มหาวิทยาลัย
ฉันกับยี่หวากำลังนั่งทำรายงานกลุ่ม ส่วนไทเกอร์และโอดินเดินไปซื้อกระดาษมาเพิ่ม
“ฉันว่าแกกับไทเกอร์ตัวติดกันมากเกินไประวังจะหาแฟนไม่ได้นะ” ยี่หวาบอก ได้ยินจนชินแล้วแหละคำๆ นี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องบอกแบบนั้นอยู่เรื่อย
“ทำไมต้องมีแฟนล่ะ แค่มีไทเกอร์ก็พอแล้ว” ฉันยิ้มกว้าง ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยเพราะมัวแต่โฟกัสอย่างอื่นมากกว่า
“สักวันแกก็ต้องโหยหาความรักอยู่แล้วจ๋าย พูดอย่างกับจะอยู่กับไทเกอร์ไปจนแก่ คิดถึงอนาคตหน่อย ยังไงก็ต้องมีคู่ชีวิตนะ”
“ไม่มีไม่ได้หรอ การมีไทเกอร์อยู่ในชีวิตแบบนี้มันดีมากเลยนะ อีกอย่างรายนั้นก็ไม่เห็นทำท่าทีว่าจะสนใจใคร”
ฉันทำหน้าบึ้ง ไม่อยากพูดเรื่องนี้เลยยี่หวาเปิดประเด็นขึ้นมาทำไมก็ไม่รู้เนี่ย เฮ้อ
“ใช่น่ะสิตอนนี้มันสนใจแค่แก แต่สักวันก็ต้องเจอคนที่ถูกใจอยู่ดี แล้วแกสองคนสนิทกันมากเกินไปแบบนี้มันจะมีปัญหาได้นะ”
“……….” การมีแฟนทำให้เราต้องแยกกันเลยหรอ ไม่สิ ไม่อยากเป็นแบบนั้นสักหน่อย เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเลยนะ ฉันกลับมาเรียนที่ไทยก็เพราะไทเกอร์
“ถ้าไม่อยากให้ไทเกอร์มีแฟนก็เป็นแฟนกันไปเลย แกสองคนทำอะไรอย่างกับคนคบกัน ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ถือกระเป๋าให้ แถมยังออกอาการหวงเกินเพื่อน คบเป็นแฟนให้มันจบๆ”
คำแนะนำนั้นทำให้ต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธ จะมาเป็นแฟนได้ยังไงไม่ได้ชอบในทำนองนั้นสักหน่อย ฉันไม่ได้รู้สึกกับไทเกอร์ในฐานะคนรัก แต่ระหว่างเรามันเรียกว่าผูกพันได้ไหมนะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
“ไม่สิ เป็นเพื่อนกันนะจะเป็นแฟนได้ยังไง ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นซะหน่อย”
เขาน่ะสำคัญกับฉันมากๆ เลยนะ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรแต่ถ้าให้พูดคงขาดเพื่อนสนิทคนนี้ไปไม่ได้แล้ว ชีวิตของจ๋ายน่ะไม่มีไทเกอร์ไม่ได้หรอก
“จ๋ายฉันถามจริงๆ นะ แกกับไทเกอร์ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม แค่เพื่อนหรือแบบว่า….” ยี่หวาดูลำบากใจที่จะถามพอสมควรฉันจึงรีบตอบให้หายสงสัย
“คิดอะไรมากเนี่ยยี่หวา ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ฉันกลัวไงล่ะเดี๋ยวนี้มันมีความสัมพันธ์แบบ Fwb ด้วยนะ เพิ่งรู้มาไม่นานนี้เอง”
“ยังไงหรอ?” ความสนใจทำให้ถามกลับ ยี่หวาวางปากกาในมือลงจากนั้นก็เริ่มพูด “ก็คู่นอน ต่างฝ่ายต่างสนุกกับเซ็กส์แต่ไม่ผูกมัดกัน”
“…ยังไงต่อเล่าหน่อยสิ”
“แกดูสนใจแปลกๆ นะ” ฉันยกมือขึ้นกอดอกให้กับสีหน้าที่จับผิดของเพื่อนพร้อมอธิบายเหตุผล “ก็เพิ่งเคยได้ยินไง แกเปิดประเด็นมาคนแรกเลยนะยี่หวาพอฉันสนใจก็มาจับผิดกัน มันยังไงเนี่ย”
“อ่าๆ โอเค ก็แบบว่าถ้าตกลงจะอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้วก็ต้องซื่อสัตย์กับคู่นอนของตัวเอง”
“อ๋อ…แบบนี้นี่เอง”
จะผิดไหมถ้าคิดว่านี่มันน่าสนใจดี ถ้าฉันกับไทเกอร์อยู่ในความสัมพันธ์นั้นเราก็ไม่ต้องมีแฟน ไม่ต้องแยกจากกันไปไหน
“ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นก็ดีแล้วจ๋าย ที่ฉันถามเพราะเป็นห่วง แกกับไทเกอร์มันเป็นความสัมพันธ์ที่เข้าใจยากก็จริงแต่มิตรภาพมันสวยงามกว่าเซ็กส์เชื่อสิ อย่าคิดจะเริ่มเลย ถ้าชอบก็เป็นแฟนกันไปเถอะ”
พูดจบยี่หวาก็ก้มหน้าทำงานต่อ ส่วนฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้ากูเกิ้ลพิมพ์ค้นหาคำว่า ความสัมพันธ์แบบfwb แล้วตั้งใจอ่าน
“มัวแต่เล่นโทรศัพท์ช่วยเพื่อนทำงานหน่อย”
เสียงท้วงจากไทเกอร์ที่เดินกลับมาโต๊ะทำให้สะดุ้งตกใจพร้อมนิ้วที่รีบปิดมือถือทันที
“เพิ่งเล่นเองบ่นเป็นคนแก่ไปได้” ว่าจบก็หยิบกระดาษที่เพิ่งซื้อเพิ่มมาเขียนรายงานต่อ
ทั้งที่ต้องตั้งใจทำงานแท้ๆ แต่ทำไมถึงเอาแต่คิดเรื่องที่ยี่หวาพูดนะ
“บอกจ๋ายยังที่จะแข่งสนามเถื่อน”
คำพูดของโอดินทำให้หลุดจากภวังค์ก่อนจะจ้องเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังทำหน้าตาเลิ่กลั่กกันทั้งคู่
วางปากกาในมือก่อนจะยกมือมาเท้าคางอย่างติดเป็นนิสัยเวลาจับผิด แล้วถามย้ำ “ว่ายังไงนะ”
ไทเกอร์หันมองโอดินตาเขียวพร้อมสบถ “เหี้ยโอดินปากมากนะมึง”
“กูไม่รู้ คิดว่ามึงจะบอก”
“สนามเถื่อนอะไรไทเกอร์”
“ไม่มีอะไร”
“นายมีความลับ”
“มันก็ต้องมีกันบ้าง”
“แต่ฉันไม่เคยปิดบังอะไรนายเลยนะ”
“สาบานไหมจ๋าย ใครก็มีความลับกันทั้งนั้น”
ไม่ชอบ ไม่ถูกใจเลยกับคำตอบนั้น เหมือนว่าฉันกำลังเอาแต่ใจอยู่แต่อีกฝ่ายไม่สนใจแถมยังเมินก้มหน้าเขียนงานต่อ