บ้านเซบาสเตียน
มารีน่าค่อยๆ เปิดเปลือกตาตื่นขึ้นมาภายในความมืดสลัว ทั้งยังรู้สึกมึนหัวอยู่บ้างเล็กน้อย เธอพอจะจำความได้ ว่าตนนั่งแท็กซี่ไปจนถึงคอนโด แต่พอก้าวขาลงจากรถ ก็ถูกใครคนหนึ่งฉุดขึ้นรถอีกคันทันที
แต่เพราะความมึนเมาจนไม่มีแรงต่อสู้ และหมดสติไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงทำให้ตนต้องมานอนอยู่บนเตียงนอนเตียงนี้ ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน หรือใครที่เป็นคนฉุดกระชากตนขึ้นรถเมื่อคืน
ร่างเล็กประคองตัวลุกขึ้นนั่ง จึงเห็นนาฬิกาเรือนเล็กตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง เสียงเข็มนาฬิกาเดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เข็มสั้นบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีห้าแล้ว
"ที่นี่ที่ไหน..." มารีน่าพึมพำ แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และความง่วง ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเปิดเปลือกตาตื่นได้นานกว่านี้
ร่างเล็กทิ้งตัวนอนลงอีกครั้ง ใบหน้าสวยฟุบลงบนฟูกนุ่ม ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ง่วง และความรู้สึกอบอุ่นภายใต้ผ้าห่มผืนหนาในห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปอีกครั้ง
จนกระทั่งถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า มารีน่าลืมตาตื่นขึ้นมาอีก และค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ครั้งนี้เธอก้มลงสำรวจเรือนร่างของตนเองภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ จึงสังเกตเห็นว่าชุดที่ตนสวมใส่อยู่นั้นเป็นชุดนอนที่ไม่ใช่ของตน
"แย่แล้ว! ใครเปลี่ยนชุดให้ฉัน แล้วที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ทำไมเราถึงได้มาอยู่ที่นี่..." หญิงสาวพยายามตั้งสติ พร้อมกับขยับมือขึ้นมาลูบไล้เรือนร่าง และสังเกตว่าตนมีความรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงตรงจุดหวงแหนจุดนั้นหรือไม่
แต่โชคดีที่ตนยังคงรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว เรียวเท้าสวยจึงหย่อนลงจนถึงพื้นห้องนอน จากนั้นจึงหยัดกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินตรงไปยังประตู และเดินออกจากห้องนอนไป
"นี่มัน..." มารีน่าเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับที่นี่ เธอเห็นบอดี้การ์ดยืนเฝ้าอยู่ตรงทางลงบันไดไปยังชั้นล่างจึงเดินตรงเข้าไปหา
"อรุณสวัสดิ์ครับ คุณมารี..." มารีน่าอ้าปากค้าง แม้จะจำหน้าบอดี้การ์ดคนนี้ไม่ได้ แต่ก็จำบรรยากาศภายในบ้านได้ดี เธอค่อนข้างมั่นใจว่าที่นี่คือบ้านของเซบาสเตียนนั่นเอง
"ที่นี่บ้านเซบาสเตียนเหรอ?"
"ครับ นายอยู่ข้างล่าง" บอดี้การ์ดหนุ่มบอก มารีน่าจึงรีบก้าวขาฉับๆ ลงบันได เธอต้องการไปหาเขา และถามให้รู้เรื่องว่าทำไมตนถึงได้มาอยู่ที่นี่
"ต่อไปนี้ฉันสั่งห้ามไม่ให้โทมัสเข้ามาในบ้านหลังนี้อีก ตอนนี้ระหว่างฉันกับมันเป็นศัตรูกัน ศัตรูที่กำลังแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มมาเฟีย ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในบ้านตอนนี้ ห้ามให้หนีออกไปได้เด็ดขาด" เซบาสเตียนประกาศต่อหน้าบอดี้การ์ดทุกคนที่มาประชุมกันในช่วงเช้าก่อนเริ่มงาน
เป็นจังหวะที่มารีน่าเดินลงมาจนถึงโถงกลางบ้าน บอดี้การ์ดทุกคนต่างจับจ้องมายังเธอ รวมถึงเซบาสเตียนที่หมุนตัวหันมามองเช่นเดียวกัน หญิงสาวไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดคุยกับลูกน้องเมื่อครู่
"เซบาสเตียน นี่มันเรื่องอะไรกัน อย่าบอกนะว่าคุณไปฉุดฉันมาอีกแล้ว แล้วนี่คุณเอาโทรศัพท์ฉันไปไว้ไหน ฉันขอโทรศัพท์คืนด้วย" มารีน่าโวยวายเสียงดังโดยที่ไม่สนใจบอดี้การ์ดเกือบสิบคนที่กำลังนั่งฟังอยู่ เซบาสเตียนเองก็ยังคงเงียบ จากนั้นเขาจึงหันไปคุยกับบอดี้การ์ดของตนต่อ
"ทุกคนออกไปทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้ว" สิ้นสุดคำสั่ง บอดี้การ์ดทุกคนก็เดินออกไปทำงานของตนเองรวมถึงเจมส์ เซบาสเตียนจึงหันมาเผชิญหน้ากับมารีน่าอีกครั้ง
"นั่งลง" ชายหนุ่มออกคำสั่ง จากนั้นจึงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา มารีน่ายังคงยืนอยู่ และเอาแต่จ้องมองเซบาสเตียนด้วยแววตาเอาเรื่อง
"ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือยังไง คุณจับฉันมาอีกทำไม?"
"ก็เหมือนครั้งแรกนั่นแหละ ไม่ได้ตั้งใจจะจับหรือว่าฉุด เพียงแค่ว่าเมื่อคืนเธอเมา คิดว่าถ้าคุยก็คงไม่รู้เรื่อง ฉันก็เลยพาเธอขึ้นรถมาที่นี่ เพื่อรอเธอตื่นจะได้คุยกัน"
"คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้กับใครนะ เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา แล้วก็เอาเสื้อผ้าฉันคืนมาด้วย ฉันจะกลับบ้าน" มารีน่าโวยวาย
"แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ได้กลับออกไปเหมือนครั้งที่แล้ว" เขาพูดโทนเสียงต่ำ ทว่าน้ำเสียงเด็ดขาด สีหน้าจริงจัง แววตาดุดัน
"ว่าอะไรนะ?"
"ฉันบอกเธอไปแล้ว ว่าฉันต้องการให้เธออุ้มบุญลูกของฉัน ใช้เวลาแค่เก้าเดือนในการอุ้มท้อง แลกกับเงินกี่สิบล้านก็ได้ตามที่เธอต้องการ เธอลองใช้สมองคิดบ้างสิ เผื่อจะตัดสินใจได้ดีกว่าเมื่อวาน"
"แน่นอนว่าฉันใช้สมองคิดมาแล้ว การที่ฉันจะมีลูกคนหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นไข่ของฉันหรือไม่ใช่ก็ตาม แต่เด็กที่จะเกิดมาก็ต้องอาศัยอยู่ในท้องของฉันตั้งเก้าเดือน เพราะฉะนั้นฉันก็จะรู้สึกเหมือนเขาเป็นลูกของฉัน แต่พอหลังจากคลอด...ฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นหน้าเขาอีกเลย ฉันไม่เอาด้วยหรอก ไปหาผู้หญิงคนอื่นเถอะ"
เซบาสเตียนเอาแต่จ้องมองคนขี้โวยวายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดูท่าทางแล้วมารีน่าคงจะดื้อรั้นหัวแข็งและไม่ยอมคนง่ายๆ
"แต่ถึงยังไงตอนนี้เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินออกไปจากบ้านหลังนี้ เธอจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้จนกว่าเธอจะยอมตกลงทำตามข้อเสนอของฉัน"
"แบบนี้อย่าเรียกว่าข้อเสนอเลยดีกว่า เรียกว่าบังคับขู่เข็ญ"
"ก็แล้วแต่เธอจะเรียก"
"คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ เหรอ ไม่ว่าพวกคุณจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่พวกคุณทำอยู่ตอนนี้มันผิด ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมมนุษยธรรม จับคนอื่นมากักขังหน่วงเหนี่ยวโดยที่เขาไม่เต็มใจแบบนี้ได้ยังไง ไม่มีสุภาพบุรุษที่ไหนเขาทำกันหรอก"
"ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษ ไม่เคยเป็น แล้วก็จะไม่มีทางเป็นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเธออยากมีชีวิตรอดปลอดภัยในบ้านหลังนี้ ก็กรุณาระวังคำพูด แล้วก็หัดสงบปากสงบคำบ้าง" เสียงดุดันจนน่ายำเกรงทำให้มารีน่ารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอีก และดูเหมือนตอนนี้เซบาสเตียนจะเริ่มควบคุมอารมณ์โกรธไม่ไหว
ชายหนุ่มยังคงจ้องมองใบหน้าสวยของมารีน่าอยู่เช่นนั้น ในใจอยากจะถามเรื่องที่หญิงสาวรู้จักกับโทมัสได้อย่างไร แต่เกรงว่าเธอจะสงสัยว่าตนกับโทมัสเป็นอะไรกัน จึงเลือกที่จะยังไม่ถามออกไป
"ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ป่านนี้แม่บ้านคงจัดชุดใหม่ไว้ให้เธอแล้ว จากนั้นค่อยลงมาทานมื้อเช้า"
"แต่วันนี้ฉันต้องไปมหาวิทยาลัย"
"เธอเรียนจะจบแล้ว ที่มหาวิทยาลัยไม่มีอะไรให้ทำมากนักหรอก แต่ถ้าเธอจำเป็นต้องไปจริงๆ เดี๋ยวฉันจะโทรไปลาอาจารย์ให้"
"จะบ้าเหรอ คุณจะมายุ่งอะไรกับชีวิตฉัน?"
"เธอทำให้ฉันรู้สึกชอบเธอมากเกินไป ฉันถึงได้พาเธอมาอยู่ที่นี่ ให้อุ้มบุญลูกของฉัน เธอควรจะภูมิใจแล้วก็ดีใจที่จะได้เงินก้อนโตไปด้วย"
"คุณจับฉันมาขังไว้ที่นี่ต่างหาก" เธอเถียง
"มารี วันหนึ่งเธอจะเข้าใจ แล้วเธอก็จะรู้สึกพึงพอใจมาก ที่ตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียว ที่มีโอกาสได้มาอยู่ในบ้านหลังนี้"
สิ้นสุดคำพูดของเซบาสเตียน ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากประตูบ้าน หล่อนกำลังเดินตรงเข้ามา ทำให้มารีน่ายกยิ้มมุมปากเย้ยหยันคำพูดของชายหนุ่มเมื่อครู่
"คุณเซบขา...มิเชลมาแล้วค่ะ" หล่อนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของมาเฟียหนุ่ม พร้อมกับถือวิสาสะวางมือลงบนหัวไหล่แกร่งของเขา และยังโน้มใบหน้าลงมาจนปลายจมูกเล็กแนบชิดกับใบหน้าคมคายของเซบาสเตียนด้วย
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วสะบัดมือของหล่อนออก พร้อมกับหันไปเผชิญหน้ากับนางบำเรอเจ้าประจำ
"มาทำไม?" มิเชลชักสีหน้าไม่พอใจที่ถูกถามเช่นนั้น และยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นมารีน่ายืนอยู่ด้วย ที่สำคัญหญิงสาวยังสวมชุดนอน ท่าทางเหมือนเพิ่งจะตื่นนอนอยู่ภายในบ้านของเซบาสเตียน
"อย่าบอกนะคะ ว่าเมื่อคืนคุณนอนกกอยู่กับนังผู้หญิงโสเภณีคนนี้?" หล่อนถามน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ
เซบาสเตียนจึงหันไปมองมารีน่าที่ยืนทำหน้าบึ้งอยู่ เธอไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าโสเภณี ชายหนุ่มเงียบไม่ตอบอะไร แล้วจึงเดินมารั้งข้อมือเล็กของมารีน่าเพื่อพาเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอน
"เจมส์! พามิเชลออกไปจากบ้าน ฉันไม่ได้ให้หล่อนมา" เขาตะโกนบอกบอดี้การ์ดเสียงดัง ขณะที่มารีน่าพยายามดึงมือของชายหนุ่มออกจากข้อมือเล็กของตนเอง
"นี่มันอะไรกันคะ คุณเซบคะ กลับมาคุยกับมิเชลก่อนสิคะ!" มิเชลตะโกนตามหลัง
หล่อนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง อยากกรีดร้องออกมาแทบบ้าเมื่อโดนหักหน้า แต่ก็จำเป็นต้องเก็บอารมณ์และทำได้เพียงกระทืบเท้าปึงปัง พร้อมกับสะบัดหน้าเดินออกจากบ้านของเซบาสเตียนไปก่อนจะโดนบอดี้การ์ดลากตัวออกไป