บทที่ 5

1389 Words
เวลาผ่านไปไม่นาน ลูกน้องของคาเดนก็ได้มารายงานเขาว่าเจอไอรินอยู่ที่โซนวีไอพี01 คาเดนพอจะมีวิธีที่จะทำให้ไอรินยอมสยบให้เขาแล้วละ ชายหนุ่มก้าวเดินมาตรงโซนวีไอพีอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งได้พบกับร่างแบบบางของไอรินที่กำลังนั่งจิบไวน์แดงอยู่กับกลุ่มเพื่อนสาวของเธอ ไอรินช่างเป็นผู้หญิงที่ดูสง่าผ่าเผยและดูดีมีออร่า เขาเหลือบไปเห็นผู้ชายโต๊ะข้างหลังกำลังนั่งจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ เสน่ห์แรงจริงๆ นะแม่คุณมีแต่คนจ้องจะจับกิน รวมถึงตัวเขาด้วยเหมือนกัน “ไอริน” คาเดนเอ่ยเรียกหญิงสาวเสียงทุ้มทรงพลัง “คุณคาเดน” ไอรินคิ้วขมวดหันมาตามเสียงเรียก ทั้งสองคนมองจ้องตากันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่ไอรินจะเอ่ยขึ้นมาอย่างเสียงแข็ง “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ป่าวครับ แค่มาทักทาย” ส่วนเพื่อนสาวทั้งสามคนของไอรินได้แต่ตกตะลึงในความหล่อเหลาของชายหนุ่มจนตาค้าง “อย่ากลับดึกมากนะครับ เดี๋ยวคุณพิพัฒน์เป็นห่วง” คาเดนเอ่ยอย่างเป็นห่วงเป็นใย “…” ไอรินไม่ตอบกลับอะไร ได้แต่บอกหน้าคาเดนอย่างจับผิด ถึงคำพูดคำจาของคาเดนจะดูเป็นคนดีเป็นมิตรแต่ไอรินกลับรู้สึกว่าสายตาของเขามันไม่น่าไว้ใจเลย “สวัสดีครับสาวๆ” คาเดนเอ่ยทักทายกลุ่มเพื่อนสาวของไอริน ถึงทุกคนจะหน้าตาสละสลวยหุ่นดี แต่ก็มีเพียงไอรินที่ดูสวยโดดเด่นที่สุดอยู่ดี “สวัสดีค่ะ” ทั้งสามสาวเอ่ยพร้อมกัน “ริน เมาหรือยัง แล้วขับรถมาคนเดียวหรอ” ชายหนุ่มเริ่มปากว่ามือถึง เขาย่อตัวลงนั่งข้างๆ ไอริน มือหนาเอื้อมไปจับไหล่บางอย่างแผ่วเบา “ไม่เมา..ค่ะ” หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำสีหน้าปกติ คาเดนยิ้มอ่อนส่งไปให้ไอริน พนักงานเสิร์ฟเดินมาบริการที่โต๊ะของพวกเธอพอดี คาเดนจึงเอ่ยขึ้นเสียงเข้มกับพนักงาน “เดี๋ยวโต๊ะนี้ลงบัญชีฉันไว้นะ” “ค่ะ นายท่าน” พนักงานเสิร์ฟเอ่ยพร้อมกับก้มหัวให้คาเดนหนึ่งครั้งแล้วหันไปทำหน้าที่รินไวน์ให้สาวๆ ต่อ “ขอบคุณมากเลยนะคะคุณคาเดน” สกายเอ่ยพร้อมกับยิ้มหวานส่งไปให้ชายหนุ่ม ใครจะไม่รู้จักคาเดน แคสเซียส เจ้าของโรงแรมหลายแห่งในประเทศบ้างละ “งั้นมาชนแก้วกันหน่อยนะคะคุณคาเดนเพื่อเป็นการขอบคุณ” ปีใหม่ยกแก้วขึ้นมาอีกครั้ง เป็นจังหวะที่พนักงานเสิร์ฟรินไวน์ในคาเดนเสร็จพอดี “ชนครับ” เคร้งง! “หมดแก้วว” ปีใหม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงสดใส “พอแล้วปีใหม่ เธอเริ่มจะเมาแล้วนะ” แพรวาบ่นอุบ “นานๆ ที ไม่เป็นไรหรอก” “เดี๋ยวผู้จัดการแกก็บ่นหรอก” “ไม่เป็นไรๆ” “พอดีผมยังดื่มกับพวกเพื่อนอยู่ ยังไงต้องขอตัวก่อนนะครับ ตามสบายเลยนะ” คาเดนเอ่ยกับกลุ่มเพื่อนสาวของไอริน แล้วหันมาเอ่ยเสียงนุ่มนวลกับไอรินต่อ “อย่าเมามากนะริน” “ค่ะ” ไอรินหน้านิ่งตอบกลับไปเสียงแข็ง คาเดนลุกยืนเต็มความสูงพร้อมกับเดินออกไปอย่างช้าๆ เหยื่อแบบไอรินเขาต้องค่อยๆ จู่โจมทีละนิดๆ ถ้าจู่โจมตรงๆ ทีเดียวเธอคงได้ทำร้ายร่างกายเขาแบบวันแรกอีกแน่ “ยังไง” แพรวาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย “อะไรคือยังไง” ไอรินคิ้วขมวดมองหน้าเพื่อนสาว “อยู่ในขั้นไหนกันจ๊ะ กำลังจีบกันหรือคบกันอยู่” “พูดอะไร รินกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน” “ดูจากท่าทางเขา ใครก็มองออกจ้ายัยริน” ปีใหม่ตอบกลับไอริน “นี่ พอๆ รินกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น เลิกคุยเรื่องนี้” ไอรินพูดปัดๆ เพื่อให้พวกเพื่อนของเธอเลิกถามซักไซ้กันต่อ สามสาวพูดคุยแซวเล่นหยอกล้อกัน จะมีก็แต่สกายที่มองตามคาเดนไม่วางตา สกายรู้สึกชอบคาเดนอย่างบอกไม่ถูก ถ้าไอรินบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเธอก็ยังมีสิทธิ์นะสิ คาเดนกลับมายังห้องวีไอพีที่กลุ่มเพื่อนเขาอยู่ก็พบว่าเคแลนกลับไปแล้ว เหลือเพียงแค่นักรบกำลังนั่งกินเหล้าอยู่คนเดียว คาเดนและนักรบจึงนั่งคุยกันอยู่สองคน จวบจนเวลาผ่านไปถึงตีสองพวกเขาจึงแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง สามวันต่อมา… ร่างอรชรสวมชุดสูทแขนยาวเข้ากับกางเกงเอวสูงสีขาว เสื้อด้านในเป็นเสื้อสายเดียวสีเทาดูเป็นทางการแต่ก็แฝงไปด้วยความเซ็กซี่เบาๆ ไอรินย่างกรายเข้ามาในบริษัทพร้อมกับพิพัฒน์บิดาของเธอด้วยท่าทางนิ่งเรียบ พิพัฒน์เรียกทุกฝ่ายเข้าประชุมเพื่อแนะนำไอรินให้กรรมการและทุกคนได้มาทำความรู้จักกับประธานบริษัทคนต่อไป พิพัฒน์มีลูกสาวเพียงคนเดียวเขาก็ต้องให้ไอรินขึ้นเป็นประธานแทนเขาอยู่แล้ว แต่ก่อนที่ไอรินจะได้ขึ้นตำแหน่งเธอจะต้องศึกษางานอีกเป็นปีๆ เพื่อให้คนอื่นเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของเธอ หลังจากประชุมเสร็จ ไอรินมาประจำที่ห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ติดกับห้องทำงานของพ่อเธอ หญิงสาวมองแฟ้มที่กองอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ เธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อบริษัทที่พ่อกับแม่ของเธอสร้างขึ้นมา ไอรินใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการอ่านและศึกษาเอกสารตรงหน้าที่ยังไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ จนพิพัฒน์ต้องเคาะประตูเรียกให้ไอรินกลับบ้าน “ริน กลับบ้านได้แล้วลูก มันหมดเวลางานแล้ว” “พ่อกลับก่อนเลยค่ะ รินจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย” ไอรินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พรุ่งนี้ค่อยมาอ่านต่อ กลับไปกินข้าวเย็นกับพ่อ” “ก็ได้ค่ะ” ไอรินปิดเอกสารรวบไว้ที่มุมโต๊ะหันไปหยิบกระเป๋าสีขาวบนโต๊ะขึ้นมาถือ แล้วก้าวเดินมาหาพิพัฒน์ที่หน้าประตูทันที พิพัฒน์รู้สึกภูมิใจที่ไอรินดูจริงจังกับงานมากขนาดนี้ สองพ่อลูกเดินออกมาจากห้องทำงานก้าวตรงไปยังลิฟต์หรูตัวใหญ่ เหล่าพนักงานต่างพากันยกมือไหว้ร่ำลาท่านประธานและลูกสาวกันอย่างจ้าละหวั่น ทั้งสองร่างลงมาถึงลานจอดรถพร้อมกับเดินตรงไปขึ้นรถตู้คันสีดำเงารุ่น Lexus LM Series มูลค่าหลายล้าน บาท จากนั้นรถคันหรูก็มุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์ของตระกูลอัครเมธาสกุลทันที เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง รถตู้คันสีดำเงาเคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์ใหญ่อย่างช้าๆ จนมาจอดสนิทลงตรงลานจอดรถที่มีรถหรูจอดเรียงรายกันอยู่หลายคัน ไอรินและพิพัฒน์ก้าวลงจากรถหรูช้าๆ สองพ่อลูกเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ “กลับมาแล้วหรอคะท่าน” ศศิวิมลเมื่อเห็นพิพัฒน์กลับมาเธอรีบเดินไปเกาะแขนทันที ไอรินกลอกตามองบนอย่างหมั่นไส้กับท่าทางออดอ้อนของเธอ “ทำไมวันนี้ออกมายืนรอแบบนี้ละ” พิพัฒน์เอ่ยถามศศิวิมล “มลมีข่าวดีจะบอกค่ะ” พิพัฒน์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ศศิวิมลจึงหยิบใบในมือยื่นให้เขาอ่าน พิพัฒน์หยิบขึ้นมาอ่านอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “ท้อง” พิพัฒน์เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา “ใช่ค่ะ มลท้องได้สองเดือนกว่าแล้วค่ะ วันนี้เพิ่งไปตรวจที่โรงพยาบาลมาค่ะ” “จริงหรอมล ผมดีใจมากเลยนะ” พิพัฒน์สวมกอดศศิวิมลอย่างนุ่มนวล ส่วนศศิวิมลก็ยิ้มเยาะเย้ยใส่ไอรินที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลังบิดาของเธอ ไอรินไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไรทั้งนั้นเพราะเธอคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอไม่ได้รู้สึกโกรธหรือรู้สึกไม่พอใจ เพราะยังไงเด็กคนนี้ก็คือน้องของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD