พลอยสวยกับพลอยใส
ตอนที่ 1
พลอยสวยกับพลอยใส
ฝนตกอีกแล้ว ตกแทบทุกวัน
ทำอย่างไรได้ในเมื่อช่วงนี้เป็นฤดูฝน ฤดูที่ชุ่มฉ่ำเพราะมีหยาดน้ำลงมาชโลมพื้นดิน ให้ต้นไม้เติบโตเขียวขจีแม่น้ำลำธารเอ่อล้นเหมือนเติมเต็มชีวิต เหล่าเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนคงจะชอบฤดูฝนเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่ทุกอาชีพที่จะชอบหรอกนะ
โดยเฉพาะแม่ค้าแม่ขายทั่วไป
รวมถึงไรเดอร์อย่าง น้ำผึ้ง ปัทกุล หญิงสาววัยยี่สิบสามที่เพิ่งจะเรียนจบได้ไม่นาน และอยู่ระหว่างการรอเรียกสัมภาษณ์งานจากหลายที่ แต่ในแต่ละวันที่ต้องกินต้องใช้ ลำพังรายได้จากอาชีพขายผลไม้ของแม่เพียงคนเดียว ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายของครอบครัวในแต่ละวัน เธอกับน้องชายเลยวิ่งงานเป็นไรเดอร์ เพราะที่บ้านมีรถมอเตอร์ไซค์อยู่สองคันแล้ว
อาชีพที่สะดวก ไม่ผูกมัดนานและได้เงินเร็ว
แต่ในหน้าฝนแบบนี้ อาจจะทำงานลำบากหน่อย
ไม่เป็นไร เพราะวันที่ฝนตกแบบนี้แหละผู้คนส่วนใหญ่ถึงต้องพึ่งพาอาชีพไรเดอร์อย่างพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ส่งของทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นของสำคัญมาก หรือสำคัญน้อย ซึ่งในตอนฝนตกแบบนี้ออเดอร์ที่สั่งเยอะที่สุด คืออาหารพร้อมทาน
“ส่งอาหารค่า”
น้ำผึ้ง บอกคนในบ้านสีขาวหลังใหญ่ในซอยยี่สิบเจ็ด เป็นสถานที่ ที่เธอมาส่งอาหารและพัสดุบ่อยมากๆ จนคุ้นชินกับเจ้าหมาโกลเด้นสีน้ำตาลสองตัว และแม่บ้านที่ชื่อ ป้าว่าน เป็นอย่างดี ส่วนเจ้าของบ้านนั้น เธอไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง
ทว่าคนที่เธอเจอบ่อยๆ ทุกครั้งเวลามาส่งของ
คือ เด็กหญิงแฝดอายุราวสี่ขวบสองคน
“พี่คนสวยคะ ป้าว่านบอกให้ยกอาหารเข้ามานั่งรอข้างในก่อน เดี๋ยวป้าว่านจะจ่ายเงินให้”
เด็กหญิงคนหนึ่งบอกเธอ ขณะยืนเกาะรั้วบ้านอยู่ด้านใน โดยเด็กหญิงอีกคนถือร่มให้ และมองเธออย่างลิงโลด
“หือ พี่เข้าไปได้เหรอจ้ะพลอยสวย”
ตามกฎของไรเดอร์จะไม่มีการล่วงล้ำเข้าไปในบ้านลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด แต่เมื่อเป็นความต้องการของลูกค้าและอีกอย่างบ้านหลังนี้ มักให้เธอเข้ามานั่งรอด้านในเป็นประจำ จนเธอสนิทกับเด็กหญิงทั้งสองเป็นอย่างดี
พลอยสวย กับ พลอยใส
“เข้ามาได้ค่ะ วันนี้พลอยใสวาดรูปด้วย อยากให้พี่ผึ้งมาดู เข้ามาดูนะคะ จะได้ดูตอนหนูกินข้าวอวดด้วย”
เด็กหญิงพลอยใส ปราดเข้ามาใกล้ขณะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและยื่นกระดาษที่พับไว้ออกมาให้ดู หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็น รูปผู้ชายในชุดกราวน์สีขาวที่วาดอย่างง่ายๆยืนคู่กับกระถางดอกไม้สีเหลือง
“อันนี้ คุณพ่อขากับต้นดอกโบตั๋นค่ะ”
คุณพ่อขา ....
คงเป็นพ่อของเด็กหญิงทั้งสองซินะ
ได้ข่าวว่าเป็นคุณหมออะไรสักอย่างนี่แหละ ...
คงจะทำแต่งานรักษาคนไข้ จนแทบจะไม่มีเวลาสนใจลูกสาวฝาแฝดทั้งสอง เพราะเห็นอยู่กับแม่บ้านตลอด และส่วนใหญ่จะสั่งอาหารด้านนอกมาให้เด็กทานอยู่เป็นประจำ
“เข้ามาข้างในก่อนจ้ะหนูผึ้ง เดี๋ยวจะเปียกซะก่อน”
ป้าว่าน ตะโกนบอกมาจากในตัวบ้าน ด้วยเธอมาส่งของที่นี่บ่อยจนสนิทกับทุกคนในบ้าน และเด็กหญิงทั้งสองชอบเวลาที่เธอมาที่บ้านมาก หากรู้ว่าเธอจะมาส่งของทั้งคู่จะออกมายืนรอที่หน้าประตูเป็นประจำ
“นั่นซิ เข้าไปข้างในก่อนค่ะเดี๋ยวรูปวาดเปียก”
“พี่ผึ้งรู้ไหมคะว่าอาทิตย์หน้านี้พลอยใสจะได้เข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว” พลอยสวย เป็นคนเอ่ยบอกเสียงระรื่น นั่นทำให้หญิงสาวตาลุกวาว
“จริงเหรอคะ? เก่งจังเลย”
ไม่แน่ใจว่าผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสอง ดูแลในลักษณะใด จังทำให้เด็กทั้งคู่ไม่ได้เรียนพร้อมกัน พลอยสวยนั้นเข้าอนุบาลหนึ่งไปก่อนแล้ว ส่วนพลอยใสจะมีครูมาสอนส่วนตัวอยู่ที่บ้าน
เด็กอายุสี่ขวบถึงกับต้องมีครูส่วนตัวเลยเชียว
อย่างว่าแหละ ลูกคนรวยนี่นา...
“แต่พลอยใสไม่อยากไปเลยค่ะ”
พลอยใส ปราดมาใกล้และทำเสียงละห้อย น้ำผึ้งเองไม่ได้ทราบรายละเอียดของเด็กหญิงมาก แต่ป้าว่านเคยเล่าให้ฟังว่าเด็กหญิงพลอยใสนั้น หลังจากแม่เสียจะไม่ค่อยพูดกับใคร แม้แต่กับพ่อของตัวเองก็ตาม
แต่ตั้งแต่เธอรู้จักกับเด็กทั้งคู่
เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเด็กทั้งสองพูดเก่งมาก
“ไปซิคะพลอยใส รู้ไหมที่โรงเรียนน่ะมีเรื่องราวสนุกๆ รออยู่เยอะแยะเลยนะคะ”
น้ำผึ้งเอ่ยบอกเด็กหญิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ถ้าคุณครูไม่ได้ใจดีเหมือนพี่น้ำผึ้งละคะ?”
เด็กน้อย ยังคงเป็นกังวล จนเธอต้องขยับมาใกล้และหยิบกระดาษในมือมาดูอีกครั้ง
“ใจดีซิคะ คุณครูน้องพลอยใสต้องใจดีแน่ๆ และคุณครูจะต้องสอนวิธีวาดรูปคุณพ่อขาและดอกโบตั๋นให้ออกมาสวยมากๆ แน่ๆ เลย”
เด็กแฝดทั้งสองจ้องมอง พี่สาวไรเดอร์คนสวยที่วาดดอกไม้หลายชนิดลงบนกระดาษอย่างเพลิดเพลิน แม้ทางป้าว่านจะวางเงินค่าอาหารไว้ให้แล้ว แต่ทั้งคู่กับรบเร้าให้เธออยู่ต่อ ด้วยไม่อยากจะให้กลับง่ายๆในตอนนี้
.
.
ทันทีที่เบนท์ลีย์สีดำคันหรูจอดหน้าบ้าน ร่างสูงโปร่งสมส่วนของชายหนุ่มก็ก้าวลงจากรถ หัวคิ้วหนาบนใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาดของ นกุล ณรงค์โชติ ขมวดย่นเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีกล่องอาหารสีเขียวของไรเดอร์จอดชิดประตูรั้วทางเข้าหน้าบ้าน
และสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้น เมื่อเห็นภาพตรงห้องโถงของตัวบ้าน ลูกสาวแฝดแสนน่ารักของเขาทั้งสองกำลังพูดคุยและวาดรูปกับผู้หญิงในชุดไรเดอร์สีเขียวด้วยสีหน้าสดใสและส่งเสียงพูดคุยกังวานใส
แม้ พลอยสวย ลูกสาวคนเล็กจะร่าเริงน่ารักแต่ก็ไม่เคยพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุขแบบนี้ ส่วน พลอยใส แฝดผู้พี่นั้น นานมากแล้วที่ นกุล แทบจะไม่เคยได้ยินเสียงพูดเต็มประโยคจากลูกสาวคนนี้
แล้วภาพตรงหน้าคืออะไร
เด็กทั้งสองพูดคุยแถมยังร้องเพลงได้ด้วย
นั่นเป็นภาพที่ทำให้เขาตกตะลึง จนต้องยืนนิ่งอยู่นานไม่ขยับเขยื้อน ด้วยเกรงว่าภาพและเสียงที่เห็นตรงหน้าเหล่านั้นจะอันตรธานหายไป
“คุณพ่อขาๆ คุณพ่อขากลับมาแล้ว”
เด็กหญิงพลอยสวย เอ่ยเสียงหวานเมื่อเห็นร่างสูงของคุณพ่อยืนอยู่ตรงหน้าประตู นั่นทำให้เด็กแฝดผู้พี่ชะงักและหยุดการวาดรูปไว้เพียงแค่นั้น
ขณะที่ น้ำผึ้ง รีบหันไปหยิบเงินที่วางไว้ตรงมุมโต๊ะแล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ทางป้าว่านที่เป็นแม่บ้านจะบอกให้เธอเข้ามานั่งรอด้านใน แต่การถือวิสาสะมาวาดรูปให้กับเด็กทั้งสอง อาจทำให้ผู้ปกครองของเด็กๆไม่พอใจก็ได้
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยบอกอย่างเร่งรีบ เมื่อยัดเงินใส่กระเป๋าแล้วเหยียดกายลุกขึ้น ทว่าเมื่อเงยหน้ามองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสุภาพแล้ว หัวใจของเธอก็แทบจะหยุดเต้น ดวงตาสีนิลเข้มดั่งรัตติกาลบนใบหน้าหล่อเหลานั้นมองจ้องเธออยู่แล้ว คิ้วหนาของเขาเลิกสูงเล็กน้อยเป็นเชิงตั้งคำถาม
และประหลาดใจไม่ต่างกัน
แต่เธอต่างหากที่ควรจะตกใจ
แต่เมื่อประมวลเหตุการณ์ในสมองอย่างรวดเร็ว
ทำให้เธอตระหนักได้ว่า คนตรงหน้าคือคุณพ่อขาของเด็กหญิงแฝดที่แสนน่ารักสองคนนี้ และยังเป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่โตที่เธอมาส่งอาหารอยู่เป็นประจำ
ว่าแต่คนในบ้านและลูกสาวแฝดของเขาจะรู้ไหมว่า
คนตรงหน้า คือ....
“คะ...คุณ คุณหมอมาเฟีย!!”
*************