ตอนที่ 2
คุณหมอมาเฟีย!!
หัวใจของเธอชาวาบ เหมือนกำลังโดนต้องมนต์
เมื่อสบตากับดวงตาคู่สีนิลเข้มตรงหน้า ที่จ้องมองมาราวกับจะตรึงร่างเธอไว้ให้อยู่กับที่
เหตุการณ์คืนนั้นวนเวียนเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง
เปรี้ยง!!
เสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ด้านนอก ช่างเหมือนดั่งคืนนั้น คืนที่ฝนตกหนัก และเธอเผชิญหน้ากับชายผู้นี้ ที่มีใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาดราวเทพบุตร ทว่าแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น แม้ตอนนี้แสงไฟจากโคมไฟหรูด้านบนจะสาดส่องลงมากระทบกับเสี้ยวหน้าด้านข้างให้เห็นความงดงามอันวิจิตรนั้น
ทว่าเธอก็จำเหตุการณ์ในคืนนั้นเมื่อเดือนก่อนได้ดี
หนี!! เธอบอกตัวเอง
หมับ!!
“จะไปไหน?”
มือหนาจับข้อมือขาวของเธอไว้แน่น เมื่อร่างบางลุกขึ้นและกำลังวิ่งผ่านหน้าเขาออกไปยังประตูด้านหน้า แรงบีบมหาศาลนั้นเหมือนตรึงให้ร่างเธอหยุดอยู่แค่นั้น หญิงสาวหันกลับมาสบตากับดวงตาคมเข้มที่มองเธออยู่แล้วอย่างลุ่มลึก
“ปะ..ปล่อยหนูค่ะ หนูแค่มาส่งอาหาร แล้วป้าว่านให้เข้ามานั่งรอรับเงินในนี้ หนูไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น”
คิ้วหนาของ หมอมาเฟีย ย่นเข้าหากัน ขณะมองเธออย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้เธออยู่ในชุดกางเกงยีนส์ทะมัดทะแมงสวมเสื้อไรเดอร์สีเขียวทับไว้ ผมดำขลับยาวสลวยถูกรวบไว้หลวมๆด้านหลัง เผยให้เห็นกรอบหน้ารูปไข่งดงาม ทว่าดวงตากลมโตคู่สีน้ำตาลสุกสกาวนั้นก็ดูตื่นตระหนกยิ่งนัก
“งั้นเหรอ?”
มุมปากของชายหนุ่มยกโค้งขึ้น ดวงตาคู่สีนิลหรี่แคบลง
“ค่ะ คะ..คือหนูไม่ทราบจริงๆว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณหมอ ถ้าทราบหนูคงไม่มาส่ง หนูไม่คิดจะวุ่นวายอะไร ..ปล่อยหนูเถอะนะคะ หนูสัญญาว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่หนูเห็นในคืนนั้น หนูจะไม่บอกใครเลย”
สัญญาว่าจะไม่มีใครรู้ เพราะเธอได้เหยียบมันจมดินแล้ว
ในเหตุการณ์คืนนั้น ที่เธอไม่สมควรจะเข้าไปเห็น
และเป็นความผิดพลาดที่ทำให้เธอหวาดระแวงมาตลอด
“คืนนั้น?”
ใบหน้าหล่อเหลาครุ่นคิดเล็กน้อย คล้ายกำลังทบทวนอะไรบางอย่าง ทว่าอุ้งมือหนากลับบีบแรงขึ้น
“จะ...เจ็บ ปล่อยหนู”
“คุณพ่อขา ปล่อยพี่คนสวยค่ะ!”
เสียงปรามของลูกสาวคนเล็ก ทำให้ นกุล ชะงักเล็กน้อย ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดในยิ่งกว่าก็คือ พลอยใส ลูกสาวคนโตปรี่มาแกะมือของเขาออกจากแม่สาวไรเดอร์ และเงยจ้องเขาเขม็งอย่างเอาเรื่อง
“ปล่อยพี่สาว!”
ถ้อยคำที่เหมือนทองคำจากปากของ แฝดผู้พี่นั้นทำให้ นกุล รีบปล่อยมือจากข้อมือขาวทันที ด้วยนานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินคำพูดที่เอ่ยกับเขาจากปากของลูกสาวคนนี้
และจู่ๆ ลูกสาวคนโตกลับพูดกับเขา
แม้จะเอ่ยด้วยกิริยาใดก็ตาม แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มตื่นเต้นจนแทบไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดรอบด้าน
ตึกๆๆ
รู้ตัวอีกที ร่างบางของสาวไรเดอร์ก็วิ่งออกจากบ้านไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านหน้า และสตาร์ทออกไปอย่างรวดเร็ว และเหมือนเขาขยับขาไม่ได้ ด้วยแฝดหญิงทั้งสองจับข้อมือตรึงเขาไว้คนละข้าง
“คุณพ่อขา เสียมารยาทกับพี่สาวนะคะ”
เด็กหญิงพลอยสวย แฝดผู้น้องเอียงคอเล็กน้อยเอ่ยปรามเขาเป็นเชิงตำหนิ ขณะที่ พลอยใส แฝดผู้พี่ส่ายหน้าไปมาคล้ายไม่พอใจเขาเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อเห็นว่ามอเตอร์ไซค์ของพี่ไรเดอร์คนสวยวิ่งออกไปลับตาจากรั้วบ้านแล้ว จึงยอมปล่อยมือจากผู้เป็นพ่อแต่โดยดี
“พ่อยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงสอง ขณะย่อกายลงนั่ง “พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไว้ใจคนแปลกหน้า” ชายหนุ่มหันไปมอง ป้าว่าน เป็นเชิงตำหนิเล็กน้อย
“คือหนูน้ำผึ้งมาส่งของที่นี่บ่อยๆค่ะ และคุณท่านเป็นคนบอกเองว่าถ้ามาให้เข้ามานั่งรอด้านในได้เลย แต่วันนี้คุณท่านติดสวดมนต์อยู่ด้านบน ว่านเลยเป็นคนหยิบเงินและจัดการให้ค่ะ และช่วงนี้พี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนูก็ยังไม่มีด้วย เห็นคุณหนูอยากจะวาดรูป คุณท่านเลยไม่ได้ว่าอะไรค่ะ”
คุณท่านที่ ป้าว่าน เอ่ยถึง คือ นวลอนงค์ แม่ของเขาเอง
“ฉันจะคุยกับแม่เอง ทั้งเรื่องนี้และเรื่องของพี่เลี้ยงด้วย ป้าพาคุณหนูทานข้าวให้เสร็จจะได้พาเข้านอน”
ชายหนุ่มเหยียดกายลุกขึ้นก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ขณะครุ่นคิดถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ของลูกสาวแฝดทั้งสอง ด้วยที่ผ่านนั้นพี่เลี้ยงที่รับมาเพื่อดูแลลูกนั้นไม่มีใครอยู่นานกว่าสองสัปดาห์ได้เลยสักคนเดียว
สงสัยเขาจะต้องลงมือหาเองแล้วกระมัง
.
.
ปรื้นๆๆ
กึก!! ตึกๆๆ
“ตกซะแรงเลย”
น้ำผึ้ง พยายามเลียบรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ไปหลบใต้สะพาน ความจริงอยากจะพยายามดันทุรังขับไปให้ถึงบ้าน แต่ด้วยฝนที่กระหน่ำลงมาอีกรอบทำให้เธอยังไม่อยากจะเสี่ยงขับฝ่าไปตอนนี้ แม้จะค่อนข้างโล่งใจที่ขับพ้นจากบ้านสีขาวหลังใหญ่นั้นได้
ทว่าเธอก็ยังรู้สึกระแวง จนต้องหันหลังกลับมาอีกครั้ง
ซู่ๆๆ ซ่าๆๆ
มีเพียงสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทว่าหมอมาเฟียไม่ได้ติดตามเธอมาแต่อย่างใด แต่ความผ่าวร้อนจากอุ้งมือหนาที่บีบรัดบนข้อมือเล็กของเธอก็ยังคงอยู่ ทั้งสายตาดุเข้มที่เหมือนจะตรึงร่างเธอไว้ตรงนั้นยังฝังอยู่ในโสตประสาท
เหมือนคืนนั้น เมื่อต้นเดือนที่แล้ว
วันที่เธอรับของบางอย่างจากโรงพยาบาลเอ็กซ์วัน
“ของให้กับมือคุณสิปปกรที่ฮิพผับนะ ต้องให้กับคุณสิปเท่านั้น ห้ามยื่นให้กับคนอื่นเด็ดขาดเมื่อไปถึงจะมีคนใส่ชุดดำรอรับอยู่แล้ว”
พี่วาสนา ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าบอกเธอ และน้ำผึ้งก็พยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่ายเมื่อรับกล่องนั้นมา ด้วยนี่เป็นการจ้างส่งของแบบพิเศษรอบนอก ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการกดรับของบริษัท ด้วยเธอสนิทกับพี่วาสนาคนของโรงพยาบาลเอ็กซ์วันอยู่แล้ว เพราะมาส่งของที่นี่บ่อย หญิงสาวจึงรับกล่องของมาไว้ในมือ โดยไม่เอ่ยถามว่าของที่ให้ส่งนั้นเป็นอะไร
น่าจะเป็นสิ่งของเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลแน่ๆ
แต่ทำไมให้ส่งไปที่ Hit pub หว่า
เห็นว่าที่นั่นเป็นผับหรูของพวกกลุ่มไฮโซกระเป๋าหนัก ที่ไปดื่มกินเที่ยวกัน และเจ้าของก็รู้สึกจะเป็นคนตระกูลอัครเวทย์ที่กว้างขวางและมีอิทธิพลพอสมควร
ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับเธอสักนิด
แค่ส่งของให้เสร็จรับเงินก็จบ ค่าจ้างงานนี้เท่ากับวิ่งงานทั้งสัปดาห์เลย โครตจะคุ้ม!!
ใช้เวลาไม่นานนัก น้ำผึ้ง ก็มายืนอยู่ด้านข้างฮิพผับ แสงสลัวของไฟหลากสีจากด้านในและเสียงเพลงที่ดังออกมา และผู้คนมากมายที่ยืนอยู่ด้านหน้าทำให้เธอยืนนิ่งอยู่ตรงรถคู่ใจของตัวเอง ด้วยนึกถึงคำสั่งของ วาสนา
จะมีผู้ชายชุดดำเดินมาหา แล้วค่อยเดินตามไป
“คนของคุณวาสนาจากเอ็กซ์วันใช่มั้ย?”
เสียงถามเข้มกังวานของชายในชุดสูทสีดำที่เดินมาใกล้ ทำให้เธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย แต่เมื่อจะยื่นของให้กับคนตรงหน้าเธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้
“คุณชื่อสิปปกรรึเปล่าคะ?”
ชายคนนั้นส่ายหน้า
“คุณสิปอยู่ข้างใน ตามผมมา”
น้ำผึ้ง จำต้องถอดหมวกกันน็อคเอาใส่ไว้ใต้เบาะและรีบถือกล่องของเดินตามชายชุดดำเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว บรรยากาศด้านในของผับที่ดูหรูหรามีรสนิยม ทว่าแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายอโคจรที่เธอไม่ชอบสักเท่าไหร่ นั่นทำให้หญิงสาวแทบจะกลั้นหายใจ ภาวนาให้ได้เจอกับชายที่ชื่อ สิปปกร เร็วๆ เธอจะได้มอบของให้แล้วเดินออกจากที่นี่เสียที
“ด้านนี้ครับ”
ชายผู้นั้นหันมาบอก เมื่อเห็นเธอยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงมุม น้ำผึ้ง เดินตามมาจนถึงมุมทางเลี้ยวตรงบันไดหนีไฟ จึงเห็นว่ามีประตูสีดำสนิทบานใหญ่อยู่ตรงข้าม และเมื่อเปิดออกเธอจึงเห็นว่ามีบันไดที่เดินลงไปด้านล่างได้
ผับหรูนี้มีห้องใต้ดินด้วย
“คนคุณวาสของเอ็กซ์วันใช่มั้ย?”
ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ด้านล่าง คาดว่าน่าจะมีคนอยู่ตรงนั้นประมาณสามสี่คน
“ให้เอาของลงมาเลย คนส่งของกูเอง! ไว้ใจได้”
คนส่งของกูเอง...
เธอไปเป็นคนของใครตั้งแต่ตอนไหนกัน
มีอะไรที่เข้าใจผิดกันหรือเปล่า?
น้ำผึ้งหยุดอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย ไม่อยากจะเดินเข้าไปต่อ ทว่าเมื่อประตูด้านบนปิดแล้ว เสียงเพลงด้านบนของผับหรูเหมือนจะเงียบหายไป และเสียงในห้องด้านล่างเริ่มจะชัดเจนขึ้น
“ว่าแต่มันจะตายมั้ยวะ ไอ้เหี้ยนี่!”
“อย่าปล่อยให้มันตายนะโว้ย กูยังไม่ได้ข้อมูลจากมันเลย”
“ถึงมือไอ้หมอมันไม่ตายง่ายๆหรอกน่า”
พูดเรื่องอะไรกัน?
ความคิดเธอเหมือนจะหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อมองไปยังห้องใหญ่ด้านล่าง มีผู้ชายหน้าตาดีนั่งอยู่สองสามคน กับชายชุดดำอีกประมาณห้าคนยืนอยู่ห่างๆ ตรงกลางนั้นมีโต๊ะขนาดใหญ่วางอยู่ และมีร่างของชายร่างท้วมที่ไม่ได้สตินอนอยู่บนนั้น
โดยมีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งใส่เสื้อคลุมคล้ายเสื้อกราวน์ของแพทย์แต่เป็นสีดำ ใบหน้าคมเข้มที่มองเห็นจมูกโด่งเป็นสันกำลังก้มๆเงยๆอยู่ตรงร่างชายผู้นั้นโดยใช้เครื่องมือผ่าตัดกดยังผิวท้องของชายที่ไม่ได้สติ
หัวใจของ น้ำผึ้ง เหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเห็นภาพตรงหน้า คนพวกนี้เป็นใคร?
แล้วนี่มันอะไรกัน!!
“เอาของ..”
ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงที่เป็นเหมือนแพทย์เงยขึ้นมามองโดยมือทั้งสองยังถือมีดผ่าตัดไว้ คิ้วหนาเข้มนั้นขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าของเธอชัดๆ แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรต่อหญิงสาวก็ร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อเห็นเลือดสดๆไหลนองอยู่เต็มพื้น
“กรี๊ด!!!!”
************