ep8

1465 Words
ธีรเดชรีบเปิดประตูเข้าห้องทันทีแต่ก็พบกับความว่างเปล่า เขาเปิดไฟมองหาภูริตาทั่วทั้งห้องไม่เห็นแม้แต่เงาก็เดือดดาลขึ้นมา ดึกป่านนี้เธอไปไหนทำไมไม่อยู่ห้อง เขาตั้งใจรีบกลับมาเอาเธอแท้ๆแต่เธอดันหายไปไหนไม่รู้ ธีรเดชได้แต่เปิดฝักบัวปล่อยให้น้ำเย็นไหลผ่านร่างกายหวังจะช่วยลดความร้อนรุ่ม แต่ก็เปล่าประโยชน์จึงได้แต่ใช้มือชักว่าว โอวว ซี้ดดด อืมมมม ภูริตามาทำงานที่บริษัทตอนเช้าเห็นดอกกุหลาบช่อใหญ่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็หยิบขึ้นมาดู ใครส่งมานะหรือว่าวางผิดโต๊ะ " พี่พายหนุ่มที่ไหนส่งดอกไม้ให้พี่หน่ะ โอ้โหกุหลาบดอกใหญ่มากต้องแพงมากแน่ๆเลย" " ไม่มีหรอกใครที่ไหนจะส่งให้พี่ สงสัยเขาวางผิดโต๊ะแน่เลย เดี๋ยวพี่ไปถามแม่บ้านดูก่อนว่าใครเอามาวางไว้" ภูริตาเดินถือช่อดอกไม้ออกมา สายตาเหลือบเห็นการ์ดใบเล็กที่อยู่ในช่อดอกไม้เธอหยิบขึ้นมาอ่าน "ดอกไม้สวยๆสำหรับภรรยาที่น่ารักของผม" " _ " เธอโยนทิ้งถังขยะทันที ธีรเดชนิ่งอึ้งกับภาพตรงหน้าในใจรู้สึกห่อเหี่ยว ทำไมเธอถึงทิ้งดอกไม้ที่เขาซื้อให้ ทำไมเธอไม่ดีใจเลย เธอไม่รักเขาแล้วใช่ไหม ภูริตากลับมาที่โต๊ะทำงานก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณปู่ของธีรเดช " คุณปู่ " "หนูพอมีเวลาคุยกับปู่บ้างใหม " " ค่ะคุณปู่ ตอนเย็นหนูจะแวะไปหาที่บ้านนะคะ " " ไม่ต้องหรอก ปู่อยากคุยกับหนูเร็วๆเป็นตอนกลางวันได้ไหม ปู่จะรอหนูอยู่ร้านกาแฟไม่ไกลจากบริษัท" " ได้ค่ะ " พักกลางวันภูริตารีบออกไปหาคุณปู่ที่ร้านกาแฟ กลัวว่าท่านจะรอนานโดยไม่รู้เลยว่าธีรเดชตั้งใจจะพาเธอออกไปกินข้าวข้างนอก เขาเดินไปรับเธอที่โต๊ะทำงาน แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นเธอแล้ว " บอสมาหาพี่พายเหรอคะ" " พายไปไหน ปกติจะไปไหนมาไหนกับพวกเธอตลอดนี่ " " ก็ใช่ค่ะ แต่วันนี้พี่พายบอกว่ามีธุระเลยรีบออกไปค่ะ" " ธุระอะไร" " ไม่ทราบค่ะ" ร้านกาแฟ " สวัสดีค่ะคุณปู่ คุณปู่สบายดีนะคะ " " อืม ปู่สบายดี ว่าแต่หนูเถอะเป็นยังไงบ้างเรื่องไฟไหม้สตูดิโอเมื่อวันก่อน ปู่รู้เรื่องหมดแล้ว " " หนูไม่เป็นอะไรค่ะ แค่สำลักควันนิดหน่อยโชคดีมีคนช่วยออกมาทัน" " คนคนนั้นไม่ใช่ตาธีร์ใช่ไหม" ภูริตาไม่ตอบได้แต่ยิ้มแหยๆพยักหน้า " ใช้ไม่ได้ เกิดอันตรายแทนที่จะปกป้องเมียแต่กลับไปปกป้องผู้หญิงคนอื่น" " ดาวิกาไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นคนรักของเขาเขาจะปกป้องก็ไม่แปลกหรอกค่ะ" " แต่มันไม่ถูกต้อง หนูพายเป็นภรรยามีทะเบียนสมรส " ภูริตาแค่นหัวเราะ มีทะเบียนแล้วยังไงเขาไม่ได้มีใจให้เธอซักหน่อย " ปู่ของหนูบอกปู่แล้วเรื่องที่หนูจะหย่า ปู่อยากให้หนูคิดอีกที" " ไม่ต้องคิดแล้วค่ะ หนูตัดสินใจแล้ว" "ปู่เชื่อว่าตาธีร์ต้องมีความรู้สึกให้หนูบ้าง แค่เขายังไม่รู้ตัวเองเท่านั้น หนูให้โอกาสมันหน่อยได้ไหม " " คุณปู่คะหนูกับเขาอยู่ด้วยกันมา4ปีแล้ว ถ้าเขาจะรักหนู ก็คงรักไปนานแล้วหล่ะค่ะ " " แต่ปู่ไม่อยากให้หนูหย่าจริงๆ" " ถึงหนูจะหย่ากับเขาแล้ว แต่หนูก็ยังรักและเคารพคุณปู่เหมือนเดิม คุณปู่ก็ยังเป็นคุณปู่ของหนูเหมือนเดิม หนูสัญญาว่าจะไปเยี่ยมคุณปู่บ่อยๆ " " เฮ่อ ยังไงปู่ก็เปลี่ยนใจหนูไม่ได้สินะ" " หนูรักเขามาหลายปี ทนอยู่ในเงามืดยอมอยู่อย่างไร้ตัวตน ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่รักหนู หนูยอมแพ้แล้วหล่ะค่ะ หนูจะหย่ากับเขาคืนอิสระให้เขาอย่างที่เขาต้องการ " " ปู่เข้าใจแล้ว เรื่องหย่าปู่จะช่วยจัดการให้" " ขอบคุณค่ะคุณปู่" ภูริตาหยิบมือถือออกมาดูสายที่ไม่ได้รับ50สาย เธอปิดเสียงเอาไว้ไม่อยากให้ใครรบกวนตอนคุยกับคุณปู่ ไม่รู้ว่าธีรเดชโทรมาทำไม เขาเป็นบ้าอะไร ที่ผ่านมาเขาโทรหาเธอนับครั้งได้ วันนี้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา เธอไม่สนใจจะโทรกลับเก็บมือถือใส่กะเป๋าไว้ตามเดิม แล้วขับรถกลับบริษัท พอมาถึงก็เจอธีรเดชยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าบริษัท เขาเห็นเธอเดินมาก็รีบเข้ามาขวางหน้าทันที " ไปไหนมา" " นี่มันเวลาพักฉันจะออกไปไหนก็เรื่องของฉัน " " เอ่อ คุณพายครับ คือว่าบอสรอทานข้าวกลางวันพร้อมกับคุณ " อาชาช่วยพูดแทน " ฉันกินมาแล้ว เชิญคุณไปกินกับคนรักของคุณเถอะ" " คุณไปกินกับใครมา" " ฉันจะไปกินกับใครมันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่จำเป็นต้องรายงานใคร" " แต่ใครที่ว่าคือสามีคุณ " ธีรเดชพูดเสียงดัง ภูริตาตกใจหันมองซ้ายขวากลัวจะมีคนมาได้ยิน เขาบอกเองว่าห้ามบอกเรื่องของเขากับเธอให้ใครรู้ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้พูดว่าเป็นสามีของเธอเสียงดังไม่กลัวคนอื่นรู้หรือยังไง " ไปกับผม " " ไม่ไป ปล่อย ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมาจับ " ภูริตาสะบัดมืออกจากการจับจูงของเขา ธีรเดชหน้าเสีย เธอรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยเหรอ " ทำไม รังเกียจผัวตัวเอง หรือว่ากลัวคนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน" " หึ คุณไม่ใช่เรอะที่กลัวคนอื่นจะรู้ คุณจำไม่ได้รึไงว่าคุณเองเป็นคนสั่ง ว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องของเรา " " ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะประกาศบอกทุกคนว่าคุณเป็นภรรยาของผม " " ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย พอสักทีเรากำลังจะหย่ากัน คุณต้องการอะไรกันแน่ " ภูริตาสะบัดแขนออกจากธีรเดชอีกครั้ง แล้วรีบวิ่งหนีเข้าลิฟต์ไป ธีรเดชไม่ได้ตามแต่ยืนมองเธออยู่ที่เดิม ถามใจตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่ เขารู้แค่ว่าไม่อยากหย่ากับเธอไม่อยากเสียเธอไป วันต่อมาภูริตากับธีรเดชก็มาอยู่ต่อหน้าคุณปู่ มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกเหมือน4ปีที่แล้วที่เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสกัน " นี่มันอะไรกันครับคุณปู่" " อิสระที่แกต้องการไง" " ผมไม่" " ไม่ต้องรอถึง5ปีหรอก จะช้าเร็วยังไงก็ต้องหย่ากันอยู่ดี ในเมื่อแกไม่ได้รักหนูพายก็หย่าซะ 4ปีที่แล้วฉันผิดเองที่ขอให้แกแต่งงาน ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำผิดพลาดไป ทำให้ทั้งแกกับหนูพายไม่มีความสุขต้องทนทุกข์มานานถึง4ปี เซ็นชื่อซะ อิสระรอแกอยู่ตรงนี้แล้ว " ธีรเดชมองหน้าภูริตา เธอไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย หยิบปากกามาลงชื่อแล้วเลื่อนกระดาษให้เขา ธีรเดชมองหน้าภูริตาเธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเลย เขาหยิบปากกามาถือไว้ลังเลว่าลงชื่อดีไหม แล้วก็ตัดสินใจฉีกใบหย่าทิ้งต่อหน้าทุกคน ภูริตาเบิกตากว้างมองดูใบหย่าที่ถูกเขาฉีกจนเป็นชิ้นเล็กๆแล้วตวัดสายตาจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ " คุณทำแบบนี้ทำไม" " ผมไม่หย่า ไป พวกคุณกลับไปได้แล้ว " ตอบกลับภูริตา แล้วหันไปไล่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่มองหน้ากัน แล้วทำได้แค่เก็บข้าวของออกไป ภูริตายกมือไหว้ดำรงแล้วกลับไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว " แกทำแบบนี้ทำไม " " ผมบอกแล้วไงว่าไม่หย่า " " ทำไม แกอยากหย่ามาตั้งนานพอมีโอกาสทำไมไม่คว้าไว้หล่ะ " " ผม ผมขอเวลาหน่อย ถ้าหย่าตอนนี้ ผม ผมยังไม่ชิน อย่างน้อยก็ให้เวลาผมปรับตัวหน่อย " ดำรงส่ายหัวเดินเข้าไปตบบ่าธีรเดช " ถามตัวเองให้ดี คิดให้ดีๆว่าแกต้องการอะไรกันแน่ แกรักหนูพายหรือเปล่า ถ้าไม่รักก็อย่าเห็นแก่ตัวรั้งเธอเอาไว้เลย แต่ถ้าแกรักก็ควรแสดงออกให้เธอรู้บ้าง ปัญหาของแกก็ควรรีบจัดการซะ หรือถ้าแกจัดการไม่ได้ ฉันจะจัดการด้วยวิธีของฉันเอง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD