บทที่ 4 ห้อง 2001

1613 Words
บทที่ 4 ห้อง 2001 กวินย่อตัววางร่างบางลงเก้าอี้ในห้องพักนักกีฬา แต่อีกฝ่ายกลับกอดคอแกร่งไว้แน่น แถมยังซบใบหน้าเล็กลงบนอกของเขาอีกต่างหาก “น้องครับ..ปล่อยพี่ได้แล้วนะครับ” “อ่อ..ค่ะๆ ” มะลิผละออกแล้วขยับตัวนั่งให้เข้าที่เข้าทาง ตามองตามร่างสูงที่เดินไปหยิบหลอดยาในตู้พยาบาลเล็กๆ ที่อยู่มุมห้อง มือบางรีบคว้าโทรศัพท์ในกระเป๋าแชทบอกนารากับแวนด้าให้กลับไปก่อน เธอคงอยู่ห้องนี้อีกนาน และเพื่อนสองคนก็ตอบกลับมาว่า ..ขอให้ได้ ขอให้โดน.. มะลิส่งสติ๊กเกอร์โอเคตอบกลับไปเป็นจังหวะเดียวกับที่กวินเดินมาคุกเข่าบนพื้น แล้วจับเท้าเธอวางบนขาของเขา ส่งผลให้ใบหน้าเนียนใสเห่อร้อนอย่างควบคุมไม่ได้ “พี่ทายานะครับ” “ค่ะๆ ..” มะลิพยักหน้าก่อนยิ้มพอใจ มองไปตามแขนแกร่งที่ขยับยุกยิกอยู่ตรงเท้าของเธอ ..โอ๊ย ฟิน ฟินไปสามบ้านแปดบ้าน แม่เอ๊ย... “ทนเจ็บหน่อยนะครับ..พี่ขอนวดข้อเท้าเรานิดนึง” “ค่ะ” คือตอบอย่างอื่นไม่ได้เลย เพราะใบหน้าหล่อเหลาที่เงยขึ้นมาเมื่อกี้ทำเอาใจเต้นโครมคราม มะลิเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เปลือกตาบางใสค่อยๆ ปิดลง จากนั้นก็จินตนาการติดเรท 18+ ว่าเขากำลังลูบไล้ขาอ่อนของเธออย่างเร่าร้อนเหมือนในหนังเอวีที่เคยดู ..งู้ย มันดีมากเลยอ่ะ.. มือบางยกขึ้นสางผมดกดำของกวินอย่างลืมตัว ก่อนจะกดศีรษะเขาให้ต่ำลงไป จนชายหนุ่มต้องผละมือออก แล้วขยับถอยห่างหน้าตาตื่นจนมือบางหลุดออกจากศีรษะ ตาสีนิลมองรุ่นน้องสาวด้วยความฉงนกับอาการไม่ปกติของเธอ “น้องครับ..น้อง!” เสียงเรียกที่ดังชัดดึงมะลิออกจากความคิด เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาก่อนจะเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อกวินยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม “เอ่อ..คือ หนูเจ็บมากเลยเผลอตัวไปนิดนึงค่ะ ขอโทษนะคะ” มะลิยิ้มเจื่อนแล้วยกมือไหว้ขอโทษ จากนั้นก็เปลี่ยนมาลูบขาตัวเองทำหน้าละห้อย เพื่อเรียกคะแนนสงสาร “พี่ว่านวดยาแล้ว..น่าจะดีขึ้นนะ” ด้วยความที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี กวินจึงไม่ติดใจกับพฤติกรรมแปลกๆ ของอีกฝ่าย แม้จะเริ่มตงิดใจสงสัยว่าเธอเจ็บจริงหรือเปล่า เพราะเอาจริงๆ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้หญิงพยายามใช้มายาเข้าหา แต่เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันที่เขากลับไม่ได้รำคาญรุ่นน้องคนนี้เหมือนที่รำคาญคนอื่น “ขอบคุณนะคะ..ที่นวดยาให้หนู” มะลิยกมือไหว้ทำตาแบ๋วๆ เลียนแบบลูกแมวที่เห็นในคลิปของกวินบ่อยๆ ..อ่อยเรี่ยราดขนาดนี้ มันต้องมีสักอย่างแหละที่โดนใจเขาบ้าง.. “แล้วเราจะกลับยังครับ..ให้พี่ไปตามเพื่อนมาช่วยพยุงมั้ย” “ไม่ต้องค่ะ!!” มะลิรีบคว้าแขนเขาไว้แล้วโพล่งออกมาเสียงดัง จนกวินขมวดคิ้วยุ่ง “เสียงดังทำไมครับ” “เพื่อนหนูทักมาบอกเมื่อกี้ว่ามีธุระด่วนเลยกลับไปแล้วค่ะ” “อ้าว..ทำไงล่ะทีนี้” กวินค่อยๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุมอย่างสุภาพ เขาลูบต้นคออย่างใช้ความคิด จะทิ้งให้กลับเองก็กระไรอยู่ ครั้นจะอาสาไปส่งก็คงไม่ดีแน่ แค่คนทั้งสนามเห็นเขาอุ้มเธอเข้ามาในนี้ก็แย่พอแล้ว ไม่รู้ว่าลดาจะคิดยังไงหากรู้เรื่อง เขาแคร์ความรู้สึกของแฟนสาวมากกว่า “เจ็บขาแบบนี้หนูคงขับรถกลับไม่ได้แน่..พี่กวินต้องรับผิดชอบนะที่ทำให้หนูเจ็บ ” "รับผิดชอบยังไงครับ" "พี่กวินต้องไปส่งหนู..นะคะ..น๊าาา" มะลิทำเสียงออดอ้อน ปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ น่าเอ็นดู กวินถึงกับเสียอาการ นอกจากลดาแฟนสาวแล้ว ก็ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกเขินมาก่อน รุ่นน้องคนนี้เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้เขาสนใจ ว่ากันตามตรงเขาสังเกตเห็นเธอตั้งแต่เดินมาในสนาม ด้วยสีผมที่โดดเด่น หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาบลายธ์ ทำเอาเขายืนจ้องอยู่นานโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว ตอนที่เดินเข้าไปหาเธอตรงอัฒจันทร์ใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งได้มองใกล้ๆ บอกเลยว่า เธอโคตรน่ารัก ..อย่านะเว้ยกวิน แกมีแฟนแล้ว อย่ายุ่งกับน้องเด็ดขาด.. แต่ก็นะ.. “ก็ได้ครับ..น้องนั่งรอในนี้ก่อนได้มั้ย..พี่ขอไปซ้อมอีกซักหน่อย กลับมืดนิดนึงคงไม่เป็นไรใช่ป่ะ” ใจจริงไม่ได้อยากไปซ้อม แต่อยากให้คนในสนามออกไปหมดเสียก่อน เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น อยากเลี่ยงการซุบซิบนินทาจึงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขากับรุ่นน้องสาวกลับด้วยกัน เฮ้อ..ทำเหมือนแอบมีกิ๊กเลยวะ ! “ได้ค่ะ..หนูจะรอนะคะ” มะลิตอบรับอย่างว่าง่าย ในใจนึกกระหยิ่มยิ้มย่อง อะไรๆ ก็ดูง่ายไปหมด และถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป พี่กวินเหมือนจะแอบหวั่นไหวอยู่ไม่น้อย ..บอกแล้วว่าขอให้เขาได้เจอเธอก่อนเถอะ ถึงจะตัดสินว่าเธอควรหยุดหรือไปต่อ.. @คอนโดมะลิ รถBMW วิ่งเข้ามาจอดในลานจอดรถคอนโดหรูใจกลางเมือง กวินแอบคิดว่าเด็กสาวคงมีฐานะอยู่ไม่น้อย ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และบริการที่ดีก็ต้องแลกมาซึ่งราคาที่โหดเช่นกัน เอาเป็นว่าคอนโดที่เขาอยู่ราคายังไม่ถึงครึ่งของที่นี่เลย “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” มะลิยิ้มพร้อมยกมือไหว้อย่างน่ารัก พลางคิดหาวิธีให้เขาไปส่งเธอบนห้อง ..ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ.. “ครับ..ว่าแต่คุยกันมาตั้งนาน พี่ยังไม่รู้เลยว่าเราชื่ออะไร” กวินไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่ถามตามมารยาท แต่อีกคนกลับมีท่าทีดี๊ด๊า “หนูชื่อนางสาวเทียนกัลยา จันกระโทก ชื่อเล่น มะลิ ปี 1 คณะบริหาร เป็นคนขอนแก่น ชอบกินอาหารรสจัด ชอบสีชมพู ชอบเต้นและก็ชอบดูการ์ตูนดิสนีย์ มีช่องชาเนลชื่อมะลิ_เทียนกัลยา พี่กวินไปกดติดตามด้วยนะคะ” “โห้..แนะนำตัวซะยาวเลยนะครับ ฮ่าๆ ” กวินยิ้มกว้างและหัวเราะเสียงดัง ทำเอามะลิที่จ้องหน้าเขาอยู่ถึงกับใจสั่น เขาดูมีเสน่ห์มากตอนยิ้มและหัวเราะ ..ตายกูตาย รอยยิ้มชวนเสียตัวมากพ่อ!.. “ก็หนูอยากให้พี่รู้จักหนูเยอะๆไงคะ..” “งั้นก็..ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องมะลิ” กวินพูดเฉยๆ แต่อีกคนกลับยื่นมือมา พร้อมกับพยักพเยิดหน้าให้เขายื่นมือมาจับกับเธอ “อ่าๆ ..โอเคๆ ” กวินจับมือบางก่อนเขย่าเบาๆ แล้วปล่อยอย่างสุภาพเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย ..สุภาพ แสนดีแบบนี้ ไม่หลงยังไงไหว งื้ม.. “งั้นหนูไปแล้วนะคะ..” “ครับ” ทีแรกกวินกะจะถามว่าเธอเดินไหวไหม แต่เมื่อเธอเอี้ยวตัวเปิดประระตูรถลงไปเขาเลยปล่อยเลยตามเลย แต่เสียงอุทานด้วยความเจ็บปวดก็ทำเอาเขาตกใจ รู้สึกเป็นเป็นห่วงเธอขึ้นมาทันที “โอ๊ย..เจ็บอ่ะ เดินไม่ไหวแน่ๆ เลย ทำไงดีน๊า” บ่นเบาๆ แหละ แต่ได้ยินไปไกลแปดพันเมตร เด็กสาวแอบยิ้มเมื่อกวินรีบลงจากรถแล้วเดินเข้ามาจับแขนเรียวเอาไว้ “ให้พี่ช่วยพยุงไปส่งที่ห้องดีกว่านะครับ ถ้าลงน้ำหนักที่เท้ามากไปพรุ่งนี้อาจบวมได้” “มันจะดีเหรอคะ” ..ดีสิดีมาก กรี้ดดด ต้องได้ ได้แน่ๆ .. “ถ้าเราไม่สะดวก..ก็ไม่เป็นไรครับ” “หนูกลัวจะดูไม่เหมาะค่ะ แต่หนูอยู่ชั้น 20 ห้อง 2001 นะคะ” “ตกลงเอาไงครับ..จะให้พี่ขึ้นไปส่งมั้ย? ” กวินยิ้มขำกับคำพูดย้อนแย้งของมะลิ “แหะๆ ไปสิคะ..หนูเจ็บเท้าขนาดนี้คงเดินไม่ไหวแน่” “โอเค..ค่อยๆ เดินนะครับ” ปีนี้รางวัลออสก้าต้องเป็นของมะลิ เพราะตีบทแตกเหลือเกิน ท่าเดินกะเผลกๆ กับใบหน้าเหยเกเวลาลงน้ำหนักที่เท้า ทำให้กวินต้องดึงเธอเข้าใกล้ตัวเขามากขึ้นเพื่อพยุงไม่ให้ล้ม ทั้งคู่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาหยุดอยู่หน้าห้องสุดหรู ทั้งชั้นมีเพียงสองห้อง กวินถึงกับประหม่ารู้สึกว่ามะลิดูไฮโซเกินไป เธอบอกว่าเป็นคนขอนแก่น แต่น่าจะเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีในจังหวัดเลยทีเดียว ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด “0 1 2 5” เสียงพูดรหัสห้องชัดๆ เน้นๆ ทำเอากวินยิ้มขำ เขาส่ายหน้าเบาๆ ก็รู้แหละว่ามะลิกำลังอ่อย มันตงิดๆ ตั้งแต่อยู่ในห้องพักนักกีฬาแล้ว แต่เพราะห่วงอาการบาดเจ็บของเธอเขาเลยมองข้ามประเด็นนี้ไป จนตอนนี้ก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอเจ็บจริงหรือเปล่า แต่พอเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักที่มองเขาตาแป๋ว ชายหนุ่มก็ตัดความสงสัยทิ้งไปในทันที ..คงเจ็บจริงล่ะมั้งดูจากสีหน้าท่าทาง.. แกร็ก.. “พี่กวินเข้ามาในห้องมะลิก่อนสิคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD