ตอนที่ 2 ชะตาลิขิต

1189 Words
ม่านชิงเฉียวลืมตาขึ้นในความมืด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จากความทรงจำของเว่ยเยว่ซินอย่างเงียบงัน หญิงงามผู้นี้...เกิดมาพร้อมรูปโฉมเหนือสามัญชน หากแต่ชะตากลับอาภัพยิ่งนัก หัวใจของนางแตกสลายเพราะชายคนรักถูกสังหารเพียงเพราะพยายามยับยั้งการแต่งงานทางการเมืองของนาง ม่านชิงเฉียวทอดถอนใจให้กับโชคชะตาอันน่าเวทนาของอีกฝ่าย ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามา แม้ภายในห้องจะไร้แสงตะเกียง แต่เขาก็มองเห็นว่านางลืมตาตื่นอยู่ ฝีเท้าของเขาชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าฉายแววโล่งอก เขายกมือโบกให้สาวใช้ออกไป ก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง "รู้สึกอย่างไรบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นดุจฤดูใบไม้ผลิ ม่านชิงเฉียวปรายตามองอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไร้กลิ่นอายสังหารเฉกเช่นในวันก่อน บัดนี้เขาสวมอาภรณ์หรูหราสีคราม มวยผมรวบขึ้นสูง ครอบด้วยกวานหยก ใบหน้าแลดูหล่อเหลาและสง่างามดุจจันทร์ท่ามกลางสายลมอ่อน นางกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "มึนหัวเล็กน้อยเพคะ" นางมิได้โกหก...นางกำลังมึนหัวจริง ๆ เพราะตะลึงในความหล่อเหลาของอีกฝ่าย กู้เซียวอวิ้นชะงักไปครู่ เว่ยเยว่ซินไม่เคยเอ่ยถึงความรู้สึกของตนมาก่อน คำพูดที่เขาคุ้นเคยจากปากของนางมีเพียงว่า "ไม่เป็นไร" และเพราะครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย...เขาจึงยิ่งแปลกใจ "ให้หมอหลวงตรวจดูอาการสักหน่อยเถอะ...ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาจุดตะเกียง แล้วไปตามหมอหลวงจ้าวด้วย" สิ้นคำรับสั่ง สาวใช้หลายคนก็เข้ามาราวกับกระแสลมสงบ จัดแจงทุกอย่างอย่างรวดเร็ว แสงตะเกียงถูกจุดจนสว่างไสวไปทั่วห้อง เว่ยเยว่ซินยังคงนิ่งเงียบ กู้เซียวอวิ้นเหลือบมองใบหน้าของนาง ก่อนจะเอ่ยขึ้น "หิวหรือไม่" เว่ยเยว่ซินส่ายหน้าเบา ๆ "ไม่เพคะ" โชคดีที่โดยปกตินางก็พูดน้อยอยู่แล้ว เขาจึงมิได้ระแคะระคาย ไม่นาน หมอหลวงจ้าวก็มาถึง กู้เซียวอวิ้นให้ตรวจดูอาการของพระชายาทันที เว่ยเยว่ซินปรายตามองหมอหลวงนิ่ง ๆ พลางขบคิดในใจ จ้าวลี่อิง ศิษย์สำนักหมื่นพิษที่เคยลาออกเมื่อหลายปีก่อน เหตุผลในวันนั้น...นางไม่ใส่ใจนัก สำนักหมื่นพิษไม่เคยรั้งใคร จ้าวลี่อิงจับชีพจรเงียบ ๆ อยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "เรียนท่านอ๋อง อาการของพระชายานับว่าปลอดภัยแล้ว ขอเพียงพักฟื้นและบำรุงร่างกายให้ดี ก็จะหายเป็นปกติ" "ต้องใช้เวลานานแค่ไหน" "ภายในหนึ่งถึงสองเดือนเพคะ ส่วนโอสถที่ต้องใช้ ข้าจะกลับไปเขียนแจกแจงมาให้ภายหลัง" ใบหน้าของกู้เซียวอวิ้นผ่อนคลายลงหลายส่วน เขากล่าว "ขอบคุณท่านหมอจ้าว...ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว เด็ก ๆ ส่งท่านหมอหลวงกลับ" ทันใดนั้น บุรุษชราผู้หนึ่งก็เข้ามาพร้อมถุงเงินใบใหญ่ โค้งรับเชิญหมอหลวงออกไป "ล้วนเป็นหน้าที่ของข้า...ข้าขอตัวเพคะ" หลังหมอหลวงจ้าวออกไป สาวใช้ก็ถอยตาม เหลือเพียงกู้เซียวอวิ้นกับเว่ยเยว่ซินสองคนในห้อง เขาเอ่ยในความเงียบ "ข้าต้องขออภัยเจ้า ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้" เว่ยเยว่ซินหลับตาลง ท่าทางเหนื่อยล้า "หม่อมฉันเข้าใจเพคะ...หาได้โทษพระองค์" เห็นสีหน้าของนางยังดูอิดโรย กู้เซียวอวิ้นจึงลุกขึ้นกล่าวเบา ๆ "พระชายาพักผ่อนเถิด วันหลังข้าจะมาเยี่ยมใหม่" เขาผงกศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบงัน เว่ยเยว่ซินถอนหายใจอย่างโล่งอกในทันที นางยังไม่ได้ทบทวนเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจน ชินอ๋องผู้นี้ฉลาดเฉียบคม หากนางเผลอแม้แต่น้อย...อาจถูกรู้ทัน ตอนนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการพักฟื้น และประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ ... ค่ำคืนนั้น ม่านชิงเฉียวเริ่มมองเห็นเศษเสี้ยวของบางสิ่งในความทรงจำของเว่ยเยว่ซิน ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ม่านชิงเฉียวยังเด็กน้อยราวเจ็ดหรือแปดขวบ นางเคยติดตามบิดาเข้าวังแคว้นต้าเว่ยเพื่อรักษาคนตามราชโองการของฮ่องเต้ขณะรอบิดาในอุทยาน นางได้พบเด็กหญิงงดงามคนหนึ่งในชุดองค์หญิง งามเกินผู้คน งามประหนึ่งเทพธิดา ม่านชิงเฉียวผู้หลงใหลในความงาม เดินเข้าไปทักทันที นางกำนัลที่ติดตามแม้นสงสัย แต่เห็นว่าอีกฝ่ายมีนางกำนัลจากตำหนักฮ่องเต้เคียงข้าง จึงไม่กล้าเอ่ยขัด "เจ้าชื่ออะไร ข้าชื่อม่านชิงเฉียว" เด็กหญิงองค์หญิงเงยหน้าขึ้น มองตอบด้วยแววตาใสซื่อ "ข้า...เว่ยเยว่ซิน" ม่านชิงเฉียวมองอีกฝ่ายนิ่งครู่ ก่อนขมวดคิ้ว "เจ้าป่วยหรือ?" "หมอหลวงบอกว่าเลือดของข้าไม่ดี...คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ม่านชิงเฉียวยิ้ม คล้ายไม่ถือสา นางคว้าแขนของเว่ยเยว่ซินขึ้นมาจับชีพจร หลังจากนั้นล้วงขวดโอสถจากในเสื้อออกมายื่นให้ "เอานี่ไปกิน ภายในหนึ่งเดือน โรคที่เจ้าว่า...จะหายเป็นปลิดทิ้ง" เว่ยเยว่ซินเบิกตากว้าง ไม่อาจเชื่อหูตัวเอง นางกำนัลข้างกายรีบจะคว้าของออกจากมือองค์หญิง แต่ถูกนางกำนัลข้างกายม่านชิงเฉียวเอ่ยห้ามทันที "โอสถขวดนั้น แม้เงินหมื่นตำลึงก็หาซื้อไม่ได้! องค์หญิงรีบกล่าวขอบคุณคุณหนูท่านนี้เถิดเพคะ นางคือบุตรสาวของเจ้าสำนักหมื่นพิษ!" เสียงเงียบลงในทันใด นางกำนัลของเว่ยเยว่ซินคุกเข่าโดยไม่รีรอ แม้แต่องค์หญิงเว่ยเยว่ซินเอง ก็ยังนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะย่อคารวะ ส่งยิ้มเจิดจ้า "ขอบคุณท่านมาก" ม่านชิงเฉียวถึงกับตะลึงในรอยยิ้มงดงามนั้น นางหลงใหลความงาม...และรอยยิ้มนี้ งามจนนางอดไม่ได้ที่จะมอบโอสถบำรุงอีกขวด และโอสถนั้น...อาจเป็นต้นเหตุให้องค์หญิงเว่ยเยว่ซินแข็งแรงจนมีชะตาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้น ม่านชิงเฉียวรู้สึกอบอุ่นใจ ที่ความดีเพียงเล็กน้อยของตน อาจเคยเปลี่ยนชะตาคนคนหนึ่ง หากนี่คือชะตาลิขิต การได้ครอบครองร่างนี้ ก็เท่ากับได้รับโอกาสชดใช้และสานต่อในเวลาเดียวกัน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังอดเสียดายคนงามไม่ได้ ...ถึงอีกฝ่ายไม่อยากมีชีวิตอยู่ ส่วนตัวนางยังไม่อยากตาย และยังมีแค้นต้องสะสาง นี่คือข้อตกลงที่ลงตัวที่สุดแล้ว ม่านชิงเฉียวก้าวออกมายืนกลางลานเรือน เงยหน้ามองฟ้า ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ "เว่ยเยว่ซิน...เพื่อตอบแทนร่างอันงดงามนี้ของเจ้า ข้าจะทำตามสัญญาให้ดีที่สุด ให้เจ้าอยู่บนสวรรค์ต้องตะลึงไปเลย" ...และต่อจากนี้ ข้าคือ...เว่ยเยว่ซิน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD