ทางเลือกเดียว

1291 Words
ตอนที่ 6 ทางเลือกเดียว “ผมมีข้อมูลของคุณไว้แล้ว คุณหนีไม่พ้นหรอกนะ” ร่างสูงโปร่งสาวเท้ามาใกล้จนชิด ใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาดโน้มมาใกล้จนริมฝีปากหยักอิ่มแดงระเรื่อชิดริมหูของเธอ ขณะที่มือหนาของเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทีละเม็ด จนเห็นแผงอกกว้างกำยำ ขนอ่อนในกายของเธอลุกชูชันเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างที่คืบคลานมาใกล้จนเกือบจะควบคุม ไม่นะ เขาหล่อและกลิ่นกายของเขาหอมมาก เธอจะผลักใสเขาได้อย่างไร? “คะ..คุณหมอถอยออกไปก่อน” น้ำเสียงของเธอสั่นระริกคล้ายคนติดอ่างขึ้นมาโดยทันที ทั้งแขนขาที่จะผลักใสเขาก็เหมือนเริ่มจะไม่มีเรี่ยวแรง เมื่อร่างของเธอถูกเบียดชิดแนบกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาโน้มมาใกล้ และกระซิบเสียงแหบพร่า “เลือกเอาว่าจะเลือกไปทำงานกับผมดีๆ” “.....” “หรือว่าจะโดนอุ้มหายไปโดยไร้ร่องรอย” . . “กรี๊ดๆๆ” เฮือก!!!!! “พี่ผึ้งๆๆ เป็นอะไรๆ” เสียงของ น้ำเหนือ ตะโกนอยู่ด้านนอกห้อง ทำให้ น้ำผึ้งสะดุ้งตื่นขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองเอาคำพูดของ คุณหมอปีศาจ มาฝันร้ายทั้งคืนหลังจากเขากลับไปแล้ว “ผมให้เวลาคุณแค่พรุ่งนี้บ่าย ผมต้องได้คำตอบ” เป็นถ้อยคำทิ้งท้ายของเขาเมื่อวาน ก่อนจะกลับไป และหลังจากนั้นเธอก็ครุ่นคิดไม่ตก และเห็นว่าดึกมากแล้วจึงยังไม่ได้ปรึกษาแม่กับน้องชาย ในเช้าวันนี้เธอจึงตัดสินใจบอก เมื่อเห็นว่าแม่ยังไม่เอาผลไม้ออกไปขายที่ตลาด และกำลังตักข้าวต้มหมูสับใส่ชามให้กับน้องชายยกมาให้กับเธอ “เยี่ยมเลยพี่ผึ้ง ไปทำเลยๆ ระดับคุณหมอนกุลเป็นเจ้าของโรงพยาบาลขนาดนั้น ต้องให้เงินเดือนและสวัสดิการดีแน่ๆ อีกอย่างดูแลเด็กสี่ขวบจะมีอะไรมากมาย ง่ายกว่าดูเด็กแรกเกิดอีก” น้ำเหนือสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะเลื่อนชามข้าวต้มให้กับพี่สาว ที่ดูอิดโรยเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม “คือ ถ้าไม่ใช่ลูกของคุณหมอพี่ก็คงไม่คิดหนักแบบนี้หรอก” ความจริงเธอไม่ใช่คนเลือกงานหรอก งานอะไรก็ได้ที่สุจริตและได้เงิน ขายพวงมาลัย ขายผลไม้และวิ่งวินวิ่งไรเดอร์ก็ทำมาหมดแล้ว “แล้วทำไมต้องคิดหนัก?” น้องชายชะโงกหน้ามาใกล้ “.....” “แต่แม่ว่าไปทำก็ดีนะลูกระหว่างที่รองาน แม่เองก็ไม่อยากให้หนูขับไรเดอร์หรอก เป็นผู้หญิงมันอันตราย ถึงเราจะระวังตัวดียังไง แต่ก็อาจจะพลาดสักวันได้ เท่าที่คุยกับหมอ เขาก็ดูสุภาพและเป็นคนดีนะแม่ว่า” บัวผัน ผู้เป็นแม่เอ่ยเสียงอ่อนโยนด้วยความห่วงใย ทำให้หญิงสาวชะงักมือที่ตักข้าวต้มเข้าปาก ด้วยรู้ว่าทุกวันนี้แม่เป็นห่วงเธอมาก และผลไม้ช่วงนี้ก็ขายไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ยิ่งมีผลไม้จีนมาตีตลาดพอเอามาขายบ้างก็มีปัญหาสารปนเปื้อน พอขายไม่ออกก็เน่าเสียขาดทุน ไม่พอจะจ่ายค่าแผงอีก เธอรู้ว่าแม่เครียดจึงอยากจะแบ่งเบาตรงนี้ แต่เมื่อเห็นแม่ไม่สบายใจในการวิ่งไรเดอร์ ก็ทำให้น้ำผึ้งต้องคิดทบทวนไปมาหลายตลบ หญิงสาวนั่งเงียบๆ ตั้งใจกินข้าวต้มจนหมดชาม เมื่อครุ่นคิดว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าชน เธอจึงเอ่ยบอกแม่และน้องด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ก็ได้ค่ะ ผึ้งจะไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงลูกให้กับคุณหมอ” . . น้ำผึ้ง มาถึงโรงพยาบาลเอ็กซ์วันในเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง ตามที่คุณหมอได้บอกไว้ว่าหากจะให้คำตอบกับเขาให้โทรมา หรือมาหาที่โรงพยาบาล ความจริงเธอได้ไลน์บอกเขาไปแล้วว่าจะมาเข้าพบตามเบอร์ไลน์ในนามบัตรที่เขาทิ้งไว้ให้ แต่หญิงสาวอยากจะมาคุยเจรจาตกลงกับเขาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย “คือ ผึ้งมาขอพบคุณหมอนกุลค่ะ” เธอบอกกับ วาสนา ที่คาดว่าจะเป็นผู้ช่วยของเขาที่อยู่เคาน์เตอร์ด้านหน้า อีกฝ่ายทำยกยิ้มเล็กน้อยแต่ดูสีหน้าไม่ได้ประหลาดใจแม้เพียงนิดกับการขอพบเจ้าของโรงพยาบาล “พอดีคุณหมอติดเคสคนไข้ผ่าตัดด่วนค่ะ เห็นคุณหมอแจ้งไว้ว่าถ้าน้องผึ้งมาให้ไปนั่งรอตรงร้านเบเกอรี่ชั้นหนึ่งก่อนค่ะ อยากทานอะไรสั่งได้เลยนะคะ หรือจะไปนั่งรอที่ห้องรับรองด้านบนก็ได้ค่ะ” พี่วาสนาเอ่ยเสียงหวาน ความจริงน้ำผึ้งอยากจะถามอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะกล่องของบางอย่างที่ให้เธอไปส่งที่ฮิพผับในเย็นวันนั้น แต่อีกฝ่ายวางสีหน้าปกติคล้ายไม่ใส่ใจ ทำให้เธอไม่กล้าจะเอ่ยถาม ด้วยไม่อยากจะรื้อฝอยหาตะเข็บให้ตัวเองปวดหัววุ่นวายไปกว่านี้ด้วย เฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ผึ้งไปรอที่ร้านขนมดีกว่าจะได้สั่งชาเขียวมัทฉะและนั่งดูซีรี่ย์รอด้วย” ให้ไปรอห้องรับรองน่าอึดอัดแน่นอน อย่างน้อยที่คาเฟ่ด้านล่างก็ยังมีมุมให้ผ่อนคลาย คุณหมอติดเคสคนไข้แบบนี้น่าจะนานแน่นอน นั่งเล่นโซเชียลดูซีรี่ย์แล้วเม้าท์มอยกับเพื่อนๆดีกว่า “คุณหมอนกุลลงมือเองเลยเหรอเคสนี้” “ใช่แล้ว คงเป็นคนสำคัญอ่ะเนอะ” เสียงคุยอยู่ด้านหลังที่เอ่ยถึงชื่อ หมอมาเฟีย คนที่เธอรอพบทำให้ น้ำผึ้ง ต้องเอียงคอฟัง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกเหล่าคุณหมอของโรงพยาบาลกำลังเม้าท์กันเวลาพักเหมือนที่เธอกับเพื่อนกำลังคุยเรื่องพระเอกซีรีย์จีนกันแน่เลย การใส่ใจเรื่องคนอื่นคือสีสันของชีวิต “ไม่สำคัญได้ไง นั่นท่านชิดชัยพ่อของคุณเพียงดาวนี่นา” “ก็เหมาะสมกันดีเนาะ เห็นควงกันไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยแต่ไม่เห็นจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการสักที” “เห็นวงในบอกว่า คุณหมอเองไม่อยากจะจริงจังกับใครอาจเพราะเกรงใจลูกสาวแฝดรึเปล่า” “อาจจะเป็นไปได้นะ เห็นว่าลูกคนโตนั่นจะสี่ขวบแล้วยังพูดบ้างไม่พูดบ้าง น่าจะมีปัญหาอยู่นะ” น้ำผึ้ง แทบจะกลั้นหายใจขณะเอียงคอฟังคู่สนทนาด้านหลังที่คุยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ อืม...เพิ่งจะรู้ว่าการนินทานี่มันมีอยู่ทุกวงการจริงแฮะ!! ขนาดระดับเจ้าของโรงพยาบาลยังโดนนินทา แต่ว่าเพียงดาวที่ว่านั่น คงน่าจะหมายถึง เพียงดาว สิริโสภาวรรณ ไฮโซสาวตระกูลดังผู้ดีเก่าที่มีข่าวลงสื่อต่างๆอยู่บ่อยๆแน่เลย เพิ่งรู้ว่ากำลังคบหาอยู่กับคุณหมอมาเฟียอยู่ เหมือนคู่สนทนาด้านหลังจะเงียบไป น้ำผึ้ง จึงจำต้องหยิบแก้วชาเขียวมาดูด และเอี้ยวตัวมามอง ทว่าก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อกราวน์แพทย์สีขาวเดินมาใกล้ ใบหน้าหล่อเหลานั้นอึมครึมเล็กน้อย เมื่อเหลือบมองคุณหมอคู่สนทนาที่กำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ และเหมือนหมอสองท่านนั้นจะหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อเห็นเจ้าของโรงพยาบาลที่กำลังพูดถึงเดินมาใกล้กับเธอ ก็คุยซะเสียงดังขนาดนั้น! ทว่าเหมือน หมอนกุล จะไม่ใส่ใจ ชายหนุ่มหันมามองเธอและเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่ง “รอนานมั้ย?” ***********
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD