ตอนที่ 2 หัวใจมีเงา

1699 Words
“ไปอาบน้ำกับพ่อกันดีกว่านะคะหนูเจ้า” คนตัวโตช้อนลูกสาวขึ้น กิริยาท่าทางมีแต่ความเอ็นดูซึ่งข้าวหอมอยากจะได้มันบ้างสักครั้งหนึ่ง แล้วมีหนึ่งประโยคดังมาแจ้งให้ต้องพยักหน้ารับ “ฉันสั่งลูกน้องเปิดห้องให้เธอแล้ว” “ค่ะ” เธอเองไม่มีข้อขัดแย้ง ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องทนกับความอึดอัด “อ้อ...คงได้ยินแล้วนะที่ฉันไม่คิดจะมีลูกอีก ฉะนั้นเธอจะทำอย่างไรก็ได้ที่เราจะไม่มีลูกกันได้ จะกินยาหรือไปฉีดก็ตามใจ” ที่ผ่านมายังไม่ได้ตกลงเรื่องนี้กับฝ่ายหญิงและตัวของชายหนุ่มเองเป็นฝ่ายคุมมาโดยตลอดพร้อมขยับเท้าหมายเดินเข้าไปในห้องน้ำ “แต่ข้าวอยากมีลูก ถ้าข้าวกินยาข้าวกลัวว่าจะมีลูกยาก คุณใหญ่เป็นคนคุมไม่ได้หรือคะ” แต่ด้วยเสียงและประโยคจากปากนุ่มนิ่ม เป็นเหตุให้อาชาชะงักแล้วเอ่ยปากถามเสียงเรียบแฝงด้วยความดุดัน “เธอจะมีลูกกับใคร ในเมื่อฉันไม่อยากมี” คนตัวเล็กนิ่งเงียบไปกลัวคำตอบของตนเองจะทำให้ชายตรงหน้าเกิดความไม่พอใจ แต่ลูกคือความฝันเล็กๆ ของเธอ ชายหนุ่มไม่ได้อยู่รอฟังคำตอบพาลูกสาวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เจ้าสาวระบายยิ้มเศร้าๆ อย่างไรแล้วไม่ถึงขั้นเสียน้ำตา เพราะเธอเองมีภูมิคุ้มกันความอ่อนแอ เท่านี้ก็แค่จิ๊บๆ เปรียบเสมือนฝุ่นผงอึดใจเดียวหันไปยิ้มให้คนสนิทของสามีที่ยืนหน้านิ่งรออยู่ “เชิญครับ” แม้เท้าขยับออกจากห้อง แต่ไม่วายหันหลังไปมอง หูได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วออกมา ไม่ได้นึกโกรธเลยสักนิด รู้สึกดีด้วยซ้ำไปเพราะหล่อนแทบไม่เคยได้สัมผัสกับคำว่ารักจากบิดาและมารดาอย่างแท้จริง “ฝันดีนะคะคุณใหญ่ หนูเจ้า” จากนั้นประตูห้องค่อยๆ ปิดลง ข้าวหอมมุ่งหน้าสู่ห้องพัก จะทิ้งใจและกายดำดิ่งสู่ห้วงนิทราเพราะคิดว่าเช้าวันใหม่ต้องเจอกับปัญหาอีกมากมาย ----------------- ตอนที่ 2 หัวใจมีเงา เช้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ได้วนเวียนมาถึง เจ้าของร่างน้อยอย่างข้าวหอมกลับไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากเดิม เพราะอย่างไรผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยให้ความสำคัญ สองเท้าก้าวออกจากห้องพักตรงไปยังหน้าลิฟต์ตัวกว้าง นี่ก็เกือบจะแปดโมงเข้าไปแล้วกว่าจะไปถึงร้านดอกไม้คงสายน่าดู ‘secret love’ เป็นร้านรับจัดดอกไม้เล็กๆ ของฝ่ายหญิงซึ่งสร้างขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ทว่าในขณะกำลังจะพ้นจากประตูโรงแรม สายตาก็มองไปเห็นใครคนหนึ่งทำให้หยุดเท้าลง เจ้าของร่างบอบบางยกยิ้มขึ้นมอบไปให้คนคนนั้น กระนั้นมันกลับไม่ถูกตอบสนองราวไร้ค่า ไม่มีราคาให้ต้องใส่ใจ ไม่นานรอยยิ้มจืดลงแต่ยังหยุดเท้าเพื่อยืนมองอาชาอุ้มลูกสาวขึ้นรถคันโตจากไป ไม่มีที่ว่างสำหรับเธอเลยใช่ไหมในหัวใจดวงโต แต่เธอไม่คิดโกรธ รับรู้และเข้าใจถึงสาเหตุการด้านชาเป็นอย่างดีและจะพยายามเยียวยาหัวใจดวงนั้นให้หายดีถึงโอกาสเป็นศูนย์ก็ตามพร้อมขยับเท้าเพื่อออกไปโบกแท็กซี่ไปยังร้านของตน เนื่องด้วยไม่ได้นำรถยนต์ส่วนตัวมาที่นี่ อย่างไรนั้นการเริ่มต้นชีวิตไม่ได้ราบรื่นกลับมีกรวดหินโรยมาตลอดทาง หนำซ้ำวันนี้อาจจะมีตะปูปลายแหลมโรยมาสร้างความเจ็บให้ ไม่นานก็เดินทางมาถึงซึ่งเป็นไปตามคาดว่าหล่อนมาสาย ก่อนต้องระบายยิ้มให้แก่พริมรตา ลูกจ้างที่ทั้งรักและเอ็นดู “พี่ขอโทษนะที่มาสายเลยไม่ได้ช่วยพริมเปิดร้านเลย” ข้าวหอมกล่าวเสียงราบเรียบมองหน้าพริมรตาอย่างเอ็นดู อีกฝ่ายมีชะตาชีวิตที่ไม่ดีนักเผชิญกับเรื่องร้ายๆ มาเหมือนกัน “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะพี่ข้าว พริมทำไหวแค่นี้จิ๊บๆ” สาววัยยี่สิบปียกมือขึ้นทำท่าทางประกอบ ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนก็ขอสู้ดีกว่านั่งงอมืองอเท้าแล้วอดตายและงานในร้านของพี่สาวใจดีสบายกว่าที่เคยทำมาตั้งมาก เท่านี้ไม่หนักหนาอะไรเลย หญิงซึ่งได้เป็นเจ้าสาวหมาดๆ ประดับยิ้มให้อีกรอบพลางหมุนตัวไปดูดอกไม้ โชคดีวันนี้ไม่ได้มีออเดอร์จากลูกค้าจึงไม่ยุ่ง ทว่าในจังหวะนั้นกลับได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดัง ลำตัวหันกลับฉับพลันเพราะน่าจะมีลูกค้าเข้าร้านมา ในวินาทีนั้นจากเจ้าของร้านผู้ยิ้มแย้มได้กลายไปเป็นคนอยู่ในอาการตะลึงทันที ไม่คิดว่าจะได้พบกันอีกครั้ง “ร้านเธอก็สวยดีนะ” ลูกค้ารายนี้กิตติมศักดิ์ แถมมีความเย่อหยิ่งอยู่ในตัว ปรายตามองไปรอบๆ ไม่ได้รู้สึกเหมือนปากพูด “คุณหญิงมีอะไรกับข้าวหรือคะ” หญิงสาวพนมมือขึ้นไหว้พลางร้องถาม ใจไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว ก่อนหันไปพยักหน้าให้พริมรตาเดินเลี่ยงตัวเข้าไปภายใน โดยจำได้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าร้ายและน่ากลัวเพียงใด “ทำไมไม่เรียกฉันว่าแม่” คนฟังสวนกลับ น้ำเสียงกรุ่นด้วยไอร้อน “ฉันเป็นแม่ของใหญ่เธอก็น่าจะรู้จัดดอกไม้ให้ฉันสักช่อสิ “ค่ะคุณ...แม่” ในสถานการณ์เช่นนี้หญิงสาวเรียนรู้จะโอนอ่อนจึงจำใจต้องทำตามความต้องการของอีกฝ่าย พลันเหลือบสายตามองชายร่างโตก้ามปูที่ติดตามมารดาของอาชามา ใจนั้นกลัวไม่น้อยแต่ไม่คิดจะโทรตามคนของอารัญมาที่นี่ ไม่อยากทำให้ต้องมีความบาดหมางมากกว่าเดิมถ้ายังรับมือไหว “ใหญ่พูดอะไรถึงฉันบ้างหรือเปล่า” ใบหน้าแสดงความอยากรู้ โดยอยากจะได้กอดลูกชายอีกสักครั้งจึงคิดว่าจะต้องหาหมากโง่ๆ ตัวหนึ่งมาเป็นแม่สื่อ ซึ่งลูกสะใภ้ที่เพิ่งจะได้มาเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยม กระนั้นยังพอจะมองออกว่าลูกชายชังน้ำหน้าคนเป็นภรรยาอยู่ไม่น้อยเลยนึกสนุก “มีบ้างค่ะ แต่คุณแม่คงไม่อยากได้ยินเพราะมันไม่ใช่เรื่องดี” เธอไม่ปิดบังและโป้ปด สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับอารดามีแต่เรื่องร้าย คนฟังถึงกับร้อนรุ่มในอก ก่อนจะยื่นบางอย่างไปให้หมากในกระดานที่จะให้เดินรุกเข้าหาอาชา “เมื่อวานฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญเธอเลย” “มันไม่จำเป็นเลย ข้าวไม่ได้อยากได้ของขวัญอะไร” ข้าวหอมไม่ยอมยื่นมือไปรับ มีความหนักใจเพราะกลัวกลายไปเป็นเรื่องใหญ่ “รับไปเถอะและฝากนี่ไปให้ใหญ่ด้วย ดอกไม้นั่นก็เอาไปให้ลูกชายฉัน หวังว่าเขาจะไม่ขว้างทิ้งลงถังขยะนะ” อารดายิ้มดังนางปีศาจร้ายแล้วยื่นเงินเป็นค่าดอกไม้พร้อมทั้งของขวัญวันแต่งงานของลูกชายกล่องใหญ่ “และอย่าลืมส่งให้ถึงมือของใหญ่” จากนั้นหญิงซึ่งจิตใจไม่ปกติเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้ข้าวหอมผ่อนลมหายใจแรงๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีแผนการจะทำอะไร แต่ไม่ว่าจะมาไม้ไหนมีแต่ส่งผลร้ายต่อหล่อนทั้งสิ้น ใบหน้าก้มลงมองของขวัญสองกล่องแล้วต้องครุ่นคิด ไม่รู้อาชาจะโกรธเท่าใด คิดแล้วกลัวไม่น้อย ฟากคนซึ่งข้าวหอมกำลังคิดถึงนั้นเดินจูงมือลูกสาวเข้ามายังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ห่างจากบริษัทมากนัก เนื่องด้วยได้นัดกับใครบางคนไว้ โดยสีหน้าของอาชามีแต่รอยยิ้มยามอยู่กับจันทร์เจ้า ผู้กุมหัวใจของเขาไปทั้งดวง ไม่คิดปันให้ใครอีกแล้ว “อร่อยไหมคะลูก” เสียงที่เอ่ยถามนุ่มนวล แววตามีความรักอยู่อย่างเต็มเปี่ยม “อาหย่อยค่ะ” เด็กวัยสองขวบกว่าตอบเสียงฟังไม่ชัดเท่าไร ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุขพลางหันมองมือเรียวบางซึ่งลูบผมอย่างเอ็นดู “งั้นก็กินเยอะๆ นะคะ” “กินผักด้วยสิครับ เดี๋ยวก็ไม่โตหรอก” เสียงทุ้มดังขึ้นแทรกมาเมื่อลูกสาวเอาแต่กินหมูแต่ไม่ยอมแตะต้องผักเลยสักนิด ก่อนเบนสายตาไปมองอดีตภรรยาคล้ายตำหนิ ไม่อยากให้ตามใจลูกในเรื่องนี้ ประเดี๋ยวเดียวก็มีหนึ่งเสียงดังสวนขึ้น “ชมพูจะขอฝากคุณเลี้ยงหนูเจ้าสักอาทิตย์จะได้ไหมคะ ภรรยาใหม่ของคุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” ดาราสาวชื่อดังเอ่ยพลันจับจ้องโครงหน้าของอาชาแล้วกัดเม้มเรียวปากแน่น หล่อนโง่เองที่ทิ้งเขาไปมีคนอื่น เนื่องด้วยรู้แล้วว่าไม่มีใครดีเท่าชายตรงหน้า “ได้สิ” ชายหนุ่มไม่มีทางปฏิเสธ ใบหน้ายังวางเฉยถึงจะรู้ว่าพวงชมพูมีแผนการอยู่ในใจ ขอแค่ไม่ทำร้ายจิตใจลูกสาวเป็นพอ แต่ถ้าวันใดมันเลยเถิดก็ไม่สามารถนิ่งเฉย “ดีค่ะ พอดีพี่เลี้ยงของหนูเจ้าลากลับไปเยี่ยมพ่อที่ต่างจังหวัด ชมพูเลยไม่มีคนช่วยดูแล อีกอย่างช่วงนี้ต้องเดินทางบ่อยไม่อยากจะกระเตงลูกไปด้วย” นี่คือสาเหตุส่วนหนึ่ง อีกส่วนอยากจะให้ลูกสาวแสนรักได้ใกล้ชิดบิดา อยากให้ข้าวหอมได้แน่ชัดในใจว่าไม่มีทางแทรกเข้ามา เพราะทุกพื้นที่นั้นมีเจ้าของจับจองเรียบร้อยแล้ว ส่วนอาชาพยักหน้าเข้าใจ “อ้อและหวังว่าจะไม่ให้ลูกของชมพูไปเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่นะ เพราะจันทร์เจ้ามีแม่แค่คนเดียวเท่านั้นและชื่อว่าพวงชมพู” เจ้าหล่อนบอกเสียงหนัก ไม่ยอมแน่ถ้าอีกฝ่ายจะหาคนอื่นมาแทนที่เธอ “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD