ตอนที่ 3
ไม่บอกใครแน่นอน
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่เป่ารดยังใบหน้าของร่างบางที่นอนหมดสติ ทำให้เปลือกตาคู่สวยกระพริบถี่ก่อนจะปรือตาขึ้นมองรอบด้าน แล้วรีบผุดกายลุกขึ้นนั่งเมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำแดง และมีเสียงเพลงดังเคล้ามาจากด้านนอก หญิงสาวจึงคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็นห้องวีไอพีในผับหรูที่เธอเข้ามาเมื่อตอนหัวค่ำอย่างแน่นอน
เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ประตูทำให้เธอล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และรีบปิดตาสนิทเหมือนเมื่อสักครู่ พยายามกลั้นลมหายใจให้เป็นปกติที่สุด แต่ได้ยินเสียงผู้ชายราวสี่ห้าคนเข้ามาอยู่ในห้อง และคุยกันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ไอ้เหงียนเซบาสเตียนมันรอดละ ขอบใจมึงมากไอ้หมอ”
“แบบนี้เราต่อรองกับพวกมันได้”
“ตอนนี้ถือว่ามันติดหนี้กลุ่มดอกแก้วทองและพวกเรา”
“เดี๋ยวให้คนพามันไปบ้านพักของกูก่อน เรื่องการดีลกับพวกมันให้สิปกับไอ้คิณจัดการละกัน”
“ได้”
“แล้ว....”
“......”
“เด็กไรเดอร์นี่จะเอายังไง?”
เสียงใครคนหนึ่ง เหมือนจะหันมามองเธอ น้ำผึ้ง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ด้วยกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอกำลังแอบฟังเรื่องราวทั้งหมด พลันภาพและพล็อตหนังฆาตกรรมที่เธอเพิ่งดูในเน็ตฟิกไปเมื่อวันก่อนก็ลอยเข้ามาหัว
พ่อแก้วแม่แก้วเอ้ย ...ได้โปรดช่วยลูกช้างด้วย
“เด็กของคุณวาสนาคนของมึงไม่ใช่รึ? ดีลกันยังไงถึงพลาดคิวให้ เด็กนี่มาส่งของและเสร่อเข้ามาในห้องได้”
ตายละ!! เธอจะต้องโดนเก็บและฝังอยู่ในห้องนี้เป็นแน่
ทำไมชีวิตของเธอช่างเจอเรื่องซวยแบบไม่คาดฝันแบบนี้
“ไม่เป็นไรกูดีลกับคนของกูแล้ว เรื่องเล็กน้อย”
“แน่ใจนะ?”
“อืม ..เดี๋ยวเด็กคนนี้กูจัดการเอง”
จัดการเอง! แม้จะไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง น้ำผึ้งก็จำได้ว่าน้ำเสียงนี้เป็นของคุณหมอมาเฟียที่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง
เขาจะจัดการเธอ
อย่าบอกนะว่า....
“ยังงั้นกูก็เบาใจ ขอบใจมากเพื่อน”
เสียงตบไหล่เบาๆ ฟังจากลักษณะการคุยของชายสี่ห้าคนนี้ เหมือนจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันมาก และเหมือนชายคนใดคนหนึ่งจะเป็นเจ้าของที่นี่กับคุณหมอเถื่อนผู้นี้
หมอเถื่อน ...ไม่ซิ
ของที่เธอรับมาจากพี่วาสนา เป็นของโรงพยาบาลเอ็กซ์วัน
หมอเถื่อนคนนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่นั่นแน่นอน แต่นั่นเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ระดับประเทศ เห็นว่าตอนนี้บริหารงานโดยทายาทของตระกูลณรงค์โชติที่ร่ำรวยติดหนึ่งในยี่สิบของประเทศตอนนี้
ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเธอเลย
ว่าแต่เธอจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?
เธอกลั้นลมหายใจอีกครั้ง เมื่อรู้สึกได้ว่าร่างหนาของใครคนหนึ่งย่อกายลงนั่งยังโซฟาตัวใหญ่ที่เธอนอนอยู่ ก่อนที่เสียงฝีเท้าของคนที่เหลือจะเดินออกจากห้องไป
ประตูห้องถูกปิดลง
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ
ผับน่าจะปิดแล้ว และเหล่านักท่องราตรีคงทยอยออกไปหมดแล้ว คงจะไม่มีใครรู้แน่เลยว่าเธอกำลังจะถูกทำร้ายอยู่ในฮิพผับหรูแห่งนี้
“จะแกล้งหลับไปถึงไหน?”
เสียงเข้มห้าวนั้นทำให้เธอสะดุ้ง จนต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นร่างหนาของคนตรงหน้าที่เปลือยเปล่าท่อนบนเผยให้เห็นแผงอกกว้าง และแผ่นท้องแน่นเครียดเป็นร่องวีไลน์อย่างชัดเจน
ดวงตาคู่สีนิลเข้มนั้นจ้องเธอนิ่ง จนหัวใจเธอเต้นระส่ำ
หล่อ หล่อ หล่อ หล่อโครตๆๆ
เสียดายไม่น่าเป็นคุณหมอเถื่อนเลย!!
“นะ..หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“หือ”
คิ้วหนาเข้มของ นกุล ขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้า แม้ได้เคลียร์กับ วาสนา ผู้ช่วยของตนไปแล้ว แต่ก็ยังต้องมาสะสางกับไรเดอร์สาวคนนี้อีกที
“หนูไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ เมื่อกี้มันมืดมากหนูไม่เห็นเลยว่าคุณหมอกำลังทำอะไรอยู่ หนูเป็นคนกลัวเลือดคือหนูเห็นเลือดแล้วก็เป็นลมหมดสติเลย”
เหมือนใบหน้าหล่อเหลานั้นจะตึงเครียดขึ้นกว่าเดิม
“ตกลงเห็นหรือไม่เห็น?”
“ไม่เห็นค่ะ หนูเห็นเลือดแล้วก็ไม่เห็นอะไรเลย เอ่อ..”
เวรกรรม!!
ทำไมคนฉลาดน้อยอย่างเธอ ต้องมาจนมุมตัวเองแบบนี้
ความเงียบบังเกิดขึ้นอีกครั้ง
ไม่ได้การละ!!
“คือหนูเพิ่งเรียนจบมาและก็วิ่งงานส่งของระหว่างรอทำงานค่ะ ที่บ้านหนูตอนนี้มีรายได้แค่ขายผลไม้ที่แผงของแม่อย่างเดียว อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะหนูสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”
สาธุ!ขอให้เขาเวทนาสงสารชีวิตที่เหมือนดาวพระศุกร์ของเธอด้วยเถอะ ไม่งั้นเธอคงไม่ได้กลับบ้านไปหาแม่และน้องแน่ๆ
“รู้ไหม วันๆนึง มีคนถูกอุ้มหายโดยไร้ร่องรอยกี่คน?”
น้ำเสียงจากใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉย ทว่าแฝงความกดดันอยู่ในที
“มะ ..ไม่รู้ค่ะ”
และก็ไม่ได้อยากจะรู้ด้วย
“ฉันมีชื่อที่อยู่ของเธอและครอบครัวไว้หมดแล้ว วาสนาบอกข้อมูลทั้งหมดกับฉันละ”
ว่าไงนะ! นี่เขาเป็นมาเฟียหรืออย่างไร?
“.....”
“ดื่มซิ”
แก้วน้ำสีแดงถูกยื่นให้ตรงหน้า แต่น้ำผึ้งส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ด้วยเธอยังไม่อยากดื่มอะไรจากเขาทั้งนั้น อีกทั้งไม่รู้ด้วยว่าเขาจะใส่อะไรแปลกๆให้เธอกิน
“หนูอยากกลับบ้าน”
เธอผุดกายลุกขึ้นเป็นจังหวะที่มือหนายื่นแก้วมาใกล้ นั่นทำให้แก้วไวน์ร่วงตกลงตักหนาระหว่างต้นขาแน่นหนั่นของเขา
น้ำผึ้งก้มมองผลงานตัวเองอย่างตระหนก
ฉิบหายแล้ว!
ทำไมเธอต้องทำเรื่องซวยให้ซวยคูณสองเข้าไปอีก
“หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ หนูเช็ดให้นะคะ”
น้ำผึ้ง ขยับกายเล็กน้อย รีบถอดเสื้อคลุมสีเขียวออกจากตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ซับหยาดไวน์ที่เลอะยังกางเกงชิโนเนื้อดีของเขา โดยลืมว่าตัวเองใส่เพียงสายเดี่ยวเส้นเล็กๆ เพื่อไม่ให้อบอ้าวเกินไป
คิ้วหนาของ นกุล ย่นเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อมองผิวขาวละเอียดและไหปลาร้างดงามตรงหน้า ปรอยผมเล็กน้อยที่ระกรอบหน้าเนียนใส ทำให้สายตาของเขาอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งยามเธอย่อกายลงนั่งและทรวงอกอิ่มที่เบียดชิดเข้าหากันนั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนลำคอตัวเองเริ่มจะแห้งผาก
เด็กไรเดอร์ซ่อนรูปขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“พอแล้ว”
นกุล จับข้อมือเล็กไว้ เมื่อเธอเริ่มจะเช็ดขึ้นมาใกล้กับตำแหน่งสำคัญ และเหมือนหญิงสาวจะรู้ตัวเธอรีบผละมือออก ขณะที่สองแก้มเริ่มจะผ่าวร้อนขึ้นมา
“หนูสัญญาค่ะ หนูจะลืมทุกอย่างในคืนนี้”
และจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเขาอีก และจะเหยียบเรื่องในคืนนั้นให้จมอยู่ใต้ผืนดินตลอดไป
นั่นเป็นคำที่เธอได้บอกเขาในวันนั้น
.
.
“คุณหนูหลับแล้วค่ะคุณหนึ่ง”
ป้าว่าน เอ่ยบอกเขาเมื่อ ชายหนุ่มทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้อง ชื่อเล่นว่าคุณหนึ่งเป็นชื่อที่คนในครอบครัวและคนสนิทเรียก เพื่อนฝูงเองก็มีเรียกบ้างแต่ส่วนใหญ่จะติดเรียกชื่อจริงมากกว่า ด้วยเขาเป็นหมอศัลยแพทย์และเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอ็กซ์วัน
เป็นหมอที่รักษาคนไข้ให้หายมาหลายคนแล้ว
แต่อาการของลูกสาวคนโต เขากับเพื่อนหมอที่เก่งกาจหลายคนกลับไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ และนั่นคือสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของเขามาเป็นเวลาหลายปีนับตั้งแต่ นิภา ภรรยาของเขาเสียไปเมื่อสามปีก่อน
นับจากนั้น พลอยใส ลูกสาวของเขาก็แทบจะไม่พูดกับเขาอีกเลย ไม่ว่าเขาจะเข้าหาด้วยวิธีไหน ทั้งพาหมอจิตวิทยาเด็กหรือผู้เชี่ยวชาญจากสารพัดที่มาทำการบำบัด รวมถึงจ้างพี่เลี้ยงเด็กจากสถาบันที่มีชื่อเสียงต่างๆหลายแห่ง
แต่เหมือนจะไม่มีใครทนอยู่ได้เกินสองสัปดาห์เลยสักคน
“วันนี้คุณวาสส่งคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงให้แม่เลือกแล้ว แต่เหมือนยังไม่ถูกใจน้องพลอยใสเท่าไหร่”
นวลอนงค์ แม่ของเขาผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้อง “อ้อแล้วเรื่องหนูน้ำผึ้งเด็กไรเดอร์นะ ไม่ต้องกังวลนะ แม่ให้เขามาส่งของให้บ่อยบางทีก็ให้มาเองไม่ผ่านไรเดอร์ แม่รู้จักกับแม่เขาที่ขายผลไม้ตรงตลาดพิมลราช เวลามาทีไรสองหนูพลอยก็ดูจะมีความสุขดี”
“ครับ”
ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยที่ตื่นตระหนกเมื่อเจอเขา นี่เธอจะไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาและแม่รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของเธอแทบจะทุกอย่าง
เขาจึงไม่คิดกังวลใจในสักนิดกับสิ่งที่เธอมาเห็นในคืนนั้น
ทว่าสิ่งที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ
คือเธอกับลูกสาวฝาแฝดของเขาสนิทสนมกันเพียงนี้
“เดี๋ยวแม่จะให้วาสนาส่งคนใหม่เข้ามาสัมภาษณ์อีกทีละกัน ถ้าไม่ได้เดี๋ยวคงต้องหาที่ใหม่”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ”
ชายหนุ่มปรามพูดเป็นแม่ เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ด้วยสีหน้าท่าทางและแววตาอันสดใสของลูกสาวแฝดทั้งสองขณะที่นั่งอยู่กับไรเดอร์สาวคนนั้น ยังติดตรึงอยู่ในโสตประสาทของเขา มุมปากหยักได้รูปของเขายกโค้งขึ้นเล็กน้อย
พี่เลี้ยงลูก ...ก็ต้องหาคนที่ลูกอยากอยู่ด้วยถึงจะเหมาะ
**************