“ตามพี่มา พี่มีอะไรให้แพรดู” ชายหนุ่มคว้ากระเป๋าใบเล็กของหญิงสาวที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาถือไว้ ก่อนที่จะคว้ามืออีกข้างของเธอมาไว้ในอุ้งมือของเขา แล้วจึงจูงมือเธอเดินมายังห้องพักสุดหรูที่เขาเตรียมไว้ให้เธอและเขา
“นี่มันอะไรกันคะ ทำไมต้องเอาของแพรมาไว้ในห้องพี่เต” แพรวาโวยวายขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าต้องอยู่ห้องเดียวกับเขา
“ก็เวลาพี่มันน้อยพี่ก็ต้องทำให้แพรประทับใจพี่ให้เร็วที่สุดสิ” ชายหนุ่มรีบแก้ตัวทันที ที่เขาทำเช่นนี้เพราะเขามีแผนการเผด็จศึกเธออยู่
“แต่ทำแบบนี้เหมือนพี่เตไม่ให้เกียรติแพรเลยนะ” แพรวากล่าวจริงจัง
“พี่ขอโทษพี่ไม่คิดอย่างนั้นหรอก พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ล่วงเกินแพร...ถ้าไม่จำเป็น” เตมินทร์เอ่ยด้วยความกะล่อน
“พี่เตนี่มันไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ นะ แพรถามจริงเถอะ ผู้หญิงในสต๊อกของพี่เตไปไหนหมด ทำไมยังมาตามน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างแพรล่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าชายหนุ่ม คนเจ้าชู้อย่างเขาเธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาจะเปลี่ยนไป
“พี่ไม่เคยมีใคร ตั้งแต่วันที่แพรยกเลิกงานแต่งกับพี่ พี่ก็ไม่เคยมีใครอีกเลย” เตมินทร์กล่าวจริงจัง จนหญิงสาวอยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง
“พี่เตไม่ต้องมาโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดีหรอก พอถึงเวลาหนึ่งเดือน พี่เตกับแพรเราก็ต้องกลายเป็นคนอื่นกันอยู่ดี” แพรวาเอ่ยสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึก เธอไม่เคยลืมเขา แต่เธอก็ไม่อยากจะกลับไปเจ็บปวดอีกแล้ว
“เลิกพูดเรื่องเครียดๆ ดีกว่า ออกไปข้างนอกไปดูสิ่งที่พี่อยากให้แพรเห็นดีกว่า” กล่าวจบเขาก็จูงมือหญิงสาวเดินออกไปตามชายหาด
ทั้งสองเดินจูงมือกันเดินไปเรื่อยๆ ลมทะเลที่พัดผ่านมาทำให้หญิงสาวรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ทั้งสองเดินมาสักพักก่อนที่จะมาหยุดที่บ้านริมทะเลหลังงาม ซึ่งหญิงสาวมองด้วยความตกตะลึง เพราะนี่มันคือแบบเรือนหอที่เธอและเขาร่วมกันเลือก ตั้งแต่วันที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่เธอก็เคยได้ยินมาว่าหลังจากที่งานแต่งงานล้มเลิกไป เตมินทร์ก็ตัดสินใจทุบบ้านหลังนั้นทิ้ง เธอไม่เข้าใจว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ทำไมบ้านหลังนี้ถึงอยู่ที่นี่คะ” แพรวาเอ่ยถามทั้งที่สายตายังจดจ้องอยู่ที่บ้านหลังงามที่เธอเป็นคนเลือกแบบเอง
“เพราะพี่ลืมแพรไม่ได้ พี่เลยเลือกที่จะสร้างเรือนหอรอแพรอยู่ที่นี่” เตมินทร์เอ่ยตามจริง