ด้านไคโร
อึกอึกอึก!!
ปึก!
แก้วเหล้าที่ถูกยกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ถูกกระแทกลงบนโต๊ะกระจกจนเกิดเสียงดัง จนทำให้เพื่อนคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันต่างหันไปมอง
“เป็นเหี้ยอะไร?”
“กูเปล่า” ชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรหันไปตอบเพื่อนของเขาที่ถามเมื่อกี้
“แต่มึงดูหงุดหงิด”
“อาจจะเหนื่อยกับงานนิดหน่อย” เพราะวันนี้หุ้นส่วนของเขาอีกสองคนต่างหนีไปเที่ยวเกาะ ทิ้งให้เขาดูแลร้านเองเพียงลำพัง
จะว่าลำพังก็ไม่เชิงเพราะอย่างน้อยก็ยังมีลูกน้องและเด็กในร้านคนอื่นๆ ที่ช่วยกันอยู่
“แล้วทำไมมึงไม่ไปเที่ยวกับพวกไอ้ธัน”
“กูขี้เกียจไป อีกอย่างไม่อยากทิ้งน้องไว้คนเดียวด้วย”
“น้องมึงยี่สิบกว่าแล้วนะไอ้ไค ไม่ใช่เด็กสองขวบ”
“ถึงยังไงก็ยังเป็นเด็ก อีกอย่างน้องกูก็เป็นผู้หญิง” ถึงแม้ว่านิสัยจะดูห้าวๆ เหมือนเด็กผู้ชายไปบ้าง แต่ยังไงคริสตัลก็เป็นผู้หญิง แถมยังสวยมากๆ ด้วย
“น้องมึงยังไม่มีแฟนอีกเหรอ?”
“ไม่เห็นจะควงใครสักคน” วันๆ เห็นอยู่แต่กับจัสมิน บางทีเขายังคิดว่าน้องสาวของเขาอาจจะเป็นเลสเบี้ยนที่ชอบเพศเดียวกันซะด้วยซ้ำ
“อาจจะแอบคบ แต่ไม่บอกมึงงี้”
“มันก็เป็นสิทธิ์ของน้องกูนะ กูเป็นพี่กูไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของน้องกูอยู่แล้ว”
“โห พูดโคตรจะดูดีเลยสัส กูเห็นพี่บางคนหวงน้องยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อีก ดูอย่างไอ้เพทายดิ ปกติหวงน้องสาวมันมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไมไอ้องศาถึงเอาไปแดกได้ น้องพราวอย่างสวยเลย”
“แต่ยกเว้นกูครับ ไม่หวงเลย อยากคบใครก็คบ เพราะกูเชื่อว่าน้องกูเป็นคนฉลาด” ไคโรเอ่ยตอบเพื่อนของเขาไป ก่อนจะหันไปยกขวดเหล้าขึ้นมาเทใส่แก้วของตัวเองอีกครั้ง
“มึงดูเด็กร้านมึงดิ โคตรสวยอะ เป็นหญิงแกร่งซะด้วย กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้เด็กพวกนั้นถึงได้อยากฟันกันนัก” เสียงกระซิบที่ข้างกกหูทำให้ไคโรหันไปมองตามสายตาของเพื่อนชายของเขาที่มองไปทางร่างบางที่กำลังเดินยกลังที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนหลายขวดด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
“สวยเหรอ กูว่างั้นๆ นะ” ความจริงสวยแหละ สวยมาก แต่เพราะเขาไม่เคยชมเด็กที่อายุน้อยกว่าเขาเกือบสิบปีว่าสวยต่อหน้าเพื่อนของเขาเลยสักคน
อาจเป็นเพราะว่าเวลาที่เขาเห็นเด็กผู้หญิงพวกนั้น เขามักจะเห็นหน้าน้องสาวของเขาลอยมาอยู่ตลอดเวลาเลยก็ได้
“ตามึงโคตรถั่ว แบบนี้ไม่เรียกสวย แล้วแบบไหนที่เรียกว่าสวยวะ”
“คนนั้นไง สวยมาก เดี๋ยวกูมานะ” พูดจบไคโรก็ลุกจากโซฟาแล้วเดินไปยังโต๊ะที่มีผู้หญิงนั่งกันอยู่สี่ห้าคน โดยมีสายตาของเพื่อนเขามองไปด้วยความปลง
สองชั่วโมงต่อมา 23.30 น.
“พี่เค้กคะ เดี๋ยวจัสขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“โอเคจ๊ะ รีบไปรีบมานะ ลูกค้ายังเยอะอยู่เลย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะรีบมานะคะ” เพราะลูกค้าเยอะนี่แหละ ตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย นี่ก็ปวดฉี่จนจะราดอยู่แล้ว
ฉันรีบพาตัวเองเดินตรงไปยังห้องน้ำหญิง ก่อนจะใช้ห้องที่อยู่ด้านในสุด รีบฉี่แล้วจะได้รีบกลับไปทำงาน ทว่าในขณะที่ทำธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อยนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“เราจะเอากันในนี้จริงๆ เหรอคะ? เดี๋ยวมีใครมาเห็นทำยังไงคะ!!”
“ผมเอาป้ายทำความสะอาดวางไว้หน้าห้องน้ำแล้วครับ ไม่มีใครเข้ามาในนี้แน่นอน”
“แต่ว่า…..”
“ถ้าคุณไม่พร้อมผมก็ไม่บังคับนะ งั้นเราออกไปกันเลยก็ได้”
“เดี๋ยวสิคะ นุ่นยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่พร้อม”
บทสนทนาที่อยู่ด้านนอก ทำให้ฉันที่กำลังจะกดชักโครกจำต้องชักมือตัวเองกลับคืนมา ก่อนที่เสียงต่อมาจะเป็นเสียงดังจ๊วบจ๊าบเหมือนคนจูบกัน
แล้วนี่ทำไมต้องมาเอากันตอนที่ฉันอยู่ในห้องน้ำด้วยวะ อยากจะบ้า
“อ๊ะ อื้อ!! ใจเย็นๆ สิคะ”
“ก็หุ่นคุณมันน่าจับกระแทก”
“คุณมีถุงยางใช่มั้ย?”
“มีครับ เพราะผมก็ไม่เอาใครโดยที่ไม่ใส่ถุงยางเหมือนกัน”
“งั้นให้ฉันใส่ให้มั้ยคะ เดี๋ยวเอาปากใส่ให้”
ตายๆๆ ทำไมฉันจะต้องมาได้ยินอะไรพวกนี้ด้วยเนี่ย ถ้าเปิดประตูออกไปตอนนี้มีหวังสองคนนั้นกรี๊ดลั่นห้องน้ำแน่ๆ แต่ถ้าจะให้นั่งฟังบทรักอันร้อนแรงที่กำลังจะขึ้นตอนนี้ก็ไม่ไหวหรือเปล่าวะ ทำไงดียัยจัสมิน
จริงสิ ฉันมีหูฟังมาด้วยนี่นา งั้นก็ฟังเพลงรอไปพลางๆ ก่อนแล้วกันนะ สองคนนั้นคงไม่เอากันนานเป็นชั่วโมงหรอกมั้ง ปกติคนเรามีเซ็กส์กันกี่นาทีนะ
สิบนาที?
หรือว่ายี่สิบนาที?
ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูดีกว่า คิดได้แบบนั้นฉันก็พิมพ์ลงในพี่กูลทันทีหลังจากที่กดเล่นเพลงในแอพมือถือเสร็จ
ซึ่งตอนนี้ฉันก็นั่งฟังเพลงไปด้วย หาข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาของการมีเซ็กส์ไปด้วย นี่ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย
สามสิบนาทีต่อมา
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ ขอแรงกว่านี้อีกได้มั้ยคะ”
“เสียวจังเลยค่ะ ของคุณใหญ่มาก อ๊า”
“อื้อ!! แรงอีกค่ะ แบบนั้นแหละ โอ๊ยเสียว นุ่นจะเสร็จอีกแล้วค่ะ”
ฉันได้แต่กลอกตามองบนไปมาหลังจากที่ลองเอาหูฟังออกจากหู เพราะอยากรู้ว่าชายหญิงสองคนที่อยู่ด้านนอกเค้าเล่นจ้ำจี้กันเสร็จหรือยัง เพราะตอนนี้มันผ่านมาแล้วครึ่งชั่วโมง
ครึ่งชั่วโมงที่ฉันต้องทนนั่งอยู่บนฝาชักโครกแล้วฟังเพลงไปเกือบจะสิบเพลงแล้วด้วย แต่สองคนด้านนอกก็ยังเล่นจ้ำจี้กันไม่เสร็จ
แล้วจะเสร็จกันกี่โมง นี่บอกพี่เค้กว่าขอมาเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว แต่ดันหายมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวอีกชั่วโมงก็ต้องกลับแล้วด้วย เพราะคืนนี้เฮียไคนัดฉันให้ไปเจอที่ลานจอดรถตอนตีหนึ่ง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”
“โอ๊ย แตกแล้วครับคนสวย”
“ฉันก็ถึงหลายรอบแล้วค่ะ คุณเป็นผู้ชายที่อึดมากเลยนะคะ”
“นี่ชมผมอยู่ใช่มั้ย”
“ถ้าใช่ล่ะคะ อึดๆ แบบนี้นุ่นชอบมาก ว่าแต่ถ้าอยากสนุกกับคุณอีกต้องทำยังไงคะ เราแลกไลน์กันดีมั้ย”
“แฟนคุณจะไม่มาดักทำร้ายร่างกายผมใช่มั้ย”
“ฉันโสดค่ะ โสดที่แปลว่าไม่มีแฟน”
“ผมก็โสดครับ โสดที่แปลว่าไม่อยากมีแฟน”
อยากจะเห็นหน้าไอ้ผู้ชายกับผู้หญิงสองคนนี้จังว่าหน้าตามันจะเป็นยังไง เล่นจ้ำจี้กันเสร็จแล้วก็รีบๆ ออกไปสิ คนจะไปทำงานต่อแล้วโว้ย มัวแต่พูดกันอยู่ได้
“นุ่นไม่อยากเชื่อเลยค่ะ ว่าคุณไคโรยังโสด”
“ถ้าไม่เชื่อก็มาเที่ยวที่ผับผมบ่อยๆ สิครับ แล้วจะรู้ว่าผมโสดจริงมั้ย”
เดี๋ยวนะ ชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นเรียกเมื่อกี้เหมือนชื่อเฮียไคเลย นี่อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นเฮียไคจริงๆ อะ
ไวกว่าความคิดก็คงจะเป็นมือของฉันนี่แหละที่แอบแง้มประตูห้องน้ำแล้วมองไปยังชายหญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้ากระจก แต่แล้วจู่ๆ สายตาของฉันดันไปปะทะเข้ากับสายตาของเฮียไคผ่านทางกระจกบานใสพอดิบพอดี ฉันเลยรีบปิดประตูด้วยความรวดเร็ว ตายแน่ๆ ยัยจัส แกต้องตายแน่ๆ เฮียไคจะรู้ไหมนะว่าเป็นฉันอะ
“เดี๋ยวฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีเพื่อนๆ โทรมาตามแล้วค่ะ”
“ครับ ผมก็จะไปแล้วเหมือนกัน ยังไงเจอกันใหม่นะครับ”
ฟู่!! ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนเมื่อกี้ ก่อนจะฟังให้แน่ใจว่าทั้งสองออกไปจากห้องน้ำแล้วจริงๆ
เสียงเงียบไปแล้ว แสดงว่าออกไปกันหมดแล้วแน่ๆ คิดได้แบบนั้นฉันก็หันไปกดชักโครก แล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมา
ทว่าก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใครบางคนยืนกอดอกพิงกำแพงมองมาทางฉัน
“ไง เป็นถ้ำมองเหรอเราอะ”
O.O