ประโยคที่ว่า 'หมาเห่าไม่กัด' สถานการณ์ตอนนี้กลับใช้ไม่ได้อีกต่อไป
"กรี๊ดดดด ช่วยด้วย!"
อิงดาวเสียหลักเกือบล้มหงายตึง ถ้าไม่ติดว่าหมอหนุ่มโอบเอวพยุงเธอไว้เสียก่อน ร่างกายทั้งสองแนบชิดติดกันจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากคนตัวสูง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจหรือเพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าของเขา ที่ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยของอิงดาวเต้นแรงจนแทบระเบิด ลืมเรื่องบาดแผลของตัวเองแล้วโฟกัสที่ใบหน้าหล่อคมของเขาคนนี้เพียงอย่างเดียว
“สะท้าน หยุด!”
“หมอบ!”
เสียงดุดันออกคำสั่งของเจ้านาย ทำเอาผมหน้าม้าของอิงดาวสั่นสะเทือน เจ้าสะท้านจอมแสบรีบนั่งลงแล้วแกว่งหาง กระดิกหูออดอ้อน สายตาของเจ้านายทำให้มันรู้แล้วว่าได้ก่อเรื่องใหญ่หลวงเข้าซะแล้ว
อิ๋ง~ อิ๋ง~
“คุณเจ็บตรงไหนบ้าง!”
“เหลวเป็นน้ำแล้วค่ะ”
“ครับ”
กรี๊ด!! สาบานว่าเธอแค่พึมพำแต่เสียงคงดังมาก ยิ่งเมื่อเห็นหน้าใสๆ นั่นในระยะใกล้ปากสั่นยิ่งไปกันใหญ่ ใจก็ปล่อยเบลอจนคิดหาคำแก้ตัวไม่ทัน
“อะ...อิงหมายถึง ....เอ่อน้ำลายค่ะ โอ๊ย~แผล...เจ็บจัง” ทีแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอเห็นเลือดบนแขนตัวเองก็แทบจะเป็นลมล้มไปกอง
"แขนคุณมีแผล คุณต้องรีบไปโรงพยาบาลกับผมตอนนี้"
น่านฟ้าถือวิสาสะสำรวจบาดแผลตามร่างกายเธอ ส่วนอิงดาวก็ลอบเป่าลมออกจากแก้มป่องท่ามกลางอุณหภูมิภายในร่างกายที่เริ่มสูงขึ้นแปลกๆ
“เป็นแผลยาวเลยค่ะ รีบพาน้องอิงไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ” ชัดเจนบอกด้วยความร้อนใจและสติของทุกคนเริ่มกลับมา รวมถึงอิงดาวด้วย
ไม่รอช้าน่านฟ้าก็รีบนำตัวอิงดาวเข้าไปล้างแผลรอยข่วนด้วยสบู่ แม้มือของเขาเบามากแต่ก็แสบอยู่ดี อิงดาวต้องกัดฟันเอาไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา จากนั้นเขาก็รีบพาเธอเดินทางไปโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ทันที
“อันที่จริงคุณหมอไม่ต้องพาอิงไปโรงพยาบาลก็ได้นะคะ อิงขับรถไปเองก็ได้”
ว่าพลางพลิกหลังแขนดูแผลที่ถูกข่วนเป็นทางยาวขึ้นดู ตายแล้วจะเป็นแผลเป็นมั้ย แต่พอสลับไปมองใบหน้าคมด้านข้างของคุณหมอหนุ่ม ก็พบว่าเขามีสีหน้าเคร่งเครียดมากกว่าเธอ หน้าผากมีร่องลึกจนคิดว่าครีมลบริ้วรอยจากเกาหลีก็คงกู้หน้ากลับมายาก
“ไม่ได้หรอกครับ หมาของผมทำให้คุณเจ็บก็ต้องรับผิดชอบถึงจะถูกต้อง ขอโทษคุณด้วยที่ผมดูแลหมาได้ไม่ดี จนคุณต้องมาเจ็บตัวแบบนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เจ้าสะท้านของคุณอาจจะแค่หยอกเล่น”
อิงดาวคิดบวกแก้ต่างแทนสุนัขตัวนั้น ทว่าหยอกแรงจนหน้าเกือบเสียโฉม แขนทั้งสองแสบไปหมด แถมมีแผลพกช้ำจากรอยเขี้ยวของมันอีก ดีแค่ขบให้ช้ำไม่ถึงกับเลือดออก จากประสบการณ์สุนัขพันธุ์นี้ไม่ได้ดุร้าย เธอเคยเห็นเจ้ามะพร้าวสุนัขของเธอที่เลี้ยงเอาไว้ที่บ้านก็ชอบกระโดดสูงกอดเธอเช่นกัน แต่เจ้าสะท้านเหมือนต้องการเอาชีวิตเสียมากกว่า
“ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบครับ"
"รับผิดชอบยังไงคะ"หญิงสาวหันขวับไปมองด้วยความสนใจ หวังเป็นการปลอบขวัญด้วยการให้คุณหมอพาไปเลี้ยงข้าวสักมื้อ
"ตอนนี้ผมต้องรีบพาคุณไปทำแผล ฉีดยาป้องกันบาดทะยักและโรคพิษสุนัขบ้า ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดครับ”
น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณหมอไม่ได้ช่วยให้อิงดาวใจชื้นขึ้นมาเลยสักนิด แค่ได้ยินว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างเธอก็ถึงกับกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ รู้ดีว่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไม่ใช่ฉีดแค่เข็มเดียว บางทีแขนที่โดนสุนัขข่วนอาจจะไม่เจ็บเท่าโดนฉีดยาพวกนั้นก็ได้ แบบนี้ไม่ต้องรับผิดชอบก็ได้มั้ง
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์ของน่านฟ้าก็ขับขึ้นมาจอดตรงหน้าห้องที่เขียนว่า EMERGENCY ROOM หรือห้องฉุกเฉิน ทันทีที่รถจอดสนิทน่านฟ้าก็นำอิงดาวเข้าไปยังห้องฉุกเฉินโดยที่ไม่ผ่านจุดคัดกรอง
เธอเริ่มภาวนาในใจ ให้การรักษาเป็นเพียงแค่ทาเบตาดีนเฉยๆ แล้วส่งเธอกลับบ้านไปซะ
“ส่งเข้าไปรอทำแผลนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทำแผลเอง” น่านฟ้าหันไปคุยกับเจ้าหน้าที่เวรเปลจากนั้นก็เดินหายไปอีกทาง
สักพักก็มีพยาบาลเข้ามาซักประวัติวัดความดันและถามข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย จากนั้นพยาบาลคนเดียวกันก็หันไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผล
“พี่อิง! เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้มานั่งอยู่ในห้องนี้”
แต่ระหว่างที่อิงดาวนั่งรออยู่บนเตียงทำแผลแบบที่จิตใจเริ่มห่อเหี่ยวอยู่นั้น เสียงทักทายที่คุ้นหูก็ดังขึ้นพร้อมกับณัฐนันทร์ที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเธอ
“นินิว”
ณัฐนันทร์หรือนินิวเป็นน้องชายของนะนาง เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ประจำแผนกอุบัติเหตุอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ดีเหมือนกันที่เจอคนรู้จัก เพราะเธอเข้ามาภายในห้องทำแผลแล้วรู้สึกกลัวจนทำอะไรไม่ถูก
"นี่พี่โดนอะไรมา"
“หมากระโดดข่วนมาอ่ะ ตรงที่โดนกัดก็กัดไม่เข้าหรอก ไม่ฉีดยาได้มั้ยพี่กลัวเข็ม”
“ไม่ได้พี่ ต่อให้พี่หนังเหนียวจนหมากัดไม่เข้า ยังไงก็ต้องฉีดวัคซีน เกิดแสงจันทร์สาดส่องลงมาแล้วพี่กลายเป็นมนุษย์หมาป่าขึ้นมาทำไง”
“อีนิว”อิงดาวแยกเขี้ยวใส่ นี่โดนหมาบ้านข่วนโว้ยไม่ใช่หมาปีศาจเหมือนในหนัง ชักเริ่มเป็นห่วงโรงพยาบาลแล้วสิ มีหมอแบบนินิวคนไข้จะต้องมาจบชีวิตลงที่นี่วันละกี่รายกัน
“เอ็กเทิร์นดูด้วย ว่าคนไข้คนไหนต้องรีบไปช่วยชีวิตก่อน”
ยังไม่ทันที่นินิวจะเข้าไปดูบาดแผลของอิงดาว เสียงดุๆ ของคุณหมอน่านฟ้าก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้นินิวชะงักแล้วหันไปมองด้านหลังของตัวเอง
“ขอโทษครับอาจารย์ ผมแค่ขอดูแผลของพี่สาวผมเองนะฮะ” คนถูกดุรีบอธิบาย
“รีบไปช่วยทางนั้นทำซีพีอาร์คนไข้ประสบอุบัติเหตุรถชนไป”
อิงดาวมองรุ่นน้องสลับกับคุณหมอน่านฟ้า จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือโบกไล่ให้นินิวรีบไปช่วยทางนั้น
แต่ก่อนไปก็ไม่ลืมกำชับอาจารย์หมอแผนกศัลยกรรมเอาไว้ด้วย “อาจารย์ดูแลพี่สาวผมดีๆ นะ เดี๋ยวผมจะกลับมาตรวจงาน”
น่านฟ้าปรายตามองน้องเอ็กเทิร์นจอมกวนประจำแผนกอีอาร์ด้วยสายตาดุๆ นินิวก็รีบวิ่งไปช่วยพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินปั๊มหัวใจคนไข้รายนั้น อาการค่อนข้างวิกฤตเพราะหมอและพยาบาลหลายคนต่างกำลังวิ่งวุ่นช่วยชีวิต
อิงดาวมองตามด้วยความตื่นเต้น ไม่สามารถละสายตาจากท่าทีจริงจังของนินิวได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เห็นแบบนี้แล้วก็อยากถ่ายรูปส่งไปให้นะนางดูเสียจริง เธอจะต้องภูมิใจในตัวน้องชายมากแน่ๆ
“ตรงนั้นเป็นเคสคนไข้วิกฤต ต่อให้ตรงหน้าเป็นญาติของหมอแต่อาการไม่รุนแรง ก็ต้องรีบช่วยคนไข้วิกฤตก่อน”
“อ่อค่ะ” อิงดาวรีบพยักหน้ารับแบบง่าย รู้สึกเหมือนเขากำลังดุเธอทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรเรื่องที่เขาสั่งให้นินิวไปดูแลคนไข้ทางนั้น ท่าทางคุณหมอน่านฟ้าคนนี้จะดุอยู่พอสมควร แต่เธอเป็นคนไข้ที่เขาต้องรับผิดชอบ ไยต้องมาทำเสียงตำหนิใส่เธอด้วย
น่านฟ้าอมยิ้มใต้หน้ากากอนามัยเมื่อเห็นสีหน้าถอดสีของคนตัวเล็ก เอ็กเทิร์นหลายคนแอบเอาเขาไปนินทาอยู่บ่อยๆ ว่าเสียงดุจนน่ากลัว ดูๆ แล้วคู่กรณีเขาคนนี้ก็คงคิดไม่ต่างจากนักศึกษาแพทย์เหล่านั้น
พยาบาลที่เตรียมเครื่องมือให้น่านฟ้าดึงผ้าม่านปิดลง ทำให้คนตัวเล็กไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านนอกได้อีก จะมีก็แต่เสียงเครื่องช่วยชีวิต ที่กำลังดังระงมอยู่ทั่วบริเวณห้องฉุกเฉินพาลให้ใจคนไม่คุ้นชินสั่นกลัว
“คุณหมอไม่ไปช่วยทางนั้นเหรอคะ” คนที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงถามตาใสแล้วยิ้มบางๆ ก็เขาบอกเองว่าคนไข้วิกฤตต้องได้รับการรักษาก่อนคนไข้ธรรมดาไม่ใช่เหรอ
“ไม่ครับ ผมมีคนไข้ที่ต้องดูแลอยู่แล้ว”
เขาไม่ได้เป็นหมอประจำห้องฉุกเฉิน ไม่ได้ตั้งใจเจตนาก้าวก่ายงานของแผนกอื่น แต่เห็นว่าทุกคนกำลังอยู่ในช่วงเวลาพักเที่ยง ประจวบกับมีเหตุเร่งด่วน น่านฟ้าจึงขันอาสาปฐมพยาบาลให้อิงดาวเอง
“วันนี้ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักและวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านะครับ”
"เอ่อ...มีแบบกินมั้ยคะ อิงว่ากินเอาน่าจะสะดวกกว่า"
"ไม่มีหรอกครับ นี่คือวัคซีนไม่ใช่แอลตาซินแก้จุกเสียดท้อง วันนี้ฉีดสองเข็มนะครับ"
น่านฟ้าที่กำลังสวมถุงมือปลอดเชื้อบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อิงดาวไม่อยากพยักหน้ารับแต่ก็ต้องทำ ระหว่างที่คุณหมอน่านฟ้าจะลงมือปลิดชีพไม่สิ...รอฉีดวัคซีน หัวใจดวงน้อยนั้นร้องไห้จนเปียกปอนไปหมด เพราะเธอกลัวเข็มมากกว่าจิ้งจก ตุ๊กแก แมลงสาบเสียอีก