หน้างานก่อสร้างที่มีอุณหภูมิร้อนระอุ เกวลินทำได้เพียงยืนกางร่มให้กับประธานหนุ่มที่กำลังอ่านแบบและพูดคุยกับวิศวกรท่าทางเคร่งเครียด
ทำให้เกวลินไม่กล้าส่งเสียงหรือเอ่ยถามใด ๆ ออกมา ณ ตอนนี้เธอทำได้เพียงนึกคิดในใจ บ่นอุบอิบให้กับแสงแดดประเทศไทย
(ร้อน โคตรร้อน เมื่อไหร่จะเสร็จ) ทำได้เพียงแค่ตั้งคำถามเอาไว้ในใจ ไร้ซึ่งเสียงเอื้อนเอ่ยถามออกมา
“กลับได้แล้ว” ดั่งเสียงระฆังสวรรค์ เพียงแค่ได้ยินคำสั่งจากประธานหนุ่ม ด้วยความเร่งรีบเกวลินจึงรีบหมุนตัว จะเดินไปยังตัวอาคาร
กลับต้องตกใจ เมื่อร่มอันใหญ่ที่กางอยู่รั้งเข้ากับเหล็กอันใหญ่ที่พิงกำแพงอยู่ จนเธอสะดุดล้มลงไปกองกับพื้นจนร่มหลุดจากมือ แถมท่อนเหล็กที่พิงกำแพง กำลังจะล้มลงใส่เธอ
“ว้าย!”
เกวลินหลับตาลง ยกแขนทั้งสองข้างบังใบหน้าเอาไว้ รอรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นที่มาพร้อมกับเสียงเหล็กกระแทกพื้นดังกังวาน
เสียงเหล็กกระแทกลงบนพื้น แต่เกวลินกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ดวงตากลมโตจึงค่อย ๆ ลืมตา พบกับแผ่นอกหนาของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนบังเหล็กให้กับเธออยู่
“ท่านประธาน” ดวงตากลมโตเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอเผลอไปสบตาคมกริบของประธานหนุ่มที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว
“จะนั่งให้เหล็กทับตาย ก่อนเหรอครับ” น้ำเสียงและคำพูดประชดประชันตอกกลับผู้ช่วยเลขาที่กำลังนั่งอึ้ง ไร้การเคลื่อนไหว ให้ได้สติกลับคืนมา
“ค่ะ ๆ”
มือหนายื่นไปตรงหน้าของเกวลิน ซึ่งเธอไม่รอช้าที่จะจับมือประธานหนุ่มยันตัวลุกขึ้นจากพื้นเปลี่ยนเป็นเข้าไปประคองร่างสูงแทน
“ท่านไม่เป็นอะไรมากใช่รึเปล่าคะ” เกวลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน อุบัติเหตุครั้งนี้เธอคือต้นเหตุ หากไม่ได้ประธานหนุ่มเข้าช่วยไว้ มีหวังเธอคงเจ็บตัวไม่น้อย
“ท่านประธาน ผมว่าไปโรงพยาบาลดีกว่าครับ เหล็กล้มทับหลังขนาดนี้ ผมกลัวว่าปล่อยเอาไว้จะไม่ดี” วิศวกรคนเดิมรีบวิ่งเข้ามาดูอาการประธานหนุ่มด้วยใบหน้าตื่นตระหนกตกใจ
“ไม่ โอ๊ย!” แต่! จิรายุกำลังจะปฏิเสธเสียงแข็งเป็นอันต้องอุทานขึ้นมาด้วยความเจ็บแทน เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บและปวดร้าวบริเวณแผ่นหลังจนยากจะบรรยาย
“รีบไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ รบกวนคุณช่วยประคองไปที่รถหน่อยนะคะ” เกวลินไม่ฟังคำของจิรายุ เธอบอกให้วิศวกรหนุ่มช่วยประคองร่างสูงโปร่งไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ เพื่อพาประธานหนุ่มไปโรงพยาบาล
“บอกว่า ไม่ต้อง” จิรายุยังคงปฏิเสธเสียงเข้ม ชายหนุ่มไม่ชอบโรงพยาบาลตั้งแต่เด็กจึงทำได้เพียงค้านหัวชนฝา
“ไม่ได้ค่ะ เหล็กล้มทับขนาดนี้” แต่! เกวลินยังคงค้านหัวชนฝาเช่นกัน เพราะเธอคือต้นเหตุซึ่งไม่อาจปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ไปได้
“ผมเป็นเจ้านายคุณ ช่วยฟังคำสั่งกันหน่อย” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังคงดื้อรั้นไม่ยอมฟังคำสั่งของตนเอง จิรายุจึงรีบเอ่ยเตือนสถานะเจ้านาย ลูกน้อง ให้เธอได้รับทราบ
“งั้นวันนี้ฉันขอลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยเลขาหนึ่งวันค่ะ พาท่านไปโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน”
“รั้น” จิรายุส่ายศีรษะเบา ๆ เอือมระอากับความดื้อรั้นของผู้ช่วยเลขา ที่กำลังขัดคำสั่งประธานบริษัทอย่างเขา
“ท่านก็ดื้อมากค่ะ” หากจิรายุบอกว่าเธอดื้อ ชายหนุ่มก็คงไม่ต่างอะไรจากเธอสักเท่าไรนักหรอก
“เกวลิน” จิรายุกัดฟันกรอดเสมือนกำลังเตือนเกวลินให้หยุดต่อปากต่อคำกับตนเอง ก่อนที่เขาจะไม่ทน
“ขึ้นรถค่ะ” เกวลินรีบเดินไปเปิดประตู สั่งให้จิรายุขึ้นรถเสียงเข้ม สร้างความตกใจให้กับเจ้าตัวและวิศวกรหนุ่มไม่น้อย
@ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
“ท่าน จะกลัวอะไรคะ” ร่างสูงยังคงดื้อรั้นไม่ยอมลงจากรถยนต์ แม้ว่าบุรุษพยาบาลจะนำรถเข็นมารอรับก็ตาม
ยังไม่ทันที่ประธานหนุ่มจะตอบกลับผู้ช่วยเลขา เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของทุกคนที่กำลังเกลี้ยกล่อมบุคคลที่นั่งอยู่ในรถยนต์
“อ้าว! ไอ้ยุ มึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่” เพียงแค่อรรถพลเห็นทะเบียนรถยนต์ที่จอดหน้าตึกฉุกเฉิน เขาจึงรีบเดินเข้าไปใกล้รถที่ตอนนี้มีคนมุงอยู่
“มึงมาทำเหี้ยอะไร” จิรายุสบถอย่างหัวเสียใส่อรรถพลที่ยืนทำหน้ายียวนกวนประสาทตนเองอยู่
“ที่นี่! โรงพยาบาลกูครับ” อรรถพลตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มภูมิใจในความยิ่งใหญ่และร่ำรวยของตัวเอง
“คุณคือเจ้าของโรงพยาบาลเหรอคะ?” เกวลินรีบหันไปขอความช่วยเหลือจากอรรถพลทันที เมื่อทราบว่าผู้ชายคนนี้คือเจ้าของโรงพยาบาล
“ใช่ครับ คนสวย ไม่ทราบว่าคนสวยมากับเพื่อนผมได้ยังไง”
“ฉันเป็นผู้ช่วยเลขาท่านประธานค่ะ คุณช่วยลากคอท่านเข้าไปรักษาหน่อยนะคะ”
“ลากคอ/ลากคอ” จิรายุและอรรถพลอุทานขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าทั้งสองดูตกใจกับประโยคคำพูดของเกวลินไม่น้อย
“ขอโทษค่ะ ใช้คำผิดไปนิดหน่อย” เกวลินยิ้มเจื่อนลง เมื่อเห็นสายตาจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว
“โตเป็นควาย จะกลัวอะไร กับอีแค่โรงพยาบาลวะ” อรรถพลทราบดีว่าจิรายุไม่ชอบโรงพยาบาล ซึ่งเขาก็ไม่ทราบสาเหตุ ที่ทำให้จิรายุไม่ชอบโรงพยาบาลเช่นกัน
“กูไม่อยากรักษาที่โรงพยาบาลห่วย ๆ ของมึง”
“ไอ้เวร ปากดีนักนะ”
“คุณอรรถพล คุณจะยืนต่อปากต่อคำกับคนไข้อีกนานมั้ยคะ” คุณหมอชมจันทร์ที่ได้รับข่าวจากบุรุษพยาบาล จึงรีบเดินลงมาดูคนไข้ที่ดื้อรั้นไม่ยอมลงจากรถยนต์ แต่กลับเจอเจ้าของโรงพยาบาลยืนต่อปากต่อคำกับคนไข้อยู่
“แหม คุณหมอชมจันทร์ครับ ผมก็กำลังช่วยลากคอ เข้าไปให้คุณหมอรักษานี่ไงครับ”
“ท่านเห็นรึยังคะ? ทุกคนต้องวุ่นวาย เพียงเพราะท่านคนเดียว” เมื่อเหตุการณ์เริ่มชุลมุนมากกว่าเดิม เกวลินจึงรีบหันหน้ากลับไปคุยกับประธานหนุ่มที่ยังคงดื้อรั้น ค้านหัวชนฝา จนทุกคนเริ่มเหนื่อยรวมไปถึงเธอด้วย
“งั้นคุณต้องเข้าไปกับผม” มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กของเกวลิน เสมือนกำลังทำสัญญาระหว่างเธอและเขา หากจะให้เขาเข้าไปรักษาตัวด้านในโรงพยาบาล เธอต้องเข้าไปด้วย
“โอเคค่ะ” เกวลินทำได้เพียงตอบรับคำขอของจิรายุทันที เพราะเธออยากให้เหตุการณ์ชุลมุนแยกย้ายสักที
"ไอ้เวร! กูก็อยู่ตรงนี้ เสือก ชวนผู้หญิงให้เข้าไปด้วย" อรรถพลสบถออกมาด้วยอาการ หัวเสีย หรี่ตามองจับผิดจิรายุไม่ละสายตา