โอ้ว! เสียงร้องจากด้านข้างของภีมะและเหนือสมุทร ทำให้ทั้งสองหันไปมองกลุ่มชายฉกรรจ์ห้าหกคน หนึ่งในนั้นคือพิทักษ์ ตอนนี้สนามบินไม่ต่างกับสนามรบขนาดย่อมเลย ขาดแต่ก็อาวุธที่ทั้งสามฝ่ายไม่สามารถพกพาเข้ามาได้ “สวัสดีครับคุณอา” ภีมะทักทาย เขายังไม่เจอกับญาติผู้นี้เลย ญาติคนสำคัญเสียด้วย “ภีมะ!…นี่หลานยังไม่ตายจริงๆด้วย ถ้าไม่เห็นด้วยตาอาคงไม่มีทางเชื่อแน่ๆ” “หลายเดือนมานี้คุณอาคงเหนื่อยไม่น้อยกับนรารัตน์ ขอบคุณมากนะครับ” พิทักษ์ยกยิ้มมุมปาก สายตาไม่เปลี่ยนไปจากภีมะเลย “บางอย่างเสียมันไปแล้ว ใช่ว่าจะได้กลับคืนมาง่ายๆนะ” “ก็ใช่ครับ ถ้าผมเสียมันไปจริงๆ...จริงมั้ยครับคุณอา” พิทักษ์ถอนหายใจแต่ยังอารมณ์ดี ท่ามกลางสถานการณ์ที่เสียเปรียบ “ได้ตัวปีแอร์กลับมาก็ใช่ว่าจะได้ทุกอย่างกลับมา” “ถ้าคุณอาเป็นกังวลขนาดนั้น ก็ทำทุกอย่างให้มันง่ายขึ้นเสียครับ” “ทรัพย์สินของนรารัตน์ครึ่งหนึ่ง เป็นของณิชา หุ้นๆต