ปภาวรินทร์ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเธอกำลังร้องไห้ ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะขึ้นมาจากอ่างน้ำอุ่น เพิ่งได้เห็นใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำว่ากำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา “พี่หมอใจร้าย” ปภาวรินทร์เอ่ยเสียงสั่นเครือ หลังมือเรียวยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนบนใบหน้าออกอย่างลวกๆ มองภาพสะท้อนที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไรนักของตัวเองผ่านกระจกก็ยิ่งสะท้านในอก ปัญหาวิ่งเข้าใส่เธอแทบทุกทางจนปภาวรินทร์ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เธอไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ร่างบางพาตัวเองออกจากห้องน้ำ นั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง แม้ว่าเธอจะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจสักเท่าไรแต่สิ่งที่เธอต้องทำทุกคืนก่อนนอนนั่นก็คือการดูแลผิวหน้าและผิวกายของตัวเองเพราะมันมีผลต่ออาชีพของเธอ ปภาวรินทร์พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแต่ก็ยังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะระหว่างที่ทาครีมไปด้วย สิ่งที่จะช่วยให้ความหนักอึ้งในอกของเธอเบา