บทที่ 3
หนูเจ็บ..ไม่ไหวค่ะ
@ สนามบาสเกตบอล
“โอ้โห..คนเยอะยังกับมีผ้าป่ารถแห่..จะมีที่นั่งเหลือมั้ยเนี่ย”
นาราบ่นก่อนกวาดตามองไปยังที่นั่งบนอัฒจันทร์รอบๆ สนาม ที่มีนักศึกษาหญิงพากันนั่งหน้าสลอนเต็มไปหมด นารากับแวนด้าตื่นเต้นที่ได้เข้ามายังสนามบาสเกตบอลขนาดใหญ่ แต่มะลิกลับหงุดหงิดจนชักสีหน้า เพราะเสียงตะโกนเรียก พี่กวิน พี่กวิน ดังไปทั่วสนาม
“ท่าทางพี่กวินจะฮอตใช่เล่นนะมะลิ” แวนด้าขยับเข้ามากระแซะไหล่มะลิเบาๆ
“นั่นสิ..ฉันจะช้าไม่ได้แล้วนะพวกแก ต้องเร่งทำคะแนน”
มะลิที่ถือถุงบรรจุขวดน้ำกับผ้าเย็นมองไปยังที่นั่งแถวล่างติดขอบสนาม จากนั้นก็ยื่นแบงก์พันสามใบให้นารา เพื่อจ้างคนที่อยู่ตรงนั้นให้ลุกออกไป พวกเธอจะได้มีที่นั่งไม่ต้องยืนขาแข็งดูการซ้อมจนจบ
..เพื่อผู้ชาย จะกี่บาทก็พร้อมจ่าย..
“นารา..ฉันอยากนั่งตรงนั้น ไปดีลให้หน่อยดิ”
“โอเค..กะเทยจัดให้..” นารารับเงินมาและเดินบิดก้นตรงไปยังเป้าหมายเพื่อทำภารกิจให้ลุล่วง
จากนั้นไม่ถึงห้านาทีทั้งสามก็ได้นั่งในทำเลที่ใกล้และมองเห็นกวินได้ชัดเจน มะลิหยิบลิปสติกสีแดงบรรจงทาปากแล้วจัดองค์ทรงเครื่องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตั้งใจนั่งจ้องร่างสูงของกวินที่วิ่งอยู่ในสนามไม่วางตา
“โอ๊ย..หัวใจจะวาย ขาวมากพ่อ ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกแก..เอาพัดมาพัดให้ฉันหน่อย ฉันจะเป็นลม”
มะลิดี๊ด๊าทั้งบิดตัวทั้งยกมือขึ้นพัดหน้าตัวเองอย่างลนลาน ไม่คิดว่ากวินจะงานดีขนาดนี้ เสื้อแขนกุดสีขาวที่เขาสวมใส่ส่งผลให้เห็นมัดกล้ามที่แขนของเขาเต็มๆ ไหนจะเหงื่อที่เกาะพราวไปตามเนื้อตัวนั่นอีกล่ะ เหี้ย..โคตรเซ็กซี่เลย
..อยากได้ อีมะลิอยากได้!!..
“ทำอะไรของแกอีกวะ..นั่งเป็นเจ้าเข้าเลย” นาราแซวเมื่ออยู่ดีๆ มะลิก็พนมมือขึ้นทำปากขมุบขมิบ
“อย่ารบกวนดิวะ..ฉันกำลังร่ายคาถา เรียกผู้ชาย”
“อีเหี้ย..ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ..ฉันไม่อยากจะเชื่อ” นาราส่ายหน้าก่อนหัวเราะขบขำ
พรึ่บ!
แต่ยังไม่ทันที่มะลิจะร่ายคาถาเสร็จด้วยซ้ำ อยู่ๆ ลูกบาสก็หล่นลงมาอยู่ตรงเท้าของเธอพอดิบพอดี เจ็บไหมก็เจ็บแหละแต่ไม่มาก หญิงสาวก้มลงเก็บลูกบาสขึ้นมาไว้บนตัก และทันใดนั้นตากลมโตก็เบิกกว้างเมื่อร่างสูงของกวินเดินตรงมายังที่นั่งของเธอ
“เชี่ย..พี่กวินกำลังเดินมาทางนี้ ทำไงดี ฉันต้องทำยังไงดีพวกแก"
มะลิตีแขนนารารัวๆ เธอหันซ้ายหันขวาอย่างเลิ่กลั่กเพราะทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าเล็กร้อนวูบวาบทั้งที่ตั้งใจจะมาตกเขา เอาเข้าจริงเธอกลับถูกดาเมจของกวินฟาดเข้าอย่างจัง สติสตังหายไปหมดแล้วตอนนี้
"นิ่งๆ เข้าไว้นังมะลิ..พี่เขาเดินมาใกล้แล้ว"
นารากระซิบข้างหูเพื่อนเบาๆ จนมะลิสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วนั่งตัวตรง
“น้องเจ็บหรือเปล่าครับ พี่เห็นว่าลูกบาสมันหล่นใส่เท้าเรา”
ใบหน้าหล่อใสที่ยื่นเข้ามาใกล้ทำเอามะลิแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่เพราะแรงดุนหลังยิกๆ จากนาราทำให้เธอรีบตั้งสติ แล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้เขา
..เอาวะ..ขอตอแหลสักหน่อยก็แล้วกัน..
“หนูเจ็บเท้ามากเลยค่ะพี่กวิน ไม่รู้ว่าเคล็ดหรือเปล่า..”
มะลิกะพริบตาปริบๆ พลางก้มลูบเท้าตัวเอง เธอนิ่วหน้าทำเหมือนเจ็บเสียเต็มประดา จากนั้นก็แอบเงยหน้าขยิบตาให้เพื่อนทั้งสอง เพื่อส่งสัญญาณให้เป็นกองหนุนในการเล่นละครครั้งนี้ให้สมจริงยิ่งขึ้น
“ใช่ค่ะ..เมื่อกี้มะลิร้องเสียงดังมากเลย สงสัยจะโดนแรงอยู่นะคะ” แวนด้าตามน้ำอย่างรู้งาน
"ใช่ๆ" นาราก็พยักหน้างึกๆ ทอดสายตามองมะลิอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“จริงเหรอครับ..พี่ขอดูหน่อยนะ"
กวินหยิบลูกบาสส่งให้เพื่อน ก่อนทรุดตัวคุกเข่ากับพื้น แล้วถอดรองเท้าส้นสูงของมะลิออก ส่งผลให้มีเสียงกรี้ดกราดฮือฮาของนักศึกษาหญิงในสนามเป็นการใหญ่
บางคนก็ถ่ายรูปเพื่อแอบส่งให้เพจซุบซิบของมหาลัยได้เขียนข่าว บางคนก็มองด้วยความอิจฉาตาร้อน และบางคนก็ถึงกับรีบค้นหาประวัติของมะลิกันเลยทีเดียว
แชะ แชะ แชะ!!
มะลิอมยิ้มอย่างพอใจแต่เพียงไม่นานก็ปรับสีหน้าเป็นเหยเกเล่นละครตบตา เมื่อมือหนานุ่มของกวินคลึงตามข้อเท้าของเธออย่างอ่อนโยน
..หื้มม ไม่ไหว เลือดกำเดากูจะไหล ..
“พี่นวดแบบนี้ น้องยังรู้สึกเจ็บมั้ยครับ?”
“อื้อ..เจ็บค่ะ อ๊ะ เจ็บมากเลยค่ะพี่กวิน อ่าส์”
เสียงกระเส่าของมะลิทำให้กวินต้องเงยหน้ามองเธอแล้วขมวดคิ้วยุ่ง ถ้าหูไม่ฝาดเมื่อกี้เด็กคนนี้ทำเสียงเหมือนร้องคราง ถ้าเขาไม่คิดอกุศลมากนักอ่ะนะ
“เอ่อ..น้องเจ็บจริงๆ ป่ะครับ?”
“เจ็บสิคะ..หนูเจ็บ..ฮึก” มะลิน้ำตาคลอเบ้า ปากบางสั่นระริก ทำท่าจะร้องไห้ จนกวินตกใจและรีบลุกขึ้นก่อนมองไปยังห้องพักนักกีฬาที่อยู่อีกฝั่งอย่างครุ่นคิด
“น้องพอเดินไหวมั้ยครับ..เดี๋ยวพี่พาไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นในห้องตรงโน้นก่อน น่าจะพอมียานวดอยู่”
“ไม่ไหวค่ะ หนูอ่อนแอ..หนูเจ็บมาก ไม่ไหวเลย ฮึก ฮือ ฮือ”
น้ำตาเม็ดโตหยดแมะๆ อย่างน่าสงสารในสายตากวิน แต่มันดูน่าตบในสายตานักศึกษาหญิงที่มองอยู่ ทุกคนดูออกว่ามะลิกำลังสำออย ก็มีแต่กวินเท่านั้นที่เชื่อว่าเธอเจ็บจริง เสียงพูดด่าทอมะลิว่าตอแหลดังอยู่เนืองๆ จนกวินต้องตวัดตามองเหมือนปรามให้หยุดพูด เสียงจึงเงียบลง
“งั้นพี่ขออนุญาตอุ้มน้องได้มั้ยครับ?” กวินเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าหล่อเหลามีแววเคร่งเครียดที่คิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุในการบาดเจ็บของรุ่นน้องสาว
“มันจะดีเหรอคะ?..” ถามไปงั้นแหละจ้า ใจจริงแทบอยากสิงร่างเขาอยู่แล้ว
“เจ็บขนาดนี้ ยิ่งลงน้ำหนักบนเท้า อาการก็จะยิ่งแย่นะครับ พี่ว่าให้พี่อุ้มไปนวดยาที่ห้องพักนักกีฬาดีกว่า ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยไปห้องพยาบาล” กวินพูดอย่างใส่ใจ ความแสนดีของชายหนุ่มยิ่งทำให้มะลิหลงใหลเขาหนักขึ้นไปอีก
อยากได้ อยากได้ ต้องได้ ต้องได้ ผุดขึ้นมาเต็มหัว
มะลิค่อยๆ ช้อนตาเงยหน้าขึ้นมองกวิน หญิงสาวแสร้งทำเป็นลังเล จากนั้นก็ทำตาแป๋วกะพริบตาปริบๆ จนกวินที่ก้มมองถึงกลับหน้าเห่อร้อน เขายกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองเบาๆ เพราะเขินกับท่าทางน่ารักของมะลิ
..นั้นไง พี่เขาเขินกูแล้ว yes! สำเร็จ..
"ว่าไงครับจะยอมให้พี่อุ้มไปมั้ย?"
มะลิพยักหน้าน้อยๆ ก่อนตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ..”
..จะอุ้มขึ้นเตียงเลยก็ได้นะคะพี่กวินขา อ้ายยยยยย..
กวินช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วรีบเดินไปยังห้องพักนักกีฬา โดยที่ไม่สนใจเสียทัดทานจากบรรดานักศึกษาหญิงที่มองมะลิอย่างอาฆาต ที่อยู่ๆ ก็ได้ใกล้ชิดกวินแบบเนื้อแนบเนื้อ
“ฝากมะลิด้วยนะคะพี่กวิน..พวกหนูขอดูซ้อมบาสต่อ” นาราพูดเสียงดังไล่หลังกวินไป พร้อมกับแอบยิ้มให้มะลิที่หันกลับมามองอย่างเจ้าเล่ห์
หญิงสาวคล้องแขนที่คอแกร่งแล้วซบหน้าบนอกกว้างที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ บอกเลยนาทีนี้ไม่มีคำว่ารังเกียจ ถ้าเลียได้เธอเลียไปแล้ว ให้ตายเถอะ กลิ่นเหงื่อยังหอมเลย
ใบหน้าเล็กที่แต่งแต้มมาอย่างพิถีพิถันแอบอมยิ้ม ไม่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นใจให้เธอขนาดนี้ ถ้าไม่งมงายจนเกินไป มันคงเป็นกุศลผลบุญที่เมื่อเช้าเธอแหกขี้ตาตื่น เพื่อใส่บาตรตามคำแนะนำของกูรูด้านความรัก ที่เธอเสียเงินรายเดือนเข้าไลน์กลุ่มไปขอคำปรึกษา
..เสร็จอีมะลิแน่ พี่กวินคนหล่อ..