บทที่4 รองรับอารมณ์คนป่วย

1734 Words
“ออกไปได้แล้ว ฉันเบื่อขี้หน้าเธอ” การถูกฟรานเซียสเอ่ยปากไล่ตรงๆ ซึ่งหน้ายังไม่เจ็บปวดใจและอับอายมากเท่ากับที่เพียงรักยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองตกเป็นทาสกามอารมณ์ของคนป่วย หากไม่ใช่เป็นเพราะพี่ชาย เธอคงไม่ยอมทำถึงขนาดนี้ รอยยิ้มมุมปากเยาะเย้ยแก่แผ่นหลังบอบบางวิ่งออกจากห้องทั้งน้ำตา ฟรานเซียสสถบคำหยาบคายตัวเองมาขณะก้มลงมองแท่งเนื้อยังแข็งขึง ไม่อ่อนลงง่ายๆ “ไอ้บ้านี้! ให้เธออมแล้วทำไมไม่อ่อนตัว” อาการร้อนวูบวาบทั่วตัว เจ้าพ่อหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมต้องการกลืนกินผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเพียงรัก ชายหนุ่มระงับความต้องห้ามของตัวเอง ห้ามสนใจน้องสาวของคาเฟรเด็ดขาด พี่ชายเลวยังไง คนเป็นน้องก็ต้องร่านแพศยาไม่ต่างกัน “อ๊ะ เพียงรัก” มือคู่ใหญ่จับกอบกุมแท่งเนื้อร้อนรูดขึ้นรูดลง พลางส่งเสียงร้องครางกระเส่า เขาเผลอเรียกชื่อผู้หญิงเด็กกะโปโลอย่างไม่รู้ตัว น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งพวยออกมาเปรอะเปื้อนกระจกหน้าภายในห้องน้ำ ใบหน้าคมสันยกยิ้มร้ายกาจอัดเต็มด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อครอบครัวคาเฟร “ในเมื่อมันแย่งคนรักของฉันไป ฉันจะเหยียบย่ำน้องสาวที่มันรักนักรักหนาจนแทบไม่มีชิ้นดี มันจะได้เจ็บมากกว่าที่ฉันเจ็บ ต้องกลายสภาพขาเดี้ยงแบบนี้ พวกมันต้องรับผิดชอบ ไม่เว้นแต่ผู้หญิงที่ชื่อเพียงรัก!” ส่วนคนกล่าวหารีบวิ่งหน้าตาตื่นตระหนกเข้ามาล็อคห้องพักส่วนตัว ก้อนเนื้ออกข้างซ้ายเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ผู้ช่วยพยาบาลสาวตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ไม่หาย หาใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็นอวัยวะทางเพศของผู้ชาย แต่การกระทำคำสั่งเอาแต่ใจต่างหากทำให้เพียงรักหวาดกลัว แค่วันแรกเหยียบก้าวเข้ามาก็เจอฤทธิ์เดชของคนป่วยอาละวาดจนหัวใจดวงน้อยหนีกระเจิง ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก ทว่าเพียงรักพยายามอดทน นี่คือเหตุผลขอพ่อแม่ก่อนมาดูแลฟรานเซียส ‘เรื่องที่คุณฟรานเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่คาเฟร เพียงอยากดูแลเขาเพื่อชดใช้ความผิด คุณพ่อคุณแม่ให้เพียงไปเถอะนะคะ’ คุณหญิงจีน่าพยักหน้ารับ หันมองทางสามีเรื่องการตัดสินใจของลูกสาวคนเดียว ‘แม่ตามใจเพียงรักเสมอ ไม่ว่าลูกเพียงคิดหรืออยากทำอะไร แม่ก็ไม่ขัด คุณล่ะคะ จะยอมอนุญาตให้ลูกไปไหม?’ หันมาถามสามีข้างกาย ซึ่งคุณท่านรามานก็หนักใจเกี่ยวกับลูกชายคนโตไม่แพ้กัน ‘เรื่องนี้ครอบครัวของเราผิดเต็มๆ ยังดีนะที่พ่อของคุณฟรานเซียสคิดจะไม่เอาเรื่อง เขาตามใจลูกชายจัดการดีกว่า สายเลือดเจ้าพ่อมาเฟียอันตรายพวกนั้น พ่อเองเป็นห่วง ไม่อยากให้ครอบครัวของเราเกี่ยวดองกันสักเท่าไหร่ แต่เพราะครั้งนี้คาเฟรทำผิดจริง ถ้าหากว่าสิ่งที่ลูกเพียงทำเพื่อชดใช้แทนพี่ชาย พ่อก็คงไม่กล้าขัด’ เพียงรักมีใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริงเมื่อได้รับคำอนุญาตจากพ่อแม่ ลุกขึ้นมายกมือไหว้กราบพวกท่านที่เมตตาด้วยความรัก ‘ขอบคุณนะคะคุณพ่อคุณแม่ เพียงดูแลตัวเองได้ค่ะ หากเจอพี่คาเฟรอยู่ที่ไหน ช่วยบอกเพียงด้วยค่ะ เพียงอยากโน้มน้าวให้พี่ยอมรับ สารภาพผิดทำกับคุณฟราน’ ‘เดี๋ยวแม่จะแวะไปเยี่ยมลูกเพียงนะ มาดามแพรวาคงคิดถึงแม่อยู่แล้ว’ คุณหญิงจีน่าและมาดามแพรวาเป็นเพื่อนกันในแวววงสังคม อาจเป็นเพราะเชื้อสายคนไทย พูดคุยกันถูกคอทำให้คบหาระยะยาวแตกต่างจากกลุ่มเพื่อนคนอื่น และมาดามแพรวาเอ็นดูเพียงรักเหมือนลูกหลานเอามากๆ ‘ค่ะ เพียงรักคุณพ่อคุณแม่มากที่สุดเลยค่ะ’ เพียงรักไม่ลืมว่าเธอมาที่นี่ก็เพื่ออะไร หญิงสาวสลัดภาพวาบหวามออก ก่อนเดินลงมาเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าจัดแจงข้าวของเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าที่ว่าง ถึงเธอเป็นลูกคุณหนู แต่ก็ไม่ใช่คนเรื่องมาก ขอแค่มีที่ซุกหัวนอน หญิงสาวก็อยู่ได้หมด กว่าใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่เสร็จ เพียงรักก้าวเดินลงมาจากชั้นข้างบนบ้าน บังเอิญเจอประมุขใหญ่กลับมาบ้านโดยบังเอิญ สีหน้าเคร่งขรึมช่างถอดแบบกับลูกชายคนเล็กราวกับกระไรดี หญิงสาวไม่ลืมยกมือไหว้ทักทายท่าน “หนูเพียงรักค่ะ จะมาเป็นคนดูแลลูกชายของท่าน” “ฉันรู้จากมาดามแล้วว่าเป็นหนู ฉันฝากดูแลฟรานเซียสด้วยละ กี่คนแล้วที่ถูกลูกชายไล่ออก ฉันหวังว่าหนูคงอดทนกับพายุกราดเกรี้ยวของฟรานเซียส ยิ่งถูกคนรักบอกเลิกเพราะรับไม่ได้กับสภาพแบบนั้นยิ่งสับสนหนัก ฉันหวังว่าหนูเพียงคงจะไม่เป็นเหมือนพยาบาลคนก่อนหรอก” ฟิลิปมองหญิงสาวรุ่นลูกเหมือนการฝากความหวังทั้งหมด ปกติฟรานเซียสไม่ใช่นิสัยโกรธพาลอาละวาดใส่คนอื่นโดยไร้เหตุผล อาจเป็นเพราะอุบัติเหตุทำเอาชื่อเสียงแชมป์รถบิ๊กไบค์สมัยสี่ปีซ้อนถูกโค่นล้ม จากคนชอบความเร็วเป็นงานอดิเรก ขาพิการ เสมือนไม่มีใครต้องการ สิ่งเดียวเปลี่ยนแปลงเขาได้ซึ่งก็คือกำลังใจและความรักจากครอบครัว “เพียงไม่รับปากว่าจะดูแลคุณฟรานจนกว่าขาสองข้างจะกลับมาเดินได้ปกติ แต่เพียงพยายามดูแลเขาเท่าที่เพียงจะทำไหวค่ะคุณฟิลิป” “อาฝากด้วยนะหนูเพียง” “ค่ะ ถ้าลูกชายคุณอาไม่อาละวาดหนักจนเพียงทนไม่ไหวเสียก่อน” ถึงแม้เป็นเรื่องขบขันไม่ให้บรรยากาศเคร่งเครียด ทว่าฟิลิปสัมผัสน้ำเสียงหวานขมขื่นเล็กน้อย จากนั้นเพียงรักเอ่ยขอตัวจากบิดาของคนป่วย เข้ามาหาป้ามาลัยยังห้องครัวเพื่อต้องการถามถึงอาหารของฟรานเซียส “ใกล้ถึงอาหารแล้วเหรอคะป้ามาลัย งั้นเดี๋ยวเพียงยกไปให้เขาเองค่ะ” “จะดีหรือคะคุณเพียง ป้ากลัวว่า...” ป้ามาลัยไม่กล้าเอ่ยต่อ หญิงวัยกลางคนเห็นพวกพยาบาลสาวคนก่อนก็อาสาช่วยยกถาดอาหารดูแลคนป่วยพิการ ดันถูกตวาดไล่ ทำลายข้าวของเสียหายทุกครั้ง “เพียงชินแล้วค่ะกับการดูแลคนป่วย อย่าลืมสิค่ะว่าเพียงคุ้นชินกับพวกเขา พวกเขาแค่ต้องการคนดูแลด้วยความเป็นห่วง เพียงรับมืออารมณ์เขาไหวแน่นอนค่ะ” “งั้นป้าฝากคุณเพียงด้วยนะคะ” เท่าที่ดูพยาบาลสาวแต่ละคนมาดูแลนั้น ป้ามาลัยเหมือนอยากให้เพียงรักเป็นคนสุดท้ายคอยรักษานายใหญ่นานที่สุด หญิงสาวจิตใจอ่อนโยน มีใบหน้ายิ้มแย้ม รับมือปัญหาได้ทุกสถานการณ์ เธอคอยภาวนาว่านายใหญ่อย่ารุนแรงกับผู้หญิงคนนี้นักเลย ก๊อก ก๊อก เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมฝีเท้าน้ำหนักมั่นคง คนป่วยพิการจมปลักกับอดีตเมื่อรู้มีคนมาโดยไม่ได้รับอนุญาตรีบพับเก็บรูปคนรักเก่าทันที หันหน้ามาตะคอกอย่างไม่ชอบใจเพียงเห็นหน้าคนที่เขาเกลียด “ที่บ้านไม่ได้เรียนมารยาทหรือไง เข้าห้องคนอื่นไม่ได้รับอนุญาต” “ที่บ้านเรียนค่ะ มารยาท แต่ว่าเพียงจะใช้เฉพาะคนที่รู้จักคำว่ามารยาทตอบกลับเท่านั้น” “เธอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ!” “ใครจะกล้าล่ะคะ ขืนเพียงยอกย้อนเจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มยิ่งใหญ่คับฟ้า มีหวังเพียงคงไม่มีหน้ามายืนคุยกับคุณฟรานตรงนี้หรอกค่ะ” คนป่วยขาพิการจ้องมองน้องสาวของไอ้คาเฟรปากดีไม่แพ้พี่ชายเธอ ริมฝีปากแดงระเรื่อนั้น ฟรานเซียสนึกอยากลิ้มลองชิมว่าปากเธอจะหวานล้ำเทียบเท่ากับใบหน้าหวานหรือเปล่า “แล้วเธอมามีอะไรไม่ทราบ!” คนตัวโตยังไม่ลดละหาเรื่องระรานหญิงสาวตรงหน้า คิดหรือเพียงรักจะหลบตาหวาดกลัว แค่เชิดหน้าสู้กลับ “ถึงเวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว เพียงก็เลยช่วยป้ามาลัยยกอาหารมาค่ะ กินข้าวแล้วก็จะได้กินยา” ถาดข้าวต้มพร้อมน้ำเปล่าและยาหลังอาหารที่หมอจัดแจงไว้ให้วางตรงโต๊ะว่างบริเวณตรงหน้าเจ้าพ่อหนุ่ม เพียงรักคอยบริการเพื่อเอาใจเขา “เธอเห็นฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง ถึงต้องจัดแจงให้ทุกเรื่อง!” น้ำเสียงเข้มทุ้มแอบปนไม่พอใจอยู่นิดๆ “เพียงแค่อยากดูแลคุณฟราน เพียงเป็นผู้ช่วยพยาบาลต้องคอยดูแลคนป่วย กินเถอะค่ะ หรือว่าคุณไม่อยากหาย กลับมาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียฟรานเซียสเหมือนเดิม” คนตัวโตนิ่งเงียบ เพียงรักหันมาตักข้าวต้มร้อนๆ เป่าลมเพื่อให้อุณหภูมิเย็นลดก่อนจ่อริมฝีปากหนา “กินสักคำเถอะนะคะ” “ไม่ต้องมายุ่ง!” มือหนาปัดช้อนข้าวต้มยังอุ่นๆ ออกจากตัวเขาเต็มแรงทำเอาข้าวต้มหกใส่เสื้อของเพียงรัก ฟรานเซียสใจกระตุกวูบ เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ยังปากแข็งเลือกเอ่ยถ้อยคำไม่ถนอมรักษาน้ำใจคนฟังสักนิด “หูหนวกหรือไง ฉันบอกว่าไม่กินก็คือไม่กิน เธอไม่ต้องมายุ่ง!” “เพียงก็ไม่อยากยุ่งกับคุณฟรานนักหรอกค่ะ ถ้าไม่ใช่หน้าที่ที่เพียงต้องทำ ถ้าคุณไม่กิน เพียงก็จะเอาอาหารพวกนี้ไปให้เจ้าด็อกกี้กิน หมายังรู้เรื่องกว่าคนอีก!” “นี่เธอกล้าด่าฉันเหรอ อย่าลืมว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไร” “เพียงไม่ลืมหรอกค่ะ ถ้าขาของคุณหายดีเมื่อไหร่ เพียงก็จะออกไปจากที่นี่สักที” “อย่าลืมคำพูดของตัวเองแล้วกัน เมื่อถึงวันนั้นเธอเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกไปจากที่นี่และไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกตลอดกาล เพียงรัก!” “เพียงก็ไม่มีวันลืมแน่นอนค่ะคุณฟรานเซียส!” พูดจบเพียงรักขออนุญาตออกจากห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่ ประจวบเหมาะมาดามแพรวาผ่านมาเห็นสภาพของหญิงสาวรุ่นลูกว่ามันเกิดอะไรขึ้น “ฟรานเซียส ลูกรังแกอะไรหนูเพียงรัก?” “ผม...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD