บทที่ 1 เดินออกจากความเจ็บปวด 2

1551 Words
พวกเขาจึงไม่เคยเอ่ยถึงแม่ของเธอ สั่งห้ามแม้แต่คนรับใช้ไม่ปริปาก เธอเองก็ไม่เคยถามเพราะรู้ดี อาศัยเพียงความทรงจำจางๆ ในวัยเด็กที่พ่อพูดถึงแม่ให้ฟังตอนกล่อมเธอนอน ท่านเล่าเรื่องของแม่และชีวิตรักของพวกท่านให้เธอฟังอย่างเปี่ยมสุข กับคำพูดเหยียดหยามผู้เป็นแม่ที่กรอกหูเธออยู่เสมอของแม่ใหญ่ จึงพอปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า พ่อเธอพบรักกับแม่ในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผ่านการรู้จักกับแม่ใหญ่ ‘แวววรรณ’ ซึ่งก็แอบรักพ่อเธออยู่ในขณะนั้น เมื่อคนหนึ่งถูกรัก อีกคนถูกเมิน ความริษยาจึงเกิดขึ้นกลายเป็นการชิงรักหักสวาทรักระหว่างสองหญิงกับหนึ่งชาย โชคร้ายที่แม่เธอเป็นเพียงนักศึกษาจนๆ ไม่มีอะไรคู่ควรกับผู้เป็นพ่อ ต่างจากแวววรรณที่มีครอบครัวคอยเกื้อหนุน ซ้ำผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามให้ลูกๆ ของพวกเขารักใคร่แต่งงานกัน พ่อของเธอถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับแม่ใหญ่อย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางเขี่ยแม่ของเธอให้พ้นทาง แต่ใครจะคาดว่าตอนนั้นความเสียใจที่ถูกชายคนรักปฏิเสธ จะทำให้แวววรรณพลาดพลั้งมีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนจนเกิดตั้งท้องขึ้นมา ผู้ใหญ่ฝ่ายหล่อนปิดบังเรื่องนี้กับปู่และพ่อของเธอ จนกระทั่งแต่งงานไปแล้วและเรื่องแดง เพราะท้องที่โตขึ้นเรื่อยๆ จนปิดไม่มิดของหล่อน ปู่ของเธอโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จำต้องรักษาหน้าและชื่อของวงศ์ตระกูล จึงทำได้แค่ให้พ่อเธอรับสมอ้างเป็นพ่อของเด็กในท้องแวววรรณ เพื่อไม่ให้เรื่องงามหน้าที่ผู้คนพากันหัวเราะเยาะลับหลังโผล่ขึ้นมาประจานต่อหน้าต่อตาพวกท่าน ‘เจษณะ’ จึงถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะทายาทของตระกูลสิรพลากร แต่ปากคนไม่ใช่สิ่งที่ใครจะห้ามปรามได้ แม้จะใช้แผ่นฟ้ามาปกปิดก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องฉาวๆ ในแวดวงสังคมชั้นสูงยิ่งเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสอดรู้สนใจ ไม่นานความจริงนี้ก็ถูกลือสะบัดไปทั่ว เพราะความหมางเมินของพ่อเธอที่มีต่อภรรยาเอก แต่กลับรักใคร่อยู่กินกับคนรักเก่าอย่างเปิดเผย จนมีโซ่ทองคล้องใจเป็นเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักซึ่งก็คือ ลัลล์นลิน ตัวเธอเอง คุณปู่ทราบเรื่องที่พ่อไม่ยอมเลิกรากับแม่ ซ้ำยังแอบเลี้ยงดูอย่างลับๆ หลังจากนั้นเจ็ดปีให้หลัง ในวันที่พ่ออุ้มเธอกลับมาที่บ้าน บอกกับท่านด้วยหัวใจที่แตกสลายว่าผู้หญิงที่พ่อรักตายจากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงลูกสาวให้เป็นตัวแทนความรัก ท่านก้มหัววิงวอนขอให้คุณปู่รับเธอ เจ้าสัวนพนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ท่านเพียงแค่เดินไปดูหน้าเธอ พอเห็นเธอในวัยทารกที่มองท่านตาแป๋ว ท่านก็ทิ้งไม้เท้าในมือแล้วอุ้มเธอขึ้นมา ไกวแขนเบาๆ ขณะกล่อมเธอที่ยิ้มแป้น แล้วรอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา และเธอก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลสิรพลากร เธอคิดว่าที่คุณปู่ยอมรับเธอคงเพราะรู้สึกผิดกับลูกชาย เรื่องที่กีดกันความรักและบังคับให้พ่อแต่งงานกับผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกของชายอื่นอยู่ และบางทีคุณปู่คงทราบเรื่องที่พ่อแม่เธอแอบอยู่กินกันลับๆ นานแล้ว แต่แค่ไม่เปิดโปงเท่านั้นเอง คุณปู่เลี้ยงหลานชายกับหลานสาวเคียงคู่กัน แต่ความรักใคร่เอ็นดูถูกถ่ายเทมาที่เธอมากกว่า ส่วนเจษณะได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดและเย็นชา ตั้งแต่แรกความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจษณะจึงเป็นเหมือนเส้นขนาน เป็นกระจกที่สะท้อนกันและกัน อยู่ใกล้กัน มองเห็นกันอย่างชัดเจน แต่ไม่อาจบรรจบสมหวังได้ เธอกับเขาก็เหมือนคู่แข่งกันมาตั้งแต่เกิด ฟ้าลิขิตให้พวกเธอเป็นเหมือนไฟกับน้ำ เป็นแสงกับเงา เป็นเหมือนแม่เหล็กคนละขั้วที่ผลักไสกัน ไม่มีวันเข้ากันได้ มีแต่ต้องแก่งแย่งและชิงชังกันไปตลอดกาล… ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ในวันที่เธออายุครบ 18 ปี ‘อมลฉวี’ คนรักของเขาได้รับบาดเจ็บเพราะน้ำมือเธอที่พลั้งเผลอผลักหล่อนตกบันได เจษณะก็ยิ่งเกลียดเธอ! แค้นเธอ! อมลฉวีเสียขาทั้งสองข้างไป แต่เธอเสียความเชื่อใจจากทุกคน เธอสูญเสียแม้กระทั่งหัวใจของเจษณะ และที่ร้ายไปกว่านั้นเธอถูกเขาแก้แค้นด้วยการพรากความบริสุทธิ์ไปในคืนนั้นอย่างโหดร้าย เป็นค่ำคืนที่มีแต่ความเจ็บปวด รุนแรง และบ้าคลั่ง... สี่ปีเต็มที่เธอกล้ำกลืน กัดฟันทนต่อการกลั่นแกล้งรังแกของทุกคนในบ้านหลังนี้โดยที่คุณปู่ไม่เคยรู้เรื่องเลย ท่านอายุมากแล้ว เธอไม่กล้าเสี่ยงทำให้ท่านเป็นทุกข์จนอาการกำเริบ เธอยอมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ต่ำต้อยยิ่งกว่าวัชพืช ไม่ตอบโต้ ไม่มีตัวตนในสายตาของใคร โดยเฉพาะ...เจษณะ! ไม่ต้องพูดถึงแม่ใหญ่ที่ชิงชังลูกเมียน้อยเช่นเธอเข้าไส้ และยิ่งไม่ต้องนึกถึงอมลฉวีที่ถูกเธอทำให้ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ หล่อนจะไม่แสนชิงชังเธอได้อย่างไร? อมลฉวีกลั่นแกล้งเธอหนักกว่าใครๆ ทั้งที่เธอเป็นเจ้านายตัวจริงของหล่อน ใครในบ้านไม่รู้บ้างว่าเธอนามสกุลสิรพลากร ส่วนเจษณะคือคนของศรีกิจจาซึ่งเป็นนามสกุลของแม่เขา เธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ทั้งคฤหาสน์และบริษัทใหญ่โตควรเป็นของเธอที่เป็นคนใน ไม่ใช่คนนอกอย่างเขา... แต่ใครจะสนล่ะ? เธอก็มีแค่ชื่อ ไม่มีอำนาจใดๆ ในคฤหาสน์หลังนี้รวมถึงบริษัท SPK อินดัสทรีด้วย สิทธิ์ขาดทั้งหมดตกอยู่ในมือของเจษณะ นับแต่วันที่ปู่ของเธอนอนป่วยจนออกจากห้องไม่ได้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว สำหรับพวกเขาเจษณะต่างหากที่เป็นเจ้านายตัวจริง! ใครๆ ก็รู้ว่าอีกไม่นานคฤหาสน์หลังงาม รวมถึงบริษัทจะถูกเปลี่ยนมือเจ้าของเดิมเป็น ‘ศรีกิจจา’ คนที่เขาเกลียดต่อให้จะรู้สึกสงสารเห็นใจแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าออกหน้าช่วยเหลือ ฉะนั้นอมลฉวีจะต้องยำเกรงหรือเกรงใจอะไรเธอล่ะ หล่อนเป็นคนโปรดของเจษณะ หล่อนจึงใช้ความอ่อนโยนเอาใจและให้ท้ายของเขาเป็นเครื่องมือในการเหยียบย่ำทำร้ายหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า… ความรักของเขาที่มีต่ออมลฉวีเป็นเหมือนเข็มนับพันที่ทิ่มแทงใจเธอ เหมือนคมมีดที่เชือดเฉือนให้ขาดวิ่นแหว่งเว้า เหมือนกระสุนปืนที่ยิงทะลุร่างเธอจนพรุนไปทั้งตัว หัวใจของเธอไม่เหลือชิ้นดี... ไม่มีที่ว่างเหลือพอให้ไม่เจ็บปวด... มันเจ็บช้ำจน ‘ด้านชา’ เธออดทนมาสี่ปีแล้ว... พยายามมาสี่ปีเต็ม... ทุ่มเททำเพื่อเขาทุกอย่าง แทบจะควักหัวใจตัวเองออกมากองแทบเท้าให้เขาเหยียบเล่น เพื่อแสดงความจริงใจ แต่ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่... เธออยู่เพื่อคนอื่นมานานเกินพอแล้ว ลัลล์นลินค้นพบว่านอกจากคุณปู่ก็ไม่มีใครที่คู่ควรให้เธอฝากชีวิตไว้ในมือเลยสักคน เธอจะเลิกทำเพื่อเขา แล้วหันกลับมารักตัวเอง ทำเพื่อตัวเองบ้าง วันนี้เธอจึงลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะ ‘เลิก’ รักผู้ชายไร้หัวใจคนนั้น! อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร? ต่อให้เลิกรักไม่ได้ในวันนี้ ก็ยังมีวันพรุ่งนี้... มะรืนนี้... หนึ่งอาทิตย์... หนึ่งเดือน... หนึ่งปี... หรือสองปี สามปี สิบปีข้างหน้า... ลัลล์นลินไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองจะลืมเจษณะไม่ได้! ขอแค่เธอพยายาม... เธอรู้ว่าที่ทำอยู่นั้นทำใจยาก มันเหมือนเธอกำลังหันคมมีดบาดตัวเอง เจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายตัวเองซ้ำนั่นละ การรักใครสักคนตั้งแต่จำความได้ กินเวลายาวนานเกินทศวรรษ ความทรงจำทั้งร้ายทั้งดีได้ผูกพันหัวใจเธอกับเขาไว้อย่างแน่นเหนียว ตัดก็ตัดไม่ขาด อย่างไรก็ยังคงหลงเหลือเยื่อใย... ไม่ใช่เรื่องที่จู่ๆ พูดปุ๊บก็เลิกปั๊บได้ แต่เธอจะค่อยๆ ถอนใจเอาออกมา จะไม่เอาตัวและหัวใจไปผูกติดกับเขาอีก เขาไม่ได้รักเธอ มันไม่มีประโยชน์ที่จะทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นต่อไป หากเขาไม่รักก็คือไม่รัก ต่อให้เพียรพยายามทำเพื่อเขามากแค่ไหน ควักหัวใจออกมากองอยู่แทบเท้า ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้ แต่กลับบางคน... เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เขาก็ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย ผู้ชายคนนั้นก็เป็นอย่างนั้น... เจษณะไม่เคยรักเธอ ในเศษเสี้ยวของหัวใจไม่เคยมีเธออยู่ในนั้น สิ่งเดียวที่มีคือ... ความเย็นชาและเกลียดชัง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD