หนึ่งชั่วโมงต่อมา
หญิงสาวของหญิงสาวที่นั่งหลังเหยียดตรง ผมยาวสลวยนั้นถูกปล่อยละแผ่นหลัง สองมือเรียวเล็กที่วางประสานกันตรงตักถูกเจ้าของบีบแน่น แม้ภายนอกนั้นท่าทางของเธอจะดูสงบและเยือกเย็นแต่ในใจกลับร้อนรุ่มด้วยความเป็นห่วงบิดาอย่างที่สุด
“มาตรงเวลาดีนี่...”
เสียงทุ้มนุ่มของเจ้าของร่างสูงที่นั่งตรงข้ามเธอนั้นมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตนเองด้วยกริยาที่แสนจะเอื่อยเฉื่อยขัดตาคนมองยิ่งนัก
“คุณพ่อฉันอยู่ไหน?!”
“ใจเย็นก่อนสิ...คุณเรวัฒน์เขาก็อยู่ที่นี่แหละ ยังไม่ได้ไปไหน” ชายหนุ่มตอบ ดวงตาคมตวัดไปมองเจ้าของหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามที่บัดนี้เมื่อได้ฟังคำตอบของเขา แผ่นหลังบางของเจ้าหล่อนที่นั่งหลังเหยียดตรงนั้นดูเหมือนจะตรงยิ่งขึ้น และไหนจะดวงตาคมหวานที่กระตุกใจเขาตั้งแต่แรกเห็นที่บัดนี้มันวาวเรืองไม่ต่างจากแม่เสือนั่นอีก
แต่ก็อย่างว่า...ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนผู้หญิงตรงหน้าก็ดูสวยและถูกใจเขาไปทุกอิริยาบถ
อ้อ! แต่คงจะต้องเว้นช่วงที่เธอกวนโมโหเขาเอาไว้!
“อย่ามาโยกโย้นะคุณอโณทัย!” เรณุกาแหวออกมา ใบหน้าเรียวหวานนั้นแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด “มีอะไรก็รีบๆพูดมา แล้วปล่อยตัวพ่อฉันได้แล้ว!”
ปากดีจริงๆ! หวังว่าต่อไปนี้เธอจะเก่งได้ตลอดนะ!
คิดอย่างนั้นแล้วมุมปากของชายหนุ่มก็กระตุกเป็นรอยยิ้มทันที ก่อนที่จะยืดกายที่สูงร้อยแปดสิบห้าของตนเองขึ้น ดวงตาคมของเขาปรายตามองใบหน้าเรียวของผู้หญิงปากดีตรงหน้าก่อนจะเดินตรงไปยังประตูเป็นเชิงนำทางเธอ
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามมาสิ...”
เรณุกาผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วเดินตามอโณทัยออกไปทันที หญิงสาวมองแผ่นหลังหนาของคนเดินนำที่ก้าวเท้ายาวๆของตัวเองโดยที่ไม่มีทีท่าจะลดความเร็วนั้นลงเลยทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าของตนเองให้เร็วยิ่งขึ้น
ระหว่างที่กำลังเดินหญิงสาวมองไปรอบๆตัวอย่างจับสังเกตไปด้วย บ้านของผู้ชายที่กำลังเดินนำเธอนั้นเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่สามชั้น ที่คาดว่าน่าจะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าสิบห้อง นี่ขนาดว่าบ้านเธอกว้างแล้วนะ! เกิดให้เธอมาเดินที่บ้านหลังนี้คนเดียว เธออาจจะหลงก็เป็นได้! ดวงตาเรียวของหญิงสาวกวาดมองสองข้างทางที่เดินผ่านก็เห็นว่าผนังนั้นถูกทาด้วยสีพื้นขาวครีมให้ความรู้สึกสบายตา...แต่มันคงไม่สามารถดับความร้อนรุ่มในใจของเธอลงได้
นี่เขาจะพาเธอเดินไปถึงไหนกัน!
คิดพลางคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าร่างสูงของคนที่เดินนำมานั้นไม่มีทีท่าจะหยุดสักที ทั้งที่เธอก็เห็นเขาเดินมาจนจะสุดอีกด้านของบ้านหลังนี้แล้ว
“โอ๊ย!”
กำลังคิดอะไรเพลินๆมารู้ตัวอีกทีเธอก็เดินมาชนแผงอกของคนที่จู่ๆก็หยุดเดินแล้วหันหน้ามาทางเธอ ทำเอาเธอที่เดินตามมาชนเขาไปเต็มๆ จนหญิงสาวแทบกระเด็นถ้าไม่ได้มือหนาของคนที่เธอชนโอบรัดเอาไว้
“นี่เดินภาษาอะไรของคุณ จะหยุดก็ไม่บอกไม่กล่าว”
หญิงสาวพูด แล้วสะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย ซึ่งชายหนุ่มก็ยอมปล่อยเธออย่างง่ายดาย
อโณทัยไม่พูดอะไร ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับลูกบิดของประตูก่อนจะเปิดออกพร้อมๆกับพูดบอกหญิงสาวว่า
“เข้ามาสิ พ่อคุณอยู่ในห้องนี้”
“พ่อคะ!”
เรณุกาที่เห็นสภาพของบิดาชัดตาถึงกับตะโกนร้องเรียกท่านเสียงดัง สิ่งที่เธอเห็นคือร่างของบิดาที่ถูกมัดทั้งมือและเท้านั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ตั้งตรงกลางห้องนั้น แล้วมีผู้ชายที่เธอเคยเห็นหน้าเขาครั้งสองครั้งยืนคุมไม่ห่าง ถัดไปมุมห้องก็มีร่างของผู้ชายอีกสองคนยืนอยู่ด้วยท่าทางนิ่งเฉย
หญิงสาวเห็นใบหน้าบวมปูดที่มีร่องรอยของการโดนทำร้ายมากกว่าเมื่อคืนของบิดาแล้วอยากจะร้องไห้ ขาเรียวทำท่าจะเดินตรงดิ่งเข้าไปหาท่านแต่เธอกลับถูกผู้ชายที่ยืนซ้อนหลังเธอจับไว้ก่อน
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้คนทุเรศ! นายทำกับคุณพ่อของฉันแบบนี้ได้ยังไง!”
แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะได้รับผลตอบแทนเป็นตรงกันข้าม เพราะมือแกร่งปานคีมเหล็กของเขากลับบีบต้นแขนเธอแรงยิ่งขึ้น
“ไม่ปล่อย! เรายังตกลงกันไม่รู้เรื่อง เรณุกา”
อโณทัยพูดเสียงเย็นพลางรัดหญิงสาวแน่นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ไอ้บ้า! ไอ้คนทุเรศ! ทำร้ายแม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้!
หญิงสาวตะโกนก้องพลางดิ้นรนให้หลุดจากมือของผู้ชายทุเรศคนนี้
“หุบปากของเธอเรณุกา! ที่พ่อเธอเป็นแบบนี้ทำไมไม่คิดว่ามันเป็นเพราะเธอ...คนอย่างฉันไม่ชอบให้ใครมาท้าทาย เมื่อเธอกล้า...ฉันก็ต้องทำให้เธอรู้ว่าคนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น!”
ดูเหมือนคำพูดของชายหนุ่มจะได้ผล เพราะหญิงสาวของเรณุกาหยุดดิ้นทันที ดวงตาเรียวสวยของเธอเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อหันไปมองบิดาที่อยู่ตรงมุมห้องนั้น
นายเรวัฒน์ที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่ร่างของเขาจะดิ้นจนตกเก้าอี้เหมือนตุ๊กตาเก่าๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจจะนำตัวเขาขึ้นมา
“ปล่อยยัยเรไปเถอะคุณไทม์...ฆ่าผมแทนเถอะ อย่าทำอะไรลูกสาวผมเลย”
ร่างของชายสูงวัยที่กระเสือกกระสนดิ้นรนไปหาอโณทัยและลูกสาวของเขาที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันนั้นทำให้คนมองได้แต่สะเทือนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงคนเดียวในห้องนั้น
“ไม่นะคะพ่อ ไม่นะ! พ่ออย่าพูดอย่างนั้นนะคะ! นายปล่อยพ่อฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้เลว!”