ตอนที่ 4 เกียรติของภรรยา

1931 Words
ตอนที่ 4 เกียรติของภรรยา อีกครั้ง ที่ปุณณดาถูกฐาปกรณ์ทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เฝ้ามองแผ่นหลังของเขาเดินเคียงคู่ไปกับอรสิมาหญิงที่เขารักนักหนา เหมือนเมื่อคืนวันแต่งงาน ที่เจ้าสาวอย่างเธอถูกทิ้งเอาไว้ที่โรงแรมเพียงลำพัง ต้องหาทางกลับไปยังคฤหาสน์ร้อยล้านนั้นด้วยตัวเอง “อุ๊ย ทำไมคนจัดงานถึงได้จัดที่นั่งห่วยขนาดนี้” อรสิมายกการ์ดเชิญขึ้นมาดูหมายเลขที่นั่งตามลำดับ ซึ่งห่างจากฐาปกรณ์ไปประมาณสี่ห้าที่ “ทำไมหรือ” “เราอุตส่าห์ใส่ชุดคู่รักมาอย่างนี้เราก็ควรจะนั่งคู่กันสิคะถึงจะถูก อีกอย่างเวลากล้องจับภาพถ่ายรูปออกมาลงตามหน้าคอลัมน์เราสองคนจะได้เด่นสะดุดตา” “ฮึ” ปุณณดาผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างรู้เท่าทันประโยคมารยา “ปุณ เธอช่วยแลกที่นั่งกับฉันได้หรือเปล่า” “ฉันคงต้องถามสามีก่อน ว่าเขาอนุญาตให้ฉันไปนั่งที่อื่นหรือเปล่า ว่ายังไงคะคุณฐา ฉันไปนั่งตรงนั้นได้หรือเปล่า” ปุณณดายักคิ้วไปยังตำแหน่งเก้าอี้หมายเลขสิบสองของอรสิมา ด้านข้างนั้นคือทายาทจากตระกูลไฮโซดังรวยติดอันดับต้น ๆ คนหนึ่งของเมืองไทย ส่วนเก้าอี้อีกฟากเป็นเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งไต่ระดับขึ้นมาอยู่บนหอคอยแห่งความมั่งคั่งเมื่อสักสองสามปีหลังมานี่เอง “ตามใจเธอสิ” “แหม คุณนี่ใจดีจังเลยนะคะ มาเถอะค่ะเรามานั่งตรงนี้แฟชั่นโชว์คงใกล้จะเริ่มแล้ว” สาวสวยทายาทตระกูลดังรั้งแขนสามีคนอื่นให้นั่งลง มือคล้องสอดเกี่ยวแสดงความสนิทสนมอย่างไม่รู้สึกเก้อกระดาก “ปุณ” “นที ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” ปุณณดาหันไปยิ้มให้เพื่อนเก่าสมัยเรียนด้วยกันที่ต่างประเทศ นับว่าการย้ายที่นั่งครั้งนี้ก็ไม่ทำให้เธอเหงาปากมากนัก “การประมูลคืนนี้น่าสนุกนะ” “เป็นการประมูลเครื่องเพชรเพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาน่ะ ปุณสนใจอยากบริจาคสักสิบล้านไหมล่ะ” “เขายกประมูลกันยังไงหรือ” “ก็แค่ยกป้าย จะมีเจ้าหน้าที่คอยบันทึกข้อมูลตรงนั้น” “แล้วเขารู้จักทุกคนในงานอย่างนั้นหรือ” คิ้วเรียวกระดกยกขึ้นมาเป็นคำถาม “ไม่หรอก แต่เขาจะบันทึกตามหมายเลขที่นั่ง ว่าที่นั่งหมายอะไร ประมูลสินค้าอะไร มูลค่าเท่าไร” “บันทึกตามหมายเลยที่นั่งอย่างนั้นหรือ” “อืม” “เยี่ยมไปเลย อย่างนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย” ปุณณดายิ้ม ป้ายอะคริลิกวงกลมซึ่งมีหมายเลขสิบสอง อันเป็นหมายเลขที่นั่งของอรสิมาขึ้นมาก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ ดาราดังซึ่งคืนนี้รับบทเป็นพิธีกรประจำงานเอ่ยขานชื่อชุดเครื่องเพชรมูลค่าสามล้าน เพื่อถามหาว่าจะมีใครสนใจอยากร่วมประมูลหรือไม่ “สร้อยเพชรชิ้นนี้เริ่มประมูลที่สามล้านบาท ไม่ทราบว่าแขกผู้มีเกียรติท่านใดอยากได้สร้อยเพชรน้ำงามอันเลอค่านี้ไปครอบครองหรือเปล่าครับ” “สามล้านห้าแสนบาทค่ะ” ปุณณดายกป้ายตรงหน้าขึ้นมาขานราคาด้วยรอยยิ้ม ฐาปกรณ์หันขวับมองกลับไปยังตำแหน่งที่นั่งของภรรยาทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่นพุ่งเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ “ไหนคุณเคยบอกว่า ปุณณดาเขาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ที่ยอมแต่งงานกับคุณเพราะเงินไงคะ แล้วนั่นเขาเอาเงินจากไหนประมูลเครื่องเพชรตั้งสามล้านห้า นี่คุณคงไม่ได้แอบให้เครดิตการ์ดกับแม่นั่นใช่หรือเปล่าคะฐา” “ไม่รู้สิ เขาไม่เคยขอ หรือได้อะไรจากผม” สายตาพุ่งมองไปยังรอยยิ้มซึ่งแต้มแต่งระบายอยู่บนใบหน้าของภรรยายามที่ปุณณดาหันไปพูดคุยกับไอ้หนุ่มที่เพิ่งเป็นเศรษฐีได้ไม่นาน “สงสัยจะอวดรวยโชว์ผู้ชายมั้งคะ นั่นคุณนทีเศรษฐีใหม่ เห็นว่าเพิ่งบินกลับมาจากปารีสเอ๊ะ ที่เดียวกับที่ปุณไปเรียนต่อเลยนะคะ หรือว่าสองคนนี้ เขาแอบกิ๊กกั๊กกันมาก่อนหรือเปล่า ต้องใช่แน่ ๆ ” “ช่างเขาเถอะ อย่าไปสนใจเขาเลย” “ฐาคะ อรรู้มาว่าคืนนี้จะมีเครื่องเพชรชุดใหญ่มาร่วมลงประมูล เดือนหน้าจะเป็นวันเกิดของอร ฐาขาคุณประมูลซื้อมันเป็นของขวัญวันเกิดให้อรนะคะ” “ของขวัญวันเกิดให้คุณอย่างนั้นหรือ” “นะคะ เพื่อเป็นการยืนยันว่าอรยังสำคัญสำหรับคุณ นะคะ” หน้าสวยวางซบลงไปบนบ่ากว้างท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย “ครับ” “อื้อ ฐานี่น่ารักที่สุดเลย” กลีบปากขยับยกขึ้นมาเหมือนต้องการสัมผัสแก้มของเขา หากแต่หางตาฐาปกรณ์มองเห็นใครหลายคนที่กำลังจดจ้องจับตามองอยู่จึงรีบเอียงหลบ แล้วขยับนั่งตัวตรง “เอ๊ะ มัวแต่คุยตกลงว่าเครื่องเพชรชุดเมื่อกี้ใครได้ไปก็ไม่รู้” “อย่าไปสนใจเลย นั่นใช่เครื่องเพชรที่คุณอยากได้หรือเปล่า” “อุ๊ย ใช่ค่ะ” “เอาละค่ะทุกท่าน ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญ ชุดเครื่องเพชรประดับมรกตชุดนี้มูลค่าเริ่มประมูลอยู่ที่สิบสองล้านบาท...” “สิบสองล้านห้าแสนบาทครับ” ฐาปกรณ์ยกป้ายอะคริลิกใสหมายเลขแปดของตัวเองขึ้นมา “สิบห้าล้านค่ะ” ปุณณดาชูป้ายอะคริลิกเบื้องหน้าขึ้นมาอย่างมั่นใจเรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาได้ทั่วงาน “ฐา นั่นปุณเขาจะทำอะไรคะ” “ไม่รู้สิ” “สิบห้าล้านครั้งที่หนึ่ง...สิบหน้าล้านครั้งที่สอง” “สิบเจ็ดล้านค่ะ” มือบางดันข้อศอกของฐาปกรณ์สูงขึ้นไปในอากาศ “สิบเจ็ดล้านครั้งที่หนึ่ง สิบเจ็ดล้านครั้งที่สอง” “ยี่สิบล้านค่ะ” “ยี่สิบห้าล้านค่ะ” “อร!” “คุณสัญญากับอรแล้วนะคะ ว่าคุณจะซื้อให้อร” “ยี่สิบห้าล้านครั้งที่หนึ่ง ยี่สิบห้าล้านครั้งที่สอง ยี่สิบห้าล้านครั้งที่สาม..ยินดีกับผู้ที่ได้ชุดเครื่องเพชรนี้ไปด้วยนะคะ” บริเวณเวทีกลางเครื่องเพชรประดับมรกตซึ่งถูกประมูลไปในราคาสูงสุดในคืนนี้ ถูกเจ้าของชุดสูทและชุดราตรีคู่รักนำมันไปยืนถ่ายรูปร่วมกันกับผู้จัดงาน สื่อมากมายเข้ามาขอสัมภาษณ์ถึงเหตุผลของการที่ฐาปกรณ์ยอมจ่ายเงินสูงถึงยี่สิบห้าล้านบาทในครั้งนี้ “คุณฐาเขาซื้อให้อรเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ” หากทว่าคำตอบกลับออกมาจากอีกคน “แล้วไม่ทราบว่าชิ้นไหนที่คุณฐาปกรณ์ซื้อให้กับภรรยาคะ” นักข่าวสาวหน้าตึงคนหนึ่งถามโพล่งออกมา สายตาเหยียดมองหยามไปยังอรสิมา “ไม่มีค่ะ คืนนี้คุณฐาประมูลแค่เครื่องเพชรชุดนี้ให้กับฉัน ชุดเดียวเท่านั้น” ยังคงเป็นอรสิมาที่ตอบกลับ “วันเกิดของภรรยาผม ยังมาไม่ถึงน่ะครับ” “หมายความว่า เมื่อถึงวันเกิดของคุณปุณณดา คุณฐาปกรณ์จะมาประมูลเครื่องเพชรที่มีมูลค่ามากกว่ายี่สิบห้าล้านบาทเป็นของขวัญให้เธอใช่ไหมคะ” ปุณณดานั่งมองการให้สัมภาษณ์ของคนทั้งสองอยู่อย่างเงียบ ๆ มุมปากไม่เคยว่างจากรอยยิ้ม ใต้ฝ่าเท้าซึ่งมีแผลจากการเหยียบเศษแก้วเมื่อคืนนั้นเวลานี้มันปวดตุบ ๆ ไม่หยุด อาจเพราะต้องยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน กระทั่งเพื่อนเก่าสมัยเรียนปริญญาโทที่เมืองนอกด้วยกันเข้ามาทัก “ข้างนอกฝนตกหนักมากเลย ปุณกลับยังไง” “ฝนตกหนักมากหรือ” “ใช่” “ไม่เป็นไร ปุณมากับคุณฐาน่ะ” หน้าสวยพยักพเยิดไปทางสามีที่กำลังยืนถ่ายรูปคู่อยู่กับอรสิมา เป็นเวลาเดียวกับพนักงานจากทีมประมูลเดินถือชุดเครื่องเพชรสามชุดเรียงแถวเข้าไปส่งมอบ “คุณอรสิมาคะ เครื่องเพชรที่คุณอรสิมาประมูลได้ไปวันนี้ ทางเราจะจัดส่งไปให้ที่บ้านภายในสามวันนะคะ” “เครื่องเพชรที่ฉันประมูล ฉันไม่ได้ประมูลอะไรสักหน่อย” “ประมูลสิคะ คุณยกป้ายประมูลไปนี่ไงคะ รวมทั้งหมดสิบสองล้านเจ็ดแสนบาทค่ะ คุณอรสิมาจะรูดเครดิตการ์ดหรือว่าสั่งจ่ายเป็นเช็กดีคะ” “อะไรนะ!” บันทึกการยกป้ายประมูลรันหมายเลขตามที่นั่งทำเอาอรสิมาหน้าชา ฐาปกรณ์เพิ่งเข้าใจรอยยิ้มของหล่อนก็ในตอนนี้เอง “อีปุณณดา” เสียงเขียวดังขึ้นมาท่ามกลางวงนักข่าว ที่ต่างยืนตาเหลือกค้างเพราะไม่คาดว่าจะเห็นท่าทีอย่างนี้ในงานสังคมชนชั้นสูง “ฉันเปล่า ฉันไม่ได้ประมูลอะไรทั้งนั้น ใครยกป้ายก็ไปเก็บเงินกับมันสิ” “ตามกฎการเข้าร่วมประมูลหากมีการย้ายที่นั่ง หรือเปลี่ยนโอนสิทธิ์ในการยกป้าย ต้องแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า คุณอรสิมาก็ทราบนี่คะ อีกอย่างคุณผู้หญิงคนนั้น แจ้งกับเราว่าคุณเป็นคนสมัครใจให้เธอไปนั่งเก้าอี้ของคุณ” “หรือว่าคุณอรสิมาจะยกเลิกการประมูล อย่างนั้นต้องเสียค่าปรับนะคะ” “ฉัน...” “ผมรับผิดชอบเอง” ฐาปกรณ์มองกลับไปยังภรรยาสาวที่นั่งคุยอยู่กับหนุ่มหล่อ “ฐา ทำไมคุณถึงน่ารักอย่างนี้คะ อรรักคุณที่สุดเลยค่ะ” “หมายความว่าคืนนี้คุณฐาปกรณ์ยอมจ่ายเงินสูงถึงสามสิบเจ็ดล้าน ซื้อเครื่องเพชรให้คุณอรสิมา อย่างนั้นหรือครับ” นักข่าวชายในชุดเสื้อสูทสีดำเลิกคิ้วถาม ด้วยความสงสัย เพราะเมื่อสองวันก่อนเขาเพิ่งไปทำข่าวการแต่งงานระหว่างฐาปกรณ์กับปุณณดามา ตัวเองทำข่าวสายบันเทิง สายสังคมและเศรษฐกิจมามากยังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหน ยินดีจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาหรือคนในครอบครัว อย่างออกนอกหน้านอกตาอย่างนี้มาก่อน “ทำไมคะ แปลกหรือไงในเมื่อฉันกับคุณฐาเราเป็น...” “ผมซื้อเครื่องเพชรชุดนี้ให้อรสิมา ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น เอาละผมคิดว่าวันนี้พวกคุณคงได้บทสัมภาษณ์ไปมากพอแล้ว ผมขอตัวก่อน” “กลับได้แล้ว” ตาเขียวมองขวางมายังภรรยาสาวที่นั่งรออยู่ตรงทางออก “เห็นหรือยัง ว่าฉันมีความสำคัญกับเขาแค่ไหน” “เห็นแล้ว ยินดีด้วยนะอร ที่ได้เป็นคนสำคัญสักที” “นี่!” มือยาวยื่นออกไปหมายคว้าเอาต้นแขน หากแต่ปุณณดาที่นั่งระวังตัวอยู่นานกลับเบี่ยงกายหลบ เป็นเหตุให้คนที่หวังประทุษร้ายคนอื่นหกล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้านล่าง “ปุณณดา นั่นเธอทำอะไร” ฐาปกรณ์หันหลังกลับมารีบพุ่งเข้าไปช่วยพยุงอรสิมาที่ล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้น “ถามเขาสิคะ ว่าฉันทำอะไร” ปุณณดายักคิ้วให้ ขาเรียวตวัดขึ้นมาอยู่ในท่านั่งไขว่ห้าง เรียวแขนบางสอดม้วนกอดอกเข้าหากัน “อรแค่เข้ามาถามว่าจะขอติดรถกลับไปด้วยได้หรือเปล่าเท่านั้นเองค่ะ ไม่คิดว่าปุณจะอิจฉามาทวงสร้อยเพชรบอกว่ามันควรเป็นของเธอ” “ปุณ....” หน้าคมขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันทันที “ตามนั้น” มือผายออกไปราวกับยอมรับคำใส่ร้าย ขี้เกียจต่อปากต่อคำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD