ตอนที่ 1 ข้ารับไว้เอง

944 Words
หญิงสาวอรชรผู้หนึ่งกระโจนลงจากหน้าผาท่ามกลางเสียงกระบี่แว่วแผ่วเป็นการหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่มีทางรอด หัวหน้าคนชุดดำตะโกนลั่น “ตามลงไป! ตายก็ต้องเห็นศพ!” แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ก็มีเงาคนกระซิบเร่งข้างหู “หัวหน้า! มีกำลังคนจำนวนมากกำลังมาทางนี้!” สีหน้าของหัวหน้าคนชุดดำเปลี่ยนไปทันที เขาตัดสินใจรวดเร็ว “ล่าถอย!” แม้จะรอดจากการตามล่า แต่บาดแผลทั้งภายนอกและภายในก็สาหัสเกินเยียวยา ม่านชิงเฉียว หญิงสาวผู้นั้น... สิ้นลมหายใจกลางเงาไม้และเสียงสายลม ขณะที่วิญญาณหลุดออกจากร่าง นางนั่งเหม่ออยู่กลางความว่างเปล่า ไม่มีความเจ็บ ไม่มีเสียงรอบข้าง ราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนือทุกสิ่ง ทันใดนั้น...เสียงกระบี่ดังแว่วขึ้นจากด้านบนหน้าผา พร้อมเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังกึกก้อง “ข้ายอมตาย!!” ร่างของหญิงงามในชุดสูงศักดิ์พุ่งตกลงมากระแทกสายน้ำเป็นฟองวงกว้าง ไม่นาน...มีหญิงอีกคนกระโจนตามลงมาเสียงร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความสิ้นหวัง นางคือบ่าวรับใช้คนสนิท ม่านชิงเฉียวลุกขึ้น มองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยความสนใจ ดวงตาสะท้อนภาพสตรีผู้หนึ่งยอมแตกละเอียดดั่งหยกแต่ไม่ยอมเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ ภายในใจของม่านชิงเฉียวเกิดความนับถือขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่กี่อึดใจ บุรุษในชุดครามใบหน้าองอาจคมสันปรากฏตัวเหนือยอดมาพร้อมด้วยองครักษ์หลายสิบพวกเขากระโดดตามลงมาไม่ลังเล ม่านชิงเฉียวเบิกตากว้าง “นั่น…ไม่ใช่ชินอ๋องหรือ?” สายตาของนางจับจ้องเขาในทันที ชินอ๋องกระโจนลงน้ำ ไม่นานก็พบร่างหญิงงามที่หมดสติไร้สีเลือด ชายหนุ่มอุ้มนางขึ้นจากสายน้ำ ทันทีก็หยิบโอสถขวดหนึ่งขึ้นมาดันยาลงคอหญิงงามทันที ม่านชิงเฉียวเบิกตา “โอสถหยดโลหิตมังกร!!” โอสถล้ำค่าราคาเกินหมื่นตำลึง ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตไม่เกินช่วงลมหายใจสุดท้าย นางจำได้...เพราะเป็นคนปรุงด้วยมือตนเอง เขาถึงกลับใช้ยานี้เพื่อหญิงผู้นั้น แม้องครักษ์จะดูลังเลจะห้าม แต่เพียงเห็นสายตาของเขา ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใด ม่านชิงเฉียวเหลือบไปมองวิญญาณของสตรีทั้งสอง หนึ่งในนั้นคือหญิงผู้หมดลมหายใจในอ้อมแขนของอ๋อง แม้เป็นเพียงเงาโปร่งแสงแต่งดงามเหนือโลกา นางไม่ร้องไห้ ไม่หวาดกลัว แต่กลับมองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยดวงตาว่างเปล่า ร่างของเธอเริ่มปรากฏสีเลือด แต่นางกลับดูเศร้ายิ่งขึ้น ม่านชิงเฉียวขมวดคิ้ว “เหตุใดเจ้าไม่กลับเข้าร่างเล่า?” หญิงผู้นั้นหันมาชำเลือง ดวงตาคู่งดงามเรียบเฉยแต่ชวนให้หนาวสะท้าน “เดิมข้าไม่อยากอยู่ต่อ...แต่ก็ไม่สามารถตายด้วยมือตนเองได้ ตอนนี้สมปรารถนาแล้ว ไยต้องกลับเข้าร่างอีก” ม่านชิงเฉียวสะดุดดวงตาประกายวาว “ท่านคือองค์หญิงเว่ยเยว่ซิน แห่งแคว้นต้าเว่ย...ใช่หรือไม่!?” อีกฝ่ายคลี่ยิ้มเย้ยหยัน “ใช่...หากมิใช่เพราะแคว้น ข้าคงไม่ยอมแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ใด ๆ” บ่าวรับใช้ร้องไห้สะอื้น “องค์หญิง ได้โปรดกลับเข้าร่างเถิดเจ้าค่ะ…” เว่ยเยว่ซินชำเลืองมองหญิงที่จงรักภักดีก่อนเอ่ยเบา ๆ “ชีวิตข้าสิ้นแล้ว เจ้าเองก็รู้ดี เหม่ยหลิง สิ่งใดที่ข้าตอบแทนเจ้าไม่ได้ในชาตินี้...ขอให้รอในชาติหน้าเถิด” นางหันมาหาม่านชิงเฉียว กล่าวเรียบ ๆ “หากเจ้าต้องการร่างของข้า...ก็รับไปเถอะ” ม่านชิงเฉียวมองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดตอบแทน?” เว่ยเยว่ซินหลับตาขบคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เพียงทำหน้าที่เดิมของข้า เป็นพระชายาให้ดีและ...อย่าให้สงครามระหว่างแคว้นปะทุขึ้นอีก” ม่านชิงเฉียวพยักหน้า “ข้ารับปาก” ภาระนั้นไม่หนักหนาเกินไปและชินอ๋องรูปงาม...นางไม่รังเกียจ เว่ยเยว่ซินยิ้ม“ขอบคุณ...เช่นนั้น ลองเข้าร่างของข้าดูเถิด” ในขณะนั้นเอง ลำแสงสีทองอ่อนพุ่งลงจากฟากฟ้า เว่ยเยว่ซินกับเหม่ยหลิงเดินเข้าสู่แสงนั้น รอยยิ้มของนางยังคงอบอุ่น ก่อนร่างโปร่งแสงทั้งสองจะจางหายไป ม่านชิงเฉียวมองตามอย่างตกตะลึง “เหตุใด...ข้าจึงไม่เคยได้รับแสงแบบนี้บ้าง” ยังไม่ทันคิดให้ชัดเจนพลังบางอย่างก็พุ่งเข้ามาฉุดกระชากสติของนางดับวูบลง บ่าวรับใช้ที่อยู่ไม่ไกล เหลียวมองพลางเอ่ยอย่างไม่พอใจ “องค์หญิงจะดีหรือเจ้าคะ...เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นใคร อาจเป็นคนต่ำต้อย แล้วจะทำให้พระองค์แปดเปื้อนได้” เว่ยเยว่ซิน ที่ร่างนี้บัดนี้เป็นของม่านชิงเฉียว เพียงยิ้มเย้ยหยันเบา ๆ “สิ่งใดต้องแปดเปื้อนกันเล่า...สำหรับข้า ทุกอย่างล้วนไร้ความหมายแล้ว” ผู้คนรอบกายไม่รู้เลยว่าอะไรเกิดขึ้น ชินอ๋องกู้เซียวอวิ้นยังคงกอดหญิงในอ้อมแขนไว้แน่น สายตาเขามีแววกังวล โอสถทิพย์กล่าวว่าช่วยดึงวิญญาณได้ ทว่าหากช้าเกินไป...ก็ไร้ผล องค์รักษ์เข้ามา “ท่านอ๋อง...พบร่างของสาวใช้แล้วขอรับ ที่นี่...ยังมีร่างหญิงอีกคนเช่นกัน” ชินอ๋องไม่หันไป เพียงสั่งเสียงเรียบ “หาคนจัดการพิธีให้เรียบร้อย” เมื่อเห็นชีพจรของเว่ยเยว่ซินกลับคืน เขาจึงถอนหายใจโล่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD