มหาวิทยาลัย
วันนี้มีเรียนบ่ายสามกว่าจะเลิกคงทุ่มเกือบสองทุ่มนู่น ใจ๋ฝาแฝดของฉันไม่ได้มาเรียนเพราะพี่เสือพาไปเที่ยวบนดอย
“จ๋ายริวจิให้มาขอคอนแทค”
“หือ?” ฉันหันมองยี่หวาที่พูดขึ้นมา เพราะเห็นว่ากำลังสงสัยก็เลยชี้ให้ดูว่าใคร “ไอ้หนุ่มหน้าญี่ปุ่นนั่นไง”
“บอกไปว่าไม่ให้มีผัวแล้ว”
แปะ!! ฉันฟาดมือลงบนแผ่นหลังของไทเกอร์จนอีกฝ่ายร้องเสียงดังพร้อมแอ่นตัวไปข้างหน้า สม!! ปากไม่ดีชอบพูดจาหยาบคาย ทีกับใจ๋ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย
“นี่นายเป็นแค่เพื่อนอย่าหวงจนออกนอกหน้า” ยี่หวาบอก ก่อนจะถามฉันต่อ “สรุปให้ไหม?”
“หล่อดีนะ”
พูดแล้วสายตาก็มองไปยังหนุ่มน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นที่กำลังยิ้มเขิน เพราะฉันเพิ่งย้ายมาเรียนไม่ถึงปีก็เลยไม่สนิทกับเพื่อนๆ ในคลาสเท่าไร แต่ทุกคนจะรู้จักดีในฐานะฝาแฝดของใจ๋ ตอนย้ายกลับมาเรียนที่ไทยทั้งมหาวิทยาลัยฮือฮากันใหญ่ ช่างเป็นเรื่องแปลกจริงๆ
“หล่อสู้ฉันไม่ได้ ไม่ต้องให้” เพื่อนปากเสียอย่างไทเกอร์ขัดขึ้นมาอีกครั้ง นิสัยขี้หวงมันแก้ไม่หายเลย ชาตินี้คงไม่มีแฟนหรอกฉันน่ะถ้าเขายังคอยกันท่าคนอื่นแบบนี้
“เอาให้เลยยี่หวา”
“จ๋าย!!”
ไม่สนใจเสียงตวาดหงุดหงิดของคนเอาแต่ใจ พอบอกยี่หวาไปแบบนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น จู่ๆ ไทเกอร์ก็ลุกพรวดเดินออกไปจากห้องเรียนเลย โอดินตะโกนถามว่าจะไปไหนก็ไม่ยอมบอก
ไม่ง้อหรอก!!
ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนเด้งเข้ามาในโทรศัพท์ ชื่อที่ขึ้นอยู่หน้าจอทำให้ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย
ไทเกอร์: มาห้องน้ำหลังตึกคณะ
ฉัน: เปลี่ยวขนาดนั้นจะให้ไปทำไม หลอกไปทำมิดีมิร้ายหรือเปล่า
ไทเกอร์: รีบมารออยู่
อ่านประโยคสุดท้ายก่อนจะปิดหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นก็คิดว่าจะไปดีไหม เบื่อจะตามใจแล้วจริงๆ
แต่ก็นั่นแหละ!! สรุปตอนนี้ฉันก็เอาตัวเองมายังสถานที่นัดหมายจนได้ ที่นี่ค่อนข้างเปลี่ยวยิ่งช่วงค่ำไม่มีนักศึกษาผ่านไปมาหรอก
“มีอะไร”
มือหนาดึงฉันเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับล็อกกลอนประตู ได้กลิ่นบุหรี่จางๆ จากตัวไทเกอร์ด้วย เอาอีกแล้วสินะแอบสูบอีกแล้ว
“ทำไมต้องสูบบุหรี่ ช่วงนี้เป็นอะไรหงุดหงิดบ่อย เมนมาหรือไง”
“เอาโทรศัพท์มา”
“ไม่”
“จ๋าย เอามา”
ไม่รอให้ยื่นโทรศัพท์ในมือให้คนเจ้าอารมณ์ก็รีบดึงมันออกไปแล้วก้มหน้าก้มตาก็กดๆ อะไรไม่รู้
ไทเกอร์กับฉันรู้รหัสโทรศัพท์ของกันและกัน ระหว่างเราไม่มีความลับเลย
“ทำอะไร แล้วหัวคิ้วน่ะขมวดอะไรขนาดนั้น” ฉันยกมือขึ้นนวดๆ หัวคิ้วหนาอย่างอดไม่ได้
“มันเจ้าชู้”
“ใคร?” จริงๆ ก็รู้อยู่แล้วก็แค่ถามให้อีกคนหัวเสียเล่นๆ ไปอย่างนั้น
“ริวจิ”
“อือชอบท้าทายดี” ฉันยิ้มกว้างในขณะที่ไทเกอร์ทำหน้าบึ้งบอกบุญไม่รับ “เจ็บมาไม่ปล่อบนะ”
“ให้ยี่หวา ใจ๋ โอดินปลอบก็ได้”
“สนใจมัน?”
“ก็น่าสนใจดี”
“แล้วคิดว่ามันจะรับเรื่องของเราได้ไหม?”
“ทำไมต้องบอก ยังไม่ถึงขั้นนั้นซะหน่อย” พูดราวกับว่าฉันคุยกับริวจิแล้ว เขาแค่ขอคอนแทคไปยังไม่ได้เริ่มคุยกันเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมเดี๋ยวนี้ดื้อจัง หืม~” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ๆ ฉันต้องถอยหนีมาจนติดขอบอ่างล้างมือ
“ไทเกอร์เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“ใครมันจะเดินมาแถวนี้ค่ำๆ มืดๆ”
ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างคว้าจับบนสะโพกของฉันออกแรงบีบเบาๆ ก่อนจะยกให้ขึ้นมานั่งบนขอบอ่างล้างมือ จากนั้นก็แทรกตัวมาอยู่ตรงกลาง
ใบหน้าหล่อฝังลงมาที่ซอกคอพยายามเอนตัวหนีสัมผัสจากริมฝีปากแต่ไม่ไวเท่าอีกคน
“อื้อ ทำอะไร”
“ไม่ได้ทำ”
“โกหก”
“พรุ่งนี้มีแข่งที่สนามเฮียล่า ไปดูไหม” จงใจเปลี่ยนเรื่องชัดๆ แต่ฉันก็เออออตามด้วยเพราะไม่อยากคุยเรื่องเดิม
“อือไปก็ได้”
“คืนนี้….”
“กลับไปนอนบ้าน แม่สงสัยแล้ว”
“แค่ถามยังไม่ได้ชวน”
“อ้าปากก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”
ถึงจะตัวติดหนึบกันอยู่แทบจะตลอดเวลาแต่ฉันเมื่อก่อนไม่ได้นอนกับไทเกอร์เลย มีแค่ช่วงหลังมานี้ที่ค้างคอนโดบ่อยๆ จนใจ๋เริ่มถามแม่ก็สงสัย
ความสัมพันธ์นี้มันอธิบายยากก็เลยไม่อยากให้ใครรู้ เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไงกับสิ่งที่เราสองคนทำกันอยู่
“อ่ะ ไทเกอร์!!” เพราะมัวแต่เผลอคิดฟุ้งซ่านทำให้ถูกคนตรงหน้าฉวยโอกาสก้มลงมาใช้เคี้ยวฟันงับเข้าที่เนินอก ถึงแม้จะมีชุดนักศึกษากั้นผิวเนื้ออยู่แต่ก็เจ็บไม่น้อย
“กัดทำไม นายเริ่มเหมือนหมาทุกทีแล้วนะ”
“แล้วเธอ….อยากเลี้ยงหมาไหมล่ะ”