นิสัยคนเจ้าชู้!

1373 Words
ร่างอรชรในชุดทำงานพอดีตัว เดินนวยนาดเข้าไปในห้องทำงานประธานบริษัทด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง มือเล็กถือถ้วยกาแฟตามสูตรที่ถูกแจ้งเอาไว้พอดีเป๊ะ ทำให้ความสนุกในวันนี้หดหายไปในพริบตา “กาแฟค่ะ” ร่างบาง วางกาแฟลงบนโต๊ะทำงานของประธานหนุ่ม ที่กำลังอ่านเอกสารด้วยท่าทางสุขุม ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาบอกกับผู้ช่วยเลขาสาวของตัวเองด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “วันนี้ คุณออกไปตรวจงานกับผม” “คุณขันติล่ะคะ” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เธอเป็นแค่ผู้ช่วยเลขา เหตุใด ต้องออกตรวจงานข้างนอกกับประธานอย่างเขาด้วย “ขันติลาป่วยกะทันหัน” จิรายุยังคงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย บอกสาเหตุผู้ช่วยเลขาเพียงเท่านั้น หวังว่าเธอจะเข้าใจและเข้าใจในคำสั่งของเขา “ท่านประธานไปเอง ไม่ได้เหรอคะ” สมองประมวลผล จนลืมไตร่ตรองโพล่งถามขึ้น เพียงแค่เกวลินลืมสถานะระหว่างเธอและเจ้านายหนุ่มในตอนนี้ “เกวลิน” จิรายุกัดฟันกรอด นัยน์ตาคมติเตือนเกวลินที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ผู้ช่วยเลขาที่หัวรั้นและมีคำถามทุกครั้งที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านาย “โอเคค่ะ กี่โมงคะ” เกวลินจำใจตอบตกลง ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามเวลา เพื่อเตรียมตัวออกไปด้านนอกพร้อมกับประธานหนุ่ม “ผมต้องตอบคำถาม เรื่องแบบนี้กับผู้ช่วยเลขาด้วยเหรอ” จิรายุเอียงคอมองหน้าผู้ช่วยเลขา ที่มาพร้อมกับคำถามย้อนกลับจนน่าเจ็บใจ “แต่ดิฉันไม่มี ข้อมูลนะคะ” เธอไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านประธานแม้แต่น้อย เนื่องจากเธอพึ่งเข้าทำงานได้เพียงแค่สองวันเท่านั้น จะให้รับรู้รับทราบทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ “ไอแพดขันติ วางอยู่บนโต๊ะ” “แต่ดิฉัน พึ่งมาทำงาน ไม่รู้ระบบงานอะไรเลย” “ครับ ผมถึงจะให้คุณออกตรวจงานด้วยกัน” ความช่างถาม ช่างต่อรอง ของผู้ช่วยเลขา ทำให้ประธานหนุ่มถอนหายใจพรืดยาว ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพที่แฝงไปด้วยความใจเย็นตอบกลับเธอ “คุณขันติ ป่วยหนักเหรอคะ” เมื่อกี้เธอยังเจอเลขาขันติอยู่เลย? จึงเกิดความสงสัยขึ้นจนต้องถามออกไป “ไข้ขึ้นสูง” “แต่ เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย” เกวลินพยายามตั้งคำถามที่ตัวเองสงสัย แต่กลับถูกประธานหนุ่มยกมือขึ้นห้ามเอาไว้เสียก่อน “เกวลิน ถ้าคุณว่างตั้งคำถามขนาดนี้ ช่วยเอาเวลาไปดูตารางงานจะดีกว่า” จิรายุผายมือไปทางประตูห้องทำงาน ขืนเลขาสาวยังคงอยู่ในห้องทำงานของเขา มีหวังงานที่วางบนโต๊ะคงไม่เสร็จ เนื่องจากต้องเอาเวลาทั้งหมดตอบคำถามของเธอ “ได้ค่ะท่าน จะไป เดี๋ยวนี้เลย” เกวลินโค้งศีรษะลงเล็กน้อย หันหลังกลับและมุ่งตรงออกจากห้องทำงานประธานหนุ่ม ไปยังโต๊ะทำงานของขันติที่มีไอแพดวางอยู่ รถยนต์คันหรูจอดรออยู่หน้าบริษัท ไร้ซึ่งคนขับรถจะมีก็แต่ประธานหนุ่มที่เดินอ้อมไปประจำที่คนขับ เพื่อทำหน้าที่ขับรถออกตรวจงานด้วยตัวเอง โดยมีผู้ช่วยเลขาเปิดประตูด้านหลังรถยนต์เข้าไปนั่งเสมือนเป็นเจ้านายเสียมากกว่า “มานั่งข้างผม” จิรายุเอี้ยวตัวหันกลับไปสั่งผู้ช่วยเลขาที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ทำให้เขากลายเป็นคนขับรถของเธอไปโดยปริยาย “ไม่ได้สิคะ ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยเลขา” เกวลินปฏิเสธพัลวัน เธอเป็นแค่ผู้ช่วยเลขาไม่สมควร หากจะไปนั่งทัดเทียมข้างประธานบริษัท “ผมไม่ใช่ คนขับรถของคุณ” ประธานหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ใบหน้าหล่อแสดงอาการเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด พลันยกข้อมือตัวเองขึ้นดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิการาคาหลายสิบล้าน “แต่ฉันดูในซีรีส์ เลขา ผู้ช่วยเลขา ไม่ควรนั่งข้างคนขับค่ะ” เธอไม่เคยทำงาน และไม่รู้ว่าควรทำตัวเช่นไร จึงได้นำวิธีที่เห็นจากซีรีส์เรื่องโปรดเข้ามาใช้ในชีวิตจริง ณ ตอนนี้ “ดื้อ ฉิบหาย” จิรายุถอนหายใจพรืดยาว พึมพำกับตัวเองเบาหวิว จนเกวลินที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง เอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการสงสัย “ท่านประธาน ว่าไงนะคะ” “รีบมานั่งด้านหน้า ผมเหนื่อยที่ต้องเถียงกับคุณ” ไม่อยากจะเชื่อ ว่าตัวเองสามารถทนกับความดื้อรั้นของใครบางคนได้ขนาดนี้ ซึ่งเป็นเขาเองที่หาคำตอบไม่ได้ @โครงการก่อสร้างบ้านจัดสรร แสงแดดแจ้งส่องสว่างไปทั่วบริเวณ ร้อนระอุจนแทบไม่อยากเดินลงจากรถยนต์ เบื้องหน้าคือโครงการบ้านจัดสรรที่กำลังปลูกสร้างในเครือบริษัท “หยิบร่ม หลังรถไปด้วย” เสียงทุ้มต่ำสั่งผู้ช่วยเลขาของตัวเอง ก่อนที่เขาจะก้าวเดินลงจากรถยนต์อย่างไม่ลังเล แม้แดดข้างนอกจะร้อนเพียงใดก็ตาม “ค่ะ” เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินลงจากรถ ผู้ช่วยเลขาอย่างเธอจึงรีบก้าวตามติด ๆ และไม่ลืมหยิบร่มตามคำสั่งไปด้วย “สวัสดีครับท่านประธาน สวัสดีครับคุณนาย” วิศวกรคุมงานเอ่ยทักทายประธานหนุ่มและหญิงสาวที่เดินตามหลังมาด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม กึก! เพียงแค่ได้ยินคำทักทายจากพนักงาน จิรายุถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย ไร้ซึ่งเสียงปฏิเสธ ต่างจาก เกวลินที่รีบยกมือปฏิเสธพัลวัน “เออ คือไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยเลขา” “อ๋อ ขอโทษครับ พวกผมไม่เคยเห็นท่านประธาน พาผู้หญิงคนไหนมาตรวจงานด้วย” วิศวกรรีบกล่าวขอโทษท่าทางลุกลี้ลุกลน ยิ่งท่านประธานแสดงความเงียบมากเท่าไร ยิ่งต้องรีบแก้คำพูด “ไม่เป็นไรค่ะ” เกวลินตอบรับด้วยใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มหวาน ยิ้มที่ทำให้วิศวกรหนุ่มเคลิบเคลิ้มจนถูกท่านประธานกระแอมเรียกสติ “งานไปถึงไหนแล้ว” เสียงเข้มปนดุถามขึ้น มือหนาล้วงกระเป๋าท่าทางสบาย แต่สายตากลับกดดันจนวิศวกรหนุ่มเลิ่กลั่ก มือไม้ลนลาน สติกระเจิดกระเจิง รับรู้ถึงอารมณ์มาคุของเจ้านายหนุ่มในตอนนี้ “เรียบร้อยดีครับ” วิศวกรหนุ่มตอบกลับทันที น้ำเสียงและใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ เพราะงานที่ถูกประธานหนุ่มสั่ง เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไรสักเท่าไรนัก “ส่วนที่ผมให้แก้ เรียบร้อยดีใช่มั้ย” “คะ ครับ” “พา ไปดู” ประธานหนุ่มเชิดหน้าไปยังโครงการที่กำลังก่อสร้าง โดยมีผู้ช่วยสาวยืนอยู่ข้าง ๆ แสดงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยเต็มประดา “ครับ นี่หมวกครับท่าน ส่วนนี้ของคุณผู้ช่วย” วิศวกรหนุ่มยื่นหมวกคลุมงานสีขาวให้กับประธานหนุ่มและผู้ช่วยสาวคนละใบ “ขอบใจ/ขอบคุณค่ะ” จิรายุและเกวลินยื่นมือไปรับหมวกจากมือวิศวกรหนุ่ม โดยที่ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะสวมหมวกนั้น ต่างจาก เกวลินที่ยังคงมึนงงและสงสัยกับหมวกที่อยู่ในมือไม่น้อย เพียงแค่ตรวจงาน ทำไม? ต้องใส่หมวก คำถามนี้วนอยู่ในความคิดของเธอ จนกระทั่ง หมวกที่อยู่ในมือ ถูกประธานหนุ่มแย่งไปสวมให้กับเธอ โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “ชักช้า มานี่” จิรายุสวมหมวกให้กับผู้ช่วยเลขาอย่างเบามือ เผลอลืมตัวใช้มือจัดการกับปอยผมที่ยุ่งเหยิงปกปิดใบหน้าสวย “เอ๊ะ!” เกวลินอุทานด้วยความตกใจ เมื่อสัมผัสได้ว่า ศีรษะของเธอมีอะไรครอบอยู่ จนรีบยกมือขึ้นสำรวจทันที “รีบตามมา” ใบหน้าหล่อเหลาซ่อนความเลิ่กลั่กเอาไว้ เปลี่ยนโหมดเสียงเข้มดุตักเตือนผู้ช่วยสาวให้เดินตาม “นิสัยคนเจ้าชู้ เหอะ!” เกวลินกำหมัดแน่น เจ็บใจไม่น้อยที่ถูกประธานหนุ่มฉวยโอกาส แต่ตอนนี้ทำได้เพียงกระทืบเท้า เสมือนเด็กเอาแต่ใจและรีบเดินตามหลังประธานหนุ่มไปในที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD