ร่างเล็กชะงักฝีเท้าเมื่อเขาพาเธอขึ้นมาจนถึงชั้นสามของอาคารก่อนที่เขาจะหันมามอง
“นี่ห้องฉัน เข้ามาสิ”
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับแล้วเดินตามเขาเข้าไป
ห้องนอนของเขาที่นี่แตกต่างจากห้องนอนที่บ้านอย่างสิ้นเชิง เพราะภายในมีบาร์เครื่องดื่ม มีโต๊ะสนุ๊กเกอร์ และของเล่นอีกหลายอย่างซึ่งบรรยากาศในห้องให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในผับมากกว่าจะเป็นห้องนอนหลับพักผ่อน
“เอ่อ...อุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ตรงไหนเหรอคะ”
“ไม่รู้สิ อยู่ข้างล่างมั้ง”
“งั้นเดี๋ยวหนูลงไปหยิบ...”
“เธอนอนรอฉันอยู่ในห้องนี่แหละ”
“คะ? ไหนว่าคุณให้หนูมาทำความสะอาด...”
“ก็ห้องมันยังสะอาดดีอยู่ อีกอย่างเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเธอคงทำไม่เสร็จหรอก เธอนอนเล่นรอฉันอยู่ในห้องนี่แหละ ถ้าฉันเคลียร์งานเสร็จจะมาเรียก อ้อ แล้วล็อกประตูห้องด้วยล่ะที่นี่มีคนเข้าออกเยอะต่อให้ฉันจะเป็นเจ้านายพวกมันก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ทุกคน ถ้าฉันขึ้นมาจะไขกุญแจเข้ามาเอง”
“ค่ะคุณกุล”
เธอเดินตามเขาไปที่ประตูเพื่อล็อกห้องเมื่อเขาก้าวออกไปแล้ว จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปด้านในแล้วเลือกโซฟาเบดตัวหนึ่งเป็นที่นอน ตั้งใจว่าจะนอนเล่นไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ทำไมบรรยากาศทึมๆ และแอร์เย็นๆ ของห้องนี้ กลับทำให้เธอหลับสนิทได้อย่างง่ายดาย
“ไหงลงมาไวจังล่ะครับเสี่ย” นักมวยคนหนึ่งที่สนิทกับเขาพอสมควรเอ่ยถามขึ้น
“มึงว่างมากเหรอไอ้ณัฐ”
“ไม่ว่างหรอกครับ กำลังซ้อมอยู่” นักมวยหน้าตาดีแต่มีรอยฟกช้ำเต็มตัวบอกยิ้มๆ
“งั้นก็ซ้อมต่อไป ไม่ต้องมาสนใจเรื่องของกู เพราะถ้าพรุ่งนี้มึงแพ้ กูจะจองตั๋วรถทัวร์ให้มึงกลับไปทำนาที่บ้านเกิดทันที เข้าใจรึเปล่า”
“โธ่เสี่ย จะใจร้ายกับน้องชายสุดหล่อคนนี้ได้จริงๆ เหรอครับ ผมนี่ตัวขายของค่ายเราเลยนะ สาวๆ ตามกรี๊ดทุกสังเวียนเลย หมัดก็หนัก เข่าก็หนัก ชนะรวดสี่สมัยซ้อนเลยนะครับ”
“เออ ก็รอให้มึงชนะสมัยที่ห้านี่ก่อนเถอะแล้วค่อยมาอวด แล้วนี่ไอ้เชนไปไหน กูให้มันมาซ้อมตั้งแต่บ่ายละ”
“เอ่อ...ไอ้เชนมัน...”
“ติดสัดอีกล่ะสิไอ้เวรนี่ สงสัยมันอยากเป็นดาว only fan มากกว่านักมวย” เขาบอกอย่างเหนื่อยใจ
“เสี่ยก็เข้าใจคนกำลังอินเลิฟหน่อยสิครับ คนเพิ่งเคยริรักก็แบบนี้แหละ ปล่อยๆ มันไปก่อนนะครับเสี่ย”
“กูไม่ได้สนใจว่าใครจะรักใครหรอกนะ แต่ถ้ามันเสียมาถึงงานก็ต้องเตือนกันหน่อย อีกไม่กี่วันก็จะขึ้นชกแล้วด้วย ถ้าเกิดว่าไม่มีแรงชกขึ้นมาจะยุ่ง”
“ผมเข้าใจครับเสี่ย เอาไว้ถ้าเจอมันผมจะเตือนมันให้นะครับ”
“มึงไม่ต้องเลย เพื่อนกันจะเตือนกันยังไง เดี๋ยวกูให้ครูชัชไปเตือนดีกว่า ส่วนมึงก็ตั้งใจซ้อมไปไม่ต้องไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้า”
“เรื่องชาวบ้านที่หมายถึงคือน้องนักศึกษาคนสวยของเสี่ยรึเปล่าครับ คนนี้จริงจังเหรอเสี่ย ถึงพามาเปิดตัวในค่ายแบบนี้น่ะ”
“มึงนี่มันเสือกได้โล่จริงๆ นะไอ้ณัฐ ไปซ้อมได้แล้วไป”
บอกแค่นั้นกุลวุฒิก็กลับเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธในความเข้าใจของนักมวยในค่าย ไม่ถึงสิบนาทีข่าวก็แพร่ออกไปว่าเสี่ยกุลจอมเฮี๊ยบของพวกเขาพาสาวมาเปิดตัว
“ใครโทรมาคะถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนั้นน่ะ”
กุลวดี เอื้อมมือไปรินชาลงในถ้วยให้กับสามีพร้อมกับหยิบคุกกี้อีกหนึ่งชิ้นลงในจาน
“สายสืบที่ค่ายมวยน่ะ มันโทรมาบอกข่าวดี” วุฒิกร บอกกับภรรยาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ข่าวดีอะไรคะ หรือว่ามีใครได้แชมป์โลกอีก”
“เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก”
“แล้วเรื่องอะไรล่ะคะ”
“ดูเหมือนว่าลูกชายเราจะมีแฟนแล้วน่ะสิ แฟนเด็กแบบเด็กนักศึกษาด้วยนะคุณ”
“จริงเหรอคะ แล้วทำไมตากุลไม่โทรบอกเราสักคำ ต้องให้เรามารู้จากปากสายสืบของคุณน่ะ”
“คงไม่ว่างมั้ง นี่ๆ ผมมีรูปมาด้วยนะ สายสืบส่งมาให้” แล้วเขาก็เปิดรูปจากข้อความไลน์ให้กับภรรยาได้ดู เป็นภาพที่กุลวุฒิกำลังอุ้มปณิสราเข้าไปในห้องทำงาน หลังจากที่หญิงสาวมีอาการแปลกๆ แต่คนถ่ายรูปถ่ายมาแค่ตอนที่กุลวุฒิอุ้มเธออยู่เท่านั้น
“โอ้โห เล่นอุ้มกันต่อหน้าคนทั้งค่ายมวยแบบนี้ แปลว่าตัวจริงแล้วใช่มั้ยคะคนนี้” เธอถามสามีอย่างตื่นเต้น แม้จะยังเห็นหน้าสาวน้อยคนนั้นไม่ชัด แต่ดูเผินๆ ก็คิดว่าต้องสวยแน่นอน
“แน่นอนสิที่รัก เอ...หรือว่าเราจะเข้ากรุงเทพฯ ไปเซอร์ไพรส์เจ้าตัวแสบกันดีล่ะ มีแฟนแล้วก็ไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงเค้าพ้นวัยผู้เยาว์หรือยังน่ะสิ”
“ใส่ชุดนักศึกษาแปลว่าเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องเกินสิบแปดแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าเราไปตอนนี้ลูกอาจจะอึดอัดได้นะคะ วดีว่าเรารอดูไปก่อนดีกว่า สักอาทิตย์สองอาทิตย์ ถ้าลูกยังไม่พูดถึงแฟนอีก เราก็ค่อยเลียบๆ เคียงๆ ถามดูไม่งั้นลูกจะจับไต๋เอาได้นะคะว่าคุณส่งสายสืบไปแอบติดตามพฤติกรรมลูกชายน่ะ”
“เฮ้อ...นั่นสินะ งั้นก็เอาตามที่คุณบอกนั่นแหละ จริงสิ เดี๋ยวคุณลองโทรไปถามสายใจดูนะว่าเคยเห็นลูกพาแฟนไปที่บ้านรึเปล่า”
“ได้ค่ะได้ เดี๋ยววดีโทรถามป้าสายเอง คุณจิบชาให้ใจร่มๆ ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งตื่นเต้นเกินไป เดี๋ยวหัวใจก็วายกันพอดีหรอก”
“โธ่ คุณวดีก็พูดไป ผมเพิ่งหกสิบกว่านะ ไม่หัวใจวายตายไปตอนนี้หรอกยังไม่ได้อุ้มหลานเลย” หนุ่มใหญ่วัยเกษียณที่ดูหล่อเหลาสมวัยบอกยิ้มๆ ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาจิบแล้วมองวิวทิวทัศน์ของภูเขาเบื้องหน้าอย่างอารมณ์ดี
กุลวดีจึงได้โทรไปหาป้าสายใจเพื่อสอบถามเรื่องแฟนสาวของบุตรชาย แต่กลับได้ความว่ากุลวุฒิไม่เคยพาสาวที่ไหนไปที่บ้านเลยสักครั้ง พวกท่านก็เลยได้แต่สงสัยว่านักศึกษาสาวคนนั้นจะใช่แฟนของบุตรชายจริงหรือเปล่า