ซุกซน

1519 Words
"อ้าว ไหนบอกว่าจะคุยกับพ่อพรุ่งนี้ไง?" พีย์เดินลงมาหาบิดาที่ชั้นล่าง คุณพีระกำลังดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่น แม้ช่วงนี้จะเป็นฤดูหนาว ทว่าอากาศกลับยังไม่ค่อยเป็นไปตามฤดูกาลมากนัก "มิลเขาอาบน้ำอยู่ครับ ผมก็เลยลงมาคุยกับคุณพ่อดีกว่า" "ตกลงไปเอาผู้หญิงคนนี้มาจากไหน ไม่กี่วันก่อนวรากรโทรมารายงานว่าแกยังเมาจะเป็นจะตายเพราะดารารัตน์อยู่เลย" ผู้เป็นบิดาพูดพลางหัวเราะน้อยๆ "ถ้าคุณพ่อไม่พูดชื่อดารารัตน์ขึ้นมาผมก็ลืมไปแล้วนะครับ จะพูดถึงเขาทำไมกัน" "พ่อรู้ พ่อก็แกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ แค่อยากเห็นว่าแกจะรู้สึกยังไง ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงโวยวายเพราะได้ยินชื่อดารารัตน์ แต่ตอนนี้อะไรๆ มันคงเปลี่ยนไปแล้วสินะ" บุตรชายครุ่นคิด "อืม...ก็น่าจะเปลี่ยนอยู่มากเหมือนกันครับ" "แกรู้ไหม ว่าตอนที่แกยืนคุยกับหนูมิลอยู่หน้าบ้านพ่อเห็นอะไรในตาแก" "เห็นอะไรครับ?" "เห็นดวงตาเป็นประกายเหมือนตอนที่แกอายุสิบแปดแล้วมีความรักครั้งแรก" "ครับ?" พีย์ขมวดคิ้วแปลกใจ ที่บิดายังคงจำเรื่องพวกนี้ได้ "หนูมิลคงพิเศษกับแกมากสินะ" คำพูดของคุณพีระทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมา "ผมรู้จักกับมิลได้ห้าวันเองครับ แต่ว่าความรู้สึกของผมมันเปลี่ยนไปทุกวัน ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน" "อย่าบอกนะ ว่ามาที่นี่แบบเร่งด่วนคือตามหนูมิลมา?" พีย์หลบสายตา เพราะเกรงว่าบิดาจะดุเรื่องที่ตนทิ้งงานตามผู้หญิงมา "เอ่อ..." "ตามผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันได้ห้าวันมาไกลถึงขนาดนี้ ทิ้งบริษัทใหญ่โตที่พ่อสร้างให้เพราะผู้หญิงคนเดียว หัดยอมรับความรู้สึกในหัวใจของตัวเองบ้างสิ" คุณพีระพูดด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายลง "ผมแค่กำลังสับสนแล้วก็แปลกใจ ว่าทำไมทุกอย่างถึงได้เกิดขึ้นเร็วแบบนี้ครับ ผมไม่ชอบเอาซะเลยเวลาที่เห็นเขาอยู่กับเพื่อนผู้ชาย" "ฮ่าๆๆ ไอ้พีย์ แกทำตัวเหมือนเด็กไร้เดียงสาเรื่องความรักเลย" "คุณพ่อ อย่าหัวเราะผมแบบนี้สิครับ ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ?" ผู้เป็นบิดามองหน้าบุตรชายด้วยแววตาภาคภูมิใจ "ตอนแกคบกับดารารัตน์ พ่อไม่เคยเห็นแววตาประกายแบบนี้ของแกเลย แต่เชื่อไหมว่าระหว่างพีย์กับดารารัตน์มันมีแต่ความเหมาะสมคู่ควร เหมือนงานศิลปะที่งดงามตั้งโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ในชีวิตชีวา" พีย์ทบทวนคำพูดของบิดา และยังทบทวนความรู้สึกของตัวเองในขณะเดียวกัน อยู่ๆ เขากลับรู้สึกมั่นใจขึ้นมา ว่าความรู้สึกที่มีต่อมิลล่านั้นมันหมายความว่าอย่างไร "แล้วผมจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าความรู้สึกที่ผมมีตอนนี้ มันไม่ใช่เพราะว่าผมโหยหาใครสักคนมาอยู่ข้างกันในช่วงเวลาที่เจ็บปวด" "อันนี้ก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองนะ ตามพ่อขึ้นไปบนห้องนอนสิ พ่อมีอะไรบางอย่างจะให้" คุณพีระพูดแล้วจึงหยัดกายลุกขึ้นยืน เขาเดินนำหน้าบุตรชายขึ้นไปยังชั้นสองและตรงไปยังห้องนอนของตนเอง "เห็นห้องนอนคุณพ่อเลยนึกถึงน้าเดือนขึ้นมา แกจะกลับมาวันไหนครับ" พีย์หมายถึงภรรยาใหม่ของพ่อ เขารักและเคารพน้าเดือนในฐานะแม่เลี้ยง เพราะหลังจากมารดาของตนเองเสียไป ก็มีนางที่คอยดูแลผู้เป็นบิดาตลอดเวลาสิบกว่าปีมานี้ "มะรืนก็กลับมาแล้ว ถ้าไม่เที่ยวเพลินเหมือนทุกครั้ง" คุณพีระพูดด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาไม่เคยห้ามภรรยาจะไปเที่ยวหรือไปพบปะกับญาติพี่น้อง "ผมแค่ไม่อยากให้คุณพ่ออยู่คนเดียวครับ" "พ่ออยู่คนเดียวที่ไหน แม่บ้านสอง คนสวนอีกสอง ไหนจะพนักงานที่รีสอร์ตอีก อีกอย่างหลังจากน้าเดือนกลับมาจากเที่ยว เขาก็จะขยายรีสอร์ตออกไปทางริมน้ำตกนู่นอีก พ่อไม่มีคำว่าเหงาหรอกเพราะทำสวนทั้งวัน" คุณพีระพูดพลางเดินไปเปิดตู้เซฟของตนเอง จากนั้นหยิบกล่องแหวนกำมะหยี่ออกมายื่นให้บุตรชาย "อะไรเหรอครับคุณพ่อ?" "แหวนแต่งงานแม่แก ตอนแกแต่งกับดารารัตน์พ่อก็เคยคิดว่าจะให้นะ แต่ดูแล้วเมียเก่าแกเขาคงชอบเม็ดใหญ่ๆ สิบกะรัตอะไรประมาณนั้น" ผู้เป็นบิดาพูดประชดประชัน เพราะรู้ดีว่าอดีตลูกสะใภ้เป็นสาวสังคมผู้ร่ำรวย หล่อนคงไม่พอใจแหวนแต่งงานที่มีเพชรเม็ดเล็กๆ เช่นนี้ "เห็นแล้วก็ยิ่งคิดถึงคุณแม่นะครับ ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตแต่งงานจะจบลงแบบนี้เลย" "บางเรื่องก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะ รู้ไหมว่าครั้งแรกที่พ่อเจอหนูมิล พ่อชอบเด็กคนนี้มากเลยนะ เขายกมือไหว้พ่อทั้งๆ ที่เห็นว่าพ่อเป็นคนสวน ที่สำคัญดวงตาโตๆ คู่นั้นยังมีแต่ความบริสุทธิ์ ถ้าแกมีวาสนาจริงๆ ก็รักษาผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ได้" พีย์ฟังแล้วจึงเอาแต่เปรยยิ้มให้บิดา เขาจ้องมองแหวนเพชรเม็ดงามในกล่องสีน้ำตาลด้วยแววตาเป็นประกาย "โชคดีนะครับที่วันนี้ผมมาหาคุณพ่อ ถ้างั้นผมขอตัวไปดูมิลก่อนนะครับ" "พ่ออนุญาตอยู่ในห้องเดียวกัน แต่อย่าไปทำอะไรเขาล่ะ" คุณพีระบอก เขาจึงพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องของบิดาไปกลับ มิลล่าเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธออยู่ในชุดนอนผ้ามันวาวสีเงินพอดีตัว มีเชือกของชุดมัดที่เอวไว้แน่น ส่วนความยาวปกคลุมลงไปจนถึงข้อเท้า หญิงสาวรู้สึกประหม่า เพราะแม่บ้านเอาชุดไปซักเธอจึงไม่มีชุดชั้นในให้สวมใส่แม้แต่ผืนเดียว ก่อนนี้อ้อนวอนขอร้องกลับไปนอนที่รีสอร์ต แต่พีย์กลับยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว "คิดว่ามิลหลับไปในห้องน้ำแล้วซะอีก" พีย์กลับมาถึงห้องนอนเมื่อราวห้านาทีที่แล้ว เขาเก็บแหวนที่บิดาให้มาไว้ในกระเป๋าเป้ของตนเอง และยังถอดชุดนอนออกเหลือเพียงกางเกงขายาว กายกำยำท่อนบนเปลือยเปล่านั่งรออยู่ปลายเตียง "ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ?" หญิงสาวเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา "อากาศมันร้อน อีกอย่างก็คันหลังด้วย เกาไม่ถึง เกาหลังให้หน่อยสิ" ชายหนุ่มแกล้งทำน้ำเสียงจริงจัง และทำท่าเอื้อมมือไปเกาแผ่นหลังของตนเองทว่ากลับเอื้อมไม่ถึง "แล้วมันใช่เรื่องของมิลไหมคะ?" แม้จะว่าให้เขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่ก็ยอมเดินมาและก้าวขาขึ้นเตียงเพื่อไปนั่งอยู่ข้างหลังของชายหนุ่ม มือเรียวนุ่มแต่สัมผัสแผ่นหลังกำยำ พีย์จึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหวั่นไหว อารมณ์ในร่างกายของชายหนุ่มเริ่มแปรปรวน "ก็แค่ช่วยเหลือนิดๆ หน่อยๆ เอง" "แล้วคันตรงไหนคะ?" พีย์ไม่ตอบ เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์และเหวี่ยงขาขึ้นเตียงและหมุนตัวหันหน้ามาหามิลล่า เธอตกใจเล็กน้อยจึงขยับก้นงอนถอยหลังขึ้นไปจนถึงกลางเตียงนอน "หันมาทำไมคะ?" "ไม่คันแล้ว ง่วงมากกว่า" เขายังคงคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ และถือวิสาสะกดหัวไหล่เล็กให้ทิ้งตัวนอนลง "อื้อ! ทำอะไรคะ ถอยออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ" "จะให้ถอยไปไหนล่ะครับ ผมจะนอน" พูดแล้วจึงเอื้อมมือลงไปดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายทั้งสองคนไว้ น่าแปลกที่มิลล่ารู้สึกหวั่นไหว ความเขินอายกำลังเล่นงานตน ใบหน้าสวยคมเห่อร้อนเพราะความรู้สึกเขินอาย "ทำไมต้องนอนด้วยกันด้วย?" "วันนั้นยังนอนเลย ทำไมวันนี้จะนอนอีกไม่ได้ ดึกมากแล้วนะ" "ไม่เอาค่ะ คุณไม่ยอมสวมเสื้อ มิลไม่ให้นอนด้วยหรอก" ใบหน้าสวยคมบูดบึ้ง และยังดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าของตัวเองไว้ ทว่าพีย์กลับดึงมันออก "คุยกันหน่อยได้ไหม?" "ก็คุยอยู่นี่ไงคะ..." "ทำไมมิลถึงได้ทำตัวน่ารักขนาดนี้ครับ?" "คะ?" "มิลไม่ต้องรับข้อเสนออะไรแล้วทั้งนั้น ผมแค่อยากขอ..." เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ในขณะที่มิลล่ากำลังตั้งอกตั้งใจฟัง ทว่าริมฝีปากอวบอิ่มกลับถูกบดจูบในวินาทีถัดมา ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกันและกันส่งผลต่ออารมณ์หนุ่มสาวให้ก่อตัวขึ้นโดยสัญชาตญาณ มิลล่ากำลังเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับสัมผัสร้อนแรงอย่างลืมตัว... น้องไม่เสร็จพี่วันนี้หรอก เชื่อไรต์เถอะ 5555 อ่านจบแล้วส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจปันหยีด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD