คุณคิดเองแล้วกัน

1471 Words
ช่วงเช้าของวัน หลังจากที่คุณหมอเข้ามาตรวจอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังของจิรายุเรียบร้อย จึงอนุญาตให้ประธานหนุ่มกลับบ้านได้ แต่ผู้ช่วยเลขากลับนอนหลับใหลอยู่บนโซฟาไร้วี่แววรู้สึกตัวตื่น “ให้ฉันปลุก ภรรยาให้ช่วยประคองไปเข้าห้องน้ำดีไหมคะ” พยาบาลวัยกลางคนเอ่ยถามจิรายุที่กำลังจะเดินลงจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ “ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการตัวเองได้” “งั้นมีอะไร เรียกพยาบาลได้นะคะ” จิรายุพยักหน้ารับและเดินไปเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองและหวังว่าเดินออกจากห้องน้ำ ผู้ช่วยเลขาคงตื่นนอนด้วยตัวเองแล้ว จิรายุจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จ ชายหนุ่มเดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็กพร้อมทำงาน ต่างจากเกวลินที่พึ่งตื่นนอน สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ท่าทางงัวเงีย เอ่ยทักประธานหนุ่มด้วยดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ท่าน ตื่นนานแล้วเหรอคะ” “ตื่นสายไปนะ” น้ำเสียงเรียบเฉย สายตาตำหนิเป็นเชิงหยอกล้อให้เกวลินรู้ตัว จนหญิงสาวต้องนั่งยืดตัวตรงเก็บอาการง่วงนอนของตนเองเอาไว้ “ก็ฉันต้องตื่นบ่อย มาดูท่านไง” ข้ออ้างที่ผุดเข้ามาในสมอง ณ เวลานี้ เป็นคำพูดของบุคคลที่นอนเฝ้าไข้คนป่วย แต่คงไม่ใช่เธอ เพราะเท่าที่จำความได้เธอหลับสนิท ตื่นนอนอีกทีก็เช้าเลย “อ๋อเหรอ งั้นก็รีบ” จิรายุลากเสียงยาว พลันบอกเธอให้รีบเตรียมตัวไปทำงานในเช้าวันนี้ “วันนี้ลา หรือ เข้าสายได้ใช่ไหมคะ” น้ำเสียงและดวงตากลมโตประกายอย่างมีหวัง อย่างน้อยประธานบริษัทคงเห็นใจเธอบ้าง แต่! “คุณคิดเองแล้วกัน พึ่งมาทำงานใหม่ ลา เข้าสาย สายตาคนอื่นจะมองยังไง” น้ำเสียงและใบหน้าเรียบเฉยตอบกลับผู้ช่วยเลขา ไร้ประโยคปฏิเสธ แต่เต็มไปด้วยคำพูดชวนคิดที่ทำให้เกวลิน ต้องรีบยันตัวลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว “งั้นแยกย้ายกันตรงนี้นะคะ สวัสดีค่ะ” เกวลินบอกลาจิรายุพัลวัน ก่อนที่ร่างบางจะรีบเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยท่าทางเร่งรีบ พร้อมกับมือเล็กยกมือถือขึ้นมองนาฬิกาบ่งบอกเวลากระชั้นชิด “หึ!” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอหนา จิรายุยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ ยิ่งแกล้งผู้ช่วยเลขาได้สำเร็จ ยิ่งชอบใจและทำให้อารมณ์ดีไม่น้อย @ บริษัทอิทธิวิวัฒนากุล เกวลินเดินมุ่งตรงมายังโต๊ะทำงานของตนเอง ด้วยท่าทางเร่งรีบและดูเหมือนวันนี้จะเป็นข่าวดีของเธอ เมื่อเธอนั้นพบกับขันติเลขาคนสนิทของท่านประธาน “คุณขันติ หายป่วยแล้วเหรอคะ” “คะ ครับ” ขันติตอบกลับด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก น้ำเสียงตะกุกตะกัก เสมือนคนตกใจกับคำถามที่ต้องตอบก็ไม่ปาน “ดีเลยค่ะ เป็นเลขาไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ ขนาดเป็นผู้ช่วยเลขาเกือบตุยอยู่แล้ว” เกวลินไม่ได้คิดอะไรมากนัก เธอเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานท่าทางหมดแรง “เจออะไรมาครับ” ขันติเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพียงแค่เห็นท่าทางเหนื่อยล้าของเกวลิน “เมื่อวานไปตรวจงานที่ไซต์งานก่อสร้าง ด้วยความซุ่มซ่ามของเกวก็เลยเผลอไปเกี่ยวเหล็กล้มลงค่ะ” “คุณเกวเป็นอะไรมาก รึเปล่าครับ” ประโยคคำพูดของเกวลิน สร้างความตกใจให้กับขันติไม่น้อย “ไม่ค่ะ” “ห้อยพระ อะไรครับ” เมื่อเห็นว่าเกวลินไม่ได้เป็นอะไร ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ขันติเลขาสายมู จึงรีบเอ่ยถามของดีจากผู้ช่วยเลขาพัลวัน “พระประธานค่ะ” เกวลินตอบกลับด้วยใบหน้าที่แสดงอาการอมยิ้ม กลั้นขำเอาไว้ เมื่อเธอกำลังเล่นมุกใส่ขันติ “หือ” ขันติขมวดคิ้วเข้าหากัน มึนงง กับคำพูดของเกวลินพอสมควร แต่หากให้คิดเอง พระประธานที่เธอบอกคงเป็นพระประธานองค์ใหญ่ที่บ้านเสียมากกว่า “พอดีท่านประธาน เข้ามาขวางเอาไว้ได้ทันค่ะ” เมื่อเห็นใบหน้ามึนงง ปนสงสัยและข้องใจของขันติ เกวลินจึงรีบเฉลยทันที “ท่านประธานของเรา เนี่ยนะครับ” ขันติแอบตกใจกับคำตอบที่ได้ยินไม่น้อย เพราะเขาทำงานกับประธานหนุ่มมานานหลายปี เรียกได้ว่าสนิทประดุจพี่น้องพ่อแม่เดียวกันที่สามารถรู้ใจกันเกือบทุกเรื่อง “ใช่เลยค่ะ” เกวลินย้ำประโยคคำพูดของตัวเอง เมื่อเห็นว่าขันติยังคงแสดงสีหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดออกไป “ผมบอกได้เลยว่า คุณเกวเป็นคนมีบุญครับ” รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของขันติ ยิ้มที่มีนัยบางอย่างแอบแฝงอยู่ “เกวไม่เข้าใจ ที่คุณขันติพูดเลยค่ะ” “วันหนึ่งคุณเกว จะเข้าใจเองครับ” “รู้ตอนนี้ ไม่ได้เหรอคะ” ทำไมเธอต้องรอ? ถึงวันนั้นเธอจะยังจำคำพูดของขันติได้อยู่หรือเปล่า “ติดตาม ตอนต่อไปครับ” ขันติยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมเฉลยสิ่งที่ตัวเองใบ้ให้กับเกวลินแม้แต่นิดเดียว ก่อนที่ขันตินั้นจะปลีกตัวเดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน ที่วันนี้เดินทางมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ มาพร้อมกับท่าทางอารมณ์ดีจนขันตินึกแปลกใจ ช่วงบ่ายของวันหลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อย เกวลินและขันติจึงกลับมาเคลียร์งานต่อ โดยได้รับคำแนะนำและสอนงานจากขันติทุกอย่างไม่มีกั๊ก “คุณขันติ ตรงนี้เกวลงรายละเอียดถูกใช่ไหมคะ” “ถูกต้องครับ คุณเกวหัวไวมาก” ผู้หญิงคนนี้หัวไวมาก นี่คือความคิดที่ผุดเข้ามาในหัวของขันติ สวย ฉลาด เรียนรู้เร็ว ไม่เหมือนกับพนักงานบริษัทเลยสักนิด เพราะท่าทางการทำงานของ เกวลินเสมือนผู้บริหารคนหนึ่งก็ว่าได้ “ได้ครูสอนดีค่ะ” เกวลินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เอ่ยชมครูสอนงานได้เข้าใจจนเธอสามารถเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่! ในระหว่างที่ขันติและเกวลินกำลังคุยเรื่องงานกันอยู่ กลับมีเสียงแหลมของผู้หญิง คนหนึ่งดังขึ้น “เลขาใหม่ ของคุณจิรายุเหรอ?” ไปรยาเอ่ยถามขันติ สายตายังคงจับจ้องไปยังใบหน้าสวยของเกวลิน ตวัดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าดั่งคนไร้มารยาท “ผู้ช่วยเลขาครับ” ขันติตอบกลับอย่างใจเย็น อย่างน้อยไปรยาคือพรีเซนเตอร์ของบริษัท ที่ไม่สามารถต่อกรได้สักเท่าไรนัก ด้วยชื่อเสียงและความฮอตของเธอในตอนนี้ บริษัทไหนก็อยากได้ไปร่วมงาน “อ้อ ไปรยาก็นึกว่า คุณขันติจะลาออกเสียอีก” “ไม่ใช่ครับ วันนี้คุณไปรยาไม่พาผู้จัดการมาด้วยเหรอครับ” ขันติกวาดสายตามองไปโดยรอบ แต่กลับไร้เงาของผู้จัดการไปรยาที่มักเข้ามาคุยงานด้วยอยู่เป็นประจำ “ฉันมาคนเดียว สะดวกกว่าค่ะ อีกอย่างจะได้อยู่คุยกับคุณจิรายุได้สะดวกหน่อย” “วันนี้มีนัดคุยเรื่องงาน ไม่มีผู้จัดการไม่เป็นไรเหรอครับ” “ฉันกับคุณจิรายุคนกันเอง คุยกันได้สบายค่ะ” ไปรยาตอบกลับอย่างมีจริต ท่าทางดั่งนางพญา อาจจะสวยสำหรับผู้ชายหลายคน แต่สำหรับเขาไม่เลยสักนิด “งั้นรอที่ห้องรับแขกสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมเข้าไปแจ้งเจ้านายให้ทราบ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวไปรยาเข้าไปทักทายคุณจิรายุด้วยตัวเอง” “แต่ว่า เฮ้ย! หัวไอ้ขันติหลุดจากบ่าแน่” ยังไม่ทันที่ขันติจะห้ามเอาไว้ ไปรยาจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในห้องทำงานประธานบริษัททันที พร้อมกับเสียงร้องห้ามของขันติที่ดังลั่น แต่ไม่สามารถหยุดเธอคนนั้นเอาไว้ได้ “ทำไม? หัวต้องหลุดจากบ่าด้วยคะ” ทำไมต้องเวอร์อะไรขนาดนั้น ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน “เจ้านาย ไม่ชอบคุยงานที่ห้องทำงานครับ ส่วนมากจะห้องรับแขก” “ขันติ!” เพียงแค่ไปรยาเข้าไปในห้องทำงานได้ไม่นาน เสียงเข้มของจิรายุกลับดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน จนขันติเริ่มลนลานและเลิ่กลั่ก “ว่าแล้ว ผมต้องโดนแน่ ๆ” “รีบเข้าไป เถอะค่ะ” “คะ ครับ” ขันติรีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มทันที เพราะขืนช้ากว่านี้ ศีรษะของเขาคงได้หลุดออกจากบ่าแน่นอน “เหอะ! ผู้หญิงหมายเลขที่เท่าไหร่เนี่ย? ตัวเองจะคุยกับคู่ขา ทำไมต้องให้คนอื่นเข้าไปด้วย โรคจิตจริง ๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD