูดว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาขังฉันไว้ที่บ้านคุณก็คงไม่มีทางฟัง แต่ฉันแค่ขอโทรศัพท์คืนไม่ได้หรือยังไง ฉันต้องโทรหาเพื่อน ฉันกลัวเพื่อนเป็นห่วง"
"ถ้าเธอกลัวว่าเพื่อนเป็นห่วงเธอก็รีบตัดสินใจซะ เราจะได้ใช้ชีวิตกันแบบปกติ"
"พวกคุณไม่ได้ใช้ชีวิตกันแบบปกติอยู่แล้ว คนปกติที่ไหนเขาทำแบบนี้ อยู่ดีๆ ไปจับผู้หญิงที่ไม่รู้จักมาแล้วก็ขู่ให้เขายอมรับข้อเสนออุ้มบุญให้"
มารีน่าตะโกนพูดเสียงดังลั่นบ้าน เจมส์และเควินได้ยินจึงรีบเดินเข้ามาหาเจ้านาย บอดี้การ์ดทั้งสองมองค้อนมายังหญิงสาวที่เอาแต่ตะโกนใส่หน้าเจ้านายของตน
"เพราะฉันไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่โง่ปฏิเสธรับข้อเสนอเงินหลายสิบล้านแบบนี้"
"ว่าฉันโง่เหรอ? เพราะฉันไม่อยากได้เงินหลายสิบล้านของคุณต่างหาก ไม่คิดว่าฉันอยากได้สองร้อยล้านบ้างเหรอ กล้าจ่ายไหมล่ะสองร้อยล้าน" เธอเพียงแค่ประชดประชันและท้าทายเขาเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรเสียด้วยซ้ำก่อนที่จะพูดออกไป
"ได้ ฉันยอมจ่ายให้เธอสองร้อยล้าน แต่เราต้องไปหาหมอเพื่อทำลูกอุ้มบุญภายในไม่เกินหนึ่งเดือนนี้"
"ฮะ! คุณจะบ้าเหรอ คุณยอมจ่ายเงินสองร้อยล้านจริงๆ เนี่ยนะ?" เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเอาแต่จ้องมองใบหน้าสวยของมารีน่า
"คิดว่าฉันจะพูดเล่นเหรอ คิดว่าคนอย่างฉันไม่มีปัญญาจ่ายเหรอ?" ทันทีที่ชายหนุ่มพูดเช่นนั้น เจมส์และเควินก็หันไปมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
เพราะหากเซบาสเตียนเลือกจ้างผู้หญิงที่ต้องการเงินเพื่อมาอุ้มบุญให้ก็คงไม่จำเป็นต้องจ่ายถึงสิบล้านด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนชายหนุ่มกำลังต้องการจะเอาชนะมารีน่าเสียมากกว่า
"ไม่เอา!"
"แต่เธอพูดแล้ว สองร้อยล้านฉันยอมจ่าย"
"ฉันก็แค่ท้าทายคุณไปอย่างนั้นแหละ ฉันไม่เอาหรอก ไม่ท้องด้วย"
"เธอเห็นฉันเป็นอะไร กล้าดียังไงมาท้าทายฉันแบบนี้?" เซบาสเตียนพูดเสียงดุ เขากุมข้อมือเล็กเพื่อรั้งร่างบอบบางเข้าหาลำตัว ทำให้ใบหน้าสวยคมแนบชิดกับแผงอกแกร่งกำยำ
มารีน่าประหม่าเมื่ออยู่ใกล้ชิดเขา กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่เปี่ยมเสน่ห์ ได้ยินเสียงหัวใจกำลังเต้นตึกตักเป็นจังหวะ เธอจึงพยายามถอยออกห่าง
"ทำไมคุณถึงไม่ลองมองหาผู้หญิงคนอื่นดูล่ะ หาคนที่เขาต้องการเงินจริงๆ แล้วเขาก็พร้อมที่จะอุ้มท้องลูกของคุณจริงๆ"
มารีน่าเริ่มหวาดหวั่นต่อความต้องการที่จริงจังของเซบาสเตียน เธอตระหนักดีก็ตอนนี้ว่าทะเลาะกันไปก็ไม่ได้อะไร จึงพยายามพูดคุยกันด้วยเหตุผล
เซบาสเตียนเองก็ไม่เคยคิดที่จะเคี่ยวเข็ญหรือบังคับอะไรมารีน่า ถ้าหากเขาไม่เห็นว่าเธอรู้จักกับโทมัส
และตอนนี้ชายหนุ่มก็อยากเอาชนะลูกพี่ลูกน้อง หากมารีน่ายอมมีลูกให้กับตน นั่นแปลว่าโทมัสเป็นฝ่ายแพ้
"เธอมีเวลาคิดอีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้าอยากเจอเพื่อนและอยากกลับไปมหาวิทยาลัยก็อย่าใช้เวลาคิดนานนัก" เขาบอก
"งั้นฉันขอโทรศัพท์คืน เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา"
"เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาต่อรองอะไรทั้งนั้น"
"คุณนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์มาขังฉันไว้แบบนี้"
"ฉันจะขัง! ขังเธอไว้ในห้องนอนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้แม่บ้านยกข้าวยกน้ำขึ้นไปให้กิน" เซบาสเตียนพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินไปยังห้องทำงานของตนเอง มารีน่าจึงได้แต่มองตามหลังด้วยความเสียใจที่ไม่ได้โทรศัพท์คืน
"เจ้านายของพวกคุณบ้าขนาดนี้ทำไมถึงยังทำงานให้เขาอยู่ได้ คนอะไรเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี!" เพราะไม่รู้จะต่อว่าใคร มารีน่าจึงหันไประบายอารมณ์ใส่เจมส์และเควิน
แต่บอดี้การ์ดทั้งสองคนกลับยืนเงียบไม่ยอมพูดอะไร จากนั้นพวกเขาจึงเดินออกไป ปล่อยให้มารีน่ายืนหงุดหงิดอยู่คนเดียว