อยู่ในการควบคุม3

1263 Words
ตอนที่ 14 อยู่ในการควบคุม3 (ยังไม่กลับเหรอลูก?) “ว่าจะโทรไปบอกแม่อยู่พอดีว่าหนูผ่านการทดลองงานแล้ว ต่อไปต้องค้างอยู่ที่บ้านคุณหมอในตอนกลางคืน เดี๋ยวตอนเช้าหลังส่งคุณหนูไปโรงเรียนหนูจะเข้าไปเก็บของนะแม่) น้ำเสียงของ น้ำผึ้ง แหบพร่าขณะจับมือถือไว้แน่น หลังจากประตูห้องถูกปิดลง เธอรู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงจากจูบสูบวิญณานของคุณหมอจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เลยต้องทรุดนั่งลงกับพื้นเพื่อคุยโทรศัพท์กับแม่ (อ้อๆดีแล้วละ พักอยู่ที่นั่นเลยแม่จะได้สบายใจ ไปๆกลับๆ ดึกๆแม่เป็นห่วง เผื่อวันไหนไอ้เหนือมันไม่ว่างด้วย) “แล้วเหนือกลับรึยังละแม่?” (เพิ่งกลับมาเมื่อกี้ขึ้นห้องอาบน้ำนอนไปละช่วงนี้มันวิ่งงานดึกทุกวัน บางวันกลับเกือบเที่ยงคืนแล้วออกไปตั้งแต่เช้า) “ยังไงแม่ก็ดูแลตัวเองดีๆนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” (แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก ดูแลตัวเองด้วย) ปลายสายตัดไป ก่อนที่น้ำผึ้งจะผ่อนลมหายใจออกมา ความรู้สึกสับสนมากมายประดังเข้ามาในหัว ขณะยกนิ้วมือไล้ยังเรียวปากตัวเองที่เริ่มจะบวมเจ่อ ความจริงนี่เป็นจูบแรกที่แสนจะลึกซึ้งสำหรับเธอ . . ร่างหนาเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ เดินออกมากลางห้องนอนขณะใช้ผ้าขนหนูซับเรือนผมสีเข้มที่เปียกชื้น แล้วสะบัดไปมาไล่ความรู้สึกงุ่นง่านบางอย่างที่ปะทุขึ้นมา แม้เมื่อสักครู่จะโดนปลดปล่อยไปในห้องน้ำแล้ว แต่ก็ยังคงค้างคาอยู่ในใจ ลิ้นสากยังคงแลบออกมาละเลียดเล็มความหวานล้ำที่ติดอยู่ริมฝีปากตนไปมา ดวงตาคู่สีนิลรัตติกาลส่งประกายวาววับเมื่อนึกถึงสัมผัสผ่าวร้อนเมื่อสักครู่นี้ แกร๊ก!! ชายหนุ่มเปิดฝากระปุกยาแล้วเทยาคลายประสาทออกมาสองเม็ดใส่ปาก ก่อนจะกระดกน้ำตามแล้ววางลงที่เดิม ความจริงแล้วเขาเพิ่งจะกลับมากินยานี้อีกครั้ง หลังจากว่างเว้นไปเกือบปี ด้วยอาการนอนไม่หลับและบางครั้งก็หลับๆตื่นๆ บางทีเขาก็ขำตัวเองนัก ที่รักษาคนอื่นได้เป็นอย่างดี แต่กับตัวเองกลับทำได้ยากเย็นเสียเหลือเกิน “คุณพ่อขา ยังไม่หลับเหรอคะ?” เสียงหวานตรงประตูระหว่างห้องลูกสาวทำให้ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็น พลอยใส แฝดผู้พี่ยืนกอดหมอนและกำลังเดินมาหาเขาในห้อง และเอ่ยประโยคยาวๆกับเขาแบบนี้ “กำลังจะหลับครับ พลอยใสยังไม่นอนอีกเหรอลูก” “พลอยใสดีใจที่พี่คนสวยมาพักอยู่บ้านเรา” เด็กหญิงเดินมาใกล้ก่อนจะซุกหน้ายังอกผู้เป็นพ่อ “แต่ตอนนี้พี่คนสวยน่าจะหลับแล้ว” “ก็ดึกแล้วนี่นา หนูเองก็ควรจะนอนได้แล้ว” “คุณพ่อว่าพี่ผึ้งสวยเหมือนแม่นิภามั้ยคะ?” ถ้อยคำนั้นทำให้ผู้เป็นพ่อเงียบไปสักพัก “ไม่เหมือนหรอกครับ คนละคนกันจะเหมือนได้ไง” ปากบอกลูกสาวแบบนั้น ทว่าดวงตาคู่สีนิลก็คล้ายจะวาววับขึ้นเล็กน้อย “พี่ผึ้งคนสวยร้องเพลงนกขมิ้นเหลืองอ่อนเพราะมาก พลอยใสชอบเพลงนี้ คุณพ่อขาร้องให้หนูฟังหน่อย” เสียงใสเอ่ยอย่างออดอ้อนตรงช่วงอก ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาย่นเข้าหากันเล็กน้อย ด้วยเขาไม่รู้จักเพลงนี้เลยด้วยซ้ำและไม่รู้ว่าต้องร้องยังไง “พรุ่งนี้พ่อร้องให้ฟังได้มั้ยครับ” ผู้เป็นพ่อต่อรอง ร่างเล็กที่ซุบอยู่บนอกเหมือนจะนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเหยียดกายขึ้นอุ้มลูกสาวเดินผ่านประตูไปวางยังเตียงเล็กที่คู่กับแฝดผู้น้องในห้อง “ฝันดีนะครับ คนเก่งของพ่อ” . . หลังส่งเด็กหญิงเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้วลุงสมชายคนขับรถก็พาเธอมาที่บ้านเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัว เหมือนแม่ของเธอจะไปขายของที่ตลาดแล้ว และน้องชายก็น่าจะไปวิ่งงานเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงจัดการเก็บข้าวของเองด้วยไม่อยากให้ลุงคนขับรถรอนาน แต่ไม่นานนัก บัวผัน แม่ของเธอก็โทรมา “เก็บของอยู่จ้าแม่” (ผึ้ง ไอ้เหนือมันแย่แล้วลูกเจ้าเม่นโทรมาบอกแม่ว่ามันไปวิ่งงานทับกับเจ้าถิ่น ตอนนี้มันโดนแทงอาการสาหัส) “ว่าไงนะแม่!” ไม่นานนักน้ำผึ้งก็มาถึงโรงพยาบาลเอ็กซ์วัน แม้ใจจริงจะไม่เห็นด้วยเท่าใดที่ เม่น พาน้ำเหนือมาโรงพยาบาลเอกชนแบบนี้ เพราะรู้ว่าค่ารักษาพยาบาลของที่นี่แพงหูฉี่ แต่เม่นบอกว่านี่เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุที่สุด และตอนนี้น้องชายเธอเสียเลือดมากต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด “ใจเย็นก่อนจะแม่ ถึงมือหมอแล้ว” แม้จะร้อนรนในใจเพียงใด แต่หญิงสาวก็พยายามปลอบแม่ตัวเองที่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจอยู่หน้าห้องไอซียู จนเม่นต้องรีบไปหายาหม่องยาดมมาให้ผู้สูงวัยที่เหมือนเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ “จะต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอวะมันเป็นใครกัน?” “ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่พี่ผึ้ง ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันดีนะที่ผมวิ่งงานอยู่ใกล้ๆ เลยไปช่วยมันให้มาส่งโรงพยาบาลทัน” “เหนือเอ้ย” หญิงสาวถอนหายใจออกมา ขณะปาดน้ำตาตัวเองไปด้วยและปลอบแม่ไปด้วย ทว่าคิ้วเรียวสวยก็ต้องย่นเข้าหากันเมื่อเหลือบมองไปเห็นร่างสูงโปร่งหล่อเหลาในชุดกราวน์แพทย์เดินมาแต่ไกล “คุณหมอ” ลุงสมชาย น่าจะบอกเขาตอนมาถึงโรงพยาบาล ความจริงเธอไม่อยากให้เขารู้เท่าใดนักว่าน้องชายเธอมารักษาตัวที่นี่ แม้จะเป็นโรงพยาบาลของเขาก็ตาม “ญาติทำใจดีไว้ครับ ทีมหมอกำลังช่วยเหลืออยู่” อุ้งมือหนาแตะยังบ่าของเธอเบาๆ ก่อนที่คุณหมอจะเดินเข้าไปในห้องไอซียู ความผ่าวร้อนที่ถ่ายทอดผ่านมานั้นทำให้เธอเริ่มใจชื้นขึ้น เธอกับแม่นั่งรออยู่หน้าฉุกเฉินประมาณเกือบสองชั่วโมง คุณหมอจึงเดินออกมา “คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ ดีที่ว่าไม่โดนอวัยวะสำคัญตอนนี้คงต้องอยู่พักฟื้นที่นี่ประมาณสองสัปดาห์” ถ้อยคำนั้นเหมือนพรวิเศษ ใบหน้าของแม่เธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดน้ำผึ้งเองก็เช่นกัน เธอผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ทว่าก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย จึงขยับเข้าไปบอกเขา “ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ แต่ผึ้งขอย้ายน้องไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลอื่นดีกว่าค่ะคุณหมอ จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย” เธอเอ่ยบอกเขาไปตามตรง ทว่าคุณหมอส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมรับน้องชายคุณเป็นคนไข้ของผมแล้ว ยังไงผมก็ต้องติดตามอาการและรักษาให้เต็มที่ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องกังวลผมรับผิดชอบเองถือว่าเป็นสวัสดิการของพี่เลี้ยง” สวัสดิการพี่เลี้ยง ยิ่งกว่าทำงานบริษัทใหญ่ๆอีก มีสวัสดิการสำหรับรักษาญาติพี่น้องได้ด้วย “แต่..” กระนั้นหญิงสาวก็ยังคงกังวลใจ ทว่าคุณหมอกลับเอ่ยบอกเสียงเข้มยิ่งกว่าเดิม “ตามนั้นครับ ไม่ต้องห่วงคุณมีเรื่องต้องตอบแทนผมแน่” **************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD