"คุณพีย์คะ เมาขนาดนี้แล้วจะขับรถกลับบ้านไหวเหรอคะ?" มิลล่าเอ่ยถาม เมื่อประคองพีย์ออกมาจนถึงรถของเขาซึ่งจอดอยู่ลานจอดรถหน้าไนต์คลับ มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหากุญแจรถ และยังหยิบมือถือออกมายื่นให้เธออีกด้วย
"วรากร..." พีย์เอ่ยชื่อผู้ช่วยส่วนตัวของตนเอง มิลล่าจึงรับเอาโทรศัพท์มาถือไว้
"หมายถึงให้โทรหาคนชื่อวรากรใช่ไหมคะ?"
"อื้ม...บอกเขาขับรถมารับผมที่นี่" ชายหนุ่มแค่นเสียงพูดในลำคอ เพราะแอลกอฮอล์กำลังออกฤทธิ์จนคนตัวโตแทบทรงตัวยืนไม่ไหว แผ่นหลังกว้างกำยำพิงแนบชิดรถยนต์คันหรูของเขา
"คุณคุยเองนะคะ เดี๋ยวมิลต่อสายให้" เธอพูดจบแล้วจึงกดปุ่มเปิดหน้าจอสมาร์ตโฟน จากนั้นจึงเลื่อนหาชื่อของวรากรในรายการโทรเข้าออกตามที่เขาบอก
(ครับคุณพีย์) เสียงเข้มดังมาจากปลายสาย ทำให้มิลล่าขยับมือถือออกจากใบหูและยื่นมันมาตรงหน้าพีย์
"อื้ม...คุยเลย" เขาบอกปัดและเมินหน้าหนี ซ้ำยังทำท่าพะอืดพะอมอีกต่างหาก
"คุณก็คุยเองสิ ให้มิลคุยเดี๋ยวเขาก็ตกใจหรอก" คนเมาเอาแต่เงียบ ทำให้หญิงสาวจำใจคุยโทรศัพท์กับคนที่ไม่รู้จัก
"เอ่อ...ตอนนี้คุณพีย์เมามาก เขาขับรถกลับบ้านไม่ได้ก็เลยบอกให้มิลช่วยโทรหาคุณ มารับเขาหน่อยนะคะ"
(ได้ครับ ถ้างั้นรบกวนคุณช่วยอยู่ดูแลเจ้านายของผมจนกว่าผมจะไปถึงที่นั่น ทองหล่อใช่หรือเปล่าครับ?)
"ใช่ค่ะ ชื่อไนต์คลับ เอ่อ..."
(ไม่ต้องบอกหรอกครับ ผมรู้ดีว่าเจ้านายผมอยู่ที่ไหน ผมจะนั่งแท็กซี่ไปแล้วขับรถท่านกลับบ้าน) วรากรบอกมาเท่านั้นจึงกดวางสายไป ทำให้มิลล่าได้รู้ว่าที่นี่คงเป็นสถานบันเทิงที่ชายหนุ่มมาดื่มเป็นประจำ
"อีกนานไหมคะกว่าที่คุณวรากรจะมาถึง" มือเล็กเอื้อมไปเกาะท่อนแขนกำยำเพื่อประคองให้พีย์ถอยห่างออกจากประตูรถ
"อึก ไม่เกิน...ยี่สิบนาที" เขาตอบเสียงตะกุกตะกัก
"งั้นขอกุญแจรถหน่อยค่ะ คุณจะต้องเข้าไปนั่งรอในรถ ยืนแบบนี้คงไม่ไหวหรอก" มือเล็กถือวิสาสะดึงกุญแจรถออกมาจากมือแข็งแรงของเขา และกดปุ่มปลดล็อกเพื่อประคองคนตัวโตให้เข้าไปนั่งในนั้น
"กลับด้วยกันนะ"
"คะ?" มิลล่าตกใจเล็กน้อย ในขณะที่ข้อมือเล็กของเธอถูกพีย์กุมไว้แน่น
"มานี่" แม้จะกำลังมึนเมา ทว่าแรงมือกลับฉุดรั้งเสียจนหญิงสาวเกือบเสียหลักล้มลงบนตักแกร่ง
"มิลไปนั่งที่คนขับดีกว่าค่ะ คุณปล่อยมือมิลก่อนนะ" เธอบอก พีย์จึงยอมปล่อยข้อมือเล็กอย่างว่าง่าย มิลล่าจำใจเดินอ้อมไปเปิดประตูรถและขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ
"ถ้าขับรถเป็น ก็ขับไปส่งผมที่บ้านเลยก็ได้นะ" เขาหันมามองคนข้างกาย แววตาหยาดเยิ้มบ่งบอกว่าคงไม่สร่างเมาเอาเสียง่ายๆ
"คุณวรากรบอกจะขับแท็กซี่มาแล้วก็ขับรถไปส่งคุณที่บ้าน เพราะฉะนั้นมิลนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ค่ะ"
"ได้ยังไงกัน ผมยังไม่ได้ให้อะไรมิลเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับคืนนี้เลย"
"บอกแล้วไงคะว่ามิลไม่เอาอะไร"
"บันทึกเบอร์โทรมิลไว้ในเครื่องผม" พีย์พเยิดหน้าไปยังมือถือของตนเองที่มิลล่ายังคงถือไว้ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเห็นว่าไม่ได้มีอะไรเสียหาย จึงยอมบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองลงในมือถือของเขา
"แต่มิลคงไม่ค่อยได้รับสายนะคะ เพราะต้องเรียนแล้วก็ทำงานด้วย" มิลล่าบอกพลางยื่นเครื่องสื่อสารราคาแพงคืนให้กับชายหนุ่ม
"ก็บอกแล้วว่าผมจะเลี้ยงดูเอง ไม่เห็นต้องทำงานเลย" เขายังคงจ้องมองเธอด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ทำให้หญิงสาวคิดว่าพีย์พูดเช่นนั้นเพียงเพราะความรู้สึกโดดเดี่ยวและอารมณ์เหงา ใครกันจะมารักใคร่จริงจังกับนักศึกษาเช่นตน
"ไว้คุณสร่างเมาแล้วเราค่อยคุยกันนะคะ" คำตอบของมิลล่า ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกผู้หญิงปฏิเสธ ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงลงราวเด็กชายตัวน้อย
"นั่นสินะ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากจะไปไหนมาไหนกับผม ผมคงแก่เกินไป ผมคงไม่หล่อดูไม่ดี คุณถึงได้เอาแต่ปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด"
"พูดอะไรของคุณคะ คุณพีย์ก็รู้ว่าสิ่งที่คุณพูดมันตรงกันข้ามกับความจริงทุกอย่าง"
"ตรงข้ามยังไงครับ?" พีย์ถาม และรั้งข้อมือเล็กของมิลล่ามากุมไว้ เธอรู้สึกประหม่า เพราะรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่กำลังสัมผัสผิวบอบบางของตน
"มิลไม่รู้หรอกว่าคุณอายุเท่าไหร่ แต่คุณไม่ได้ดูแก่เลย คุณดูดีเกินไป หล่อเกินไป จนบางครั้งผู้หญิงอาจจะหวาดกลัวความสมบูรณ์แบบของคุณ..." ดวงตาประกายจ้องมองใบหน้าคมคายอย่างลืมตัว
"ถ้าผมเป็นแบบนั้นจริงๆ มิลคงไม่ปฏิเสธผมหรอกครับ" เขาพูดเสียงตัดพ้อ และแกล้งเมินหน้าหนีไปทางอื่น
"ไว้เราค่อยคุยกันตอนคุณพีย์ไม่เมาแล้วนะคะ มิลยังไม่ได้ปฏิเสธคุณสักคำเลย" พีย์หันกลับมาจ้องมองใบหน้าสวยพร้อมทั้งคลี่ยิ้มอ่อน
"งั้นคืนนี้ไปค้างที่บ้านผม...นะครับ" ทว่าคำขอนี้ช่างน่าหนักใจ เธอเพิ่งพบกับชายหนุ่มวันนี้เป็นวันแรก การที่จะไปนอนค้างบ้านของเขาย่อมเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
"แต่เราแทบจะยังไม่รู้จักกันเลยนะคะ"
"ไปบ้านผมเพื่อทำความรู้จักกันไง ที่บ้านผมมีพ่อบ้านแม่บ้าน ผมไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วก็มีห้องนอนหลายห้องด้วย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าผมไม่ทำอะไรมิลหรอก ถ้ามิลไม่ยินยอม" น่าแปลกที่มิลล่ารู้สึกเขินอาย ใบหน้าสวยคมเห่อร้อนจนสัมผัสได้ว่าตอนนี้มันคงกลายเป็นสีแดงระเรื่อไปแล้ว
เธอหลบสายตาของเขาโดยการมองไปด้านหน้า จึงเห็นว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับเข้ามาจอด บุรุษรูปร่างสูงราวนายแบบก้าวขาลงจากรถ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายบ่งบอกถึงอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปี
"นั่นคุณวรากรหรือเปล่าคะ?" พีย์มองไปยังลูกน้องและพยักหน้า คนตัวเล็กจึงรีบลงจากรถโดยไม่สนใจสีหน้าของชายหนุ่ม
วรากรเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า มิลล่าจึงถอยออกห่างเพื่อหลีกทางให้ชายหนุ่มเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
"สวัสดีครับ ผมวรากร เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของท่านประธาน" เขาทักทายเป็นกันเอง วรากรไม่คิดว่าหญิงสาวที่อยู่กับเจ้านายของตนจะสวยจนน่าตกตะลึงเช่นนี้
"ท่านประธาน?" มิลล่าขมวดคิ้วแปลกใจที่คนตรงหน้าเรียกพีย์ว่าท่านประธาน เธอรู้ว่าเขาร่ำรวย แต่ไม่คิดว่าจะพ่วงด้วยตำแหน่งนี้
"ครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลคุณพีย์ระหว่างรอผมมา"
"เอ่อ...ด้วยความยินดีค่ะ งั้นมิลขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"มิล ขึ้นรถ" กว่าทั้งสองจะรู้ตัว พีย์ก็ลงจากรถและเดินอ้อมมาข้างหลังจนกระทั่งประชิดลำตัวของมิลล่าแล้ว
"แต่มิลไม่ได้ตอบตกลงที่จะไปบ้านคุณนะคะ" เขาไม่ฟัง และถือวิสาสะขยับมือขึ้นมาโอบกอดเอวคอดของหญิงสาวในชุดนักศึกษาไว้
"คุณบอกเองว่าผมสร่างเมาแล้วค่อยคุยกัน พอพรุ่งนี้ผมสร่างเมาแล้วเราจะได้คุยกันทันที" มิลล่ายืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ และยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงมาบนต้นคอขาว วรากรระบายยิ้มอ่อนเมื่อเห็นเจ้านายมองหญิงสาวคนนี้ด้วยแววตาที่แปลกไป
"เชิญขึ้นรถดีกว่าครับ" เขารีบเอื้อมมือมาเปิดประตูรถด้านหลังให้หนุ่มสาว พีย์จึงกอดรั้งคนตัวเล็กให้เข้าไปนั่งในรถพร้อมกับตน
"คุณพีย์คะ แต่มิลไม่อยากกลับไปกับคุณนะคะ"
"กลับไปกับคุณพีย์เถอะนะครับ ท่านน่าจะมีธุระสำคัญอยากคุยกับคุณ" วรากรพูดแทนเจ้านาย หลังจากที่เขาก้าวขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ
"แต่มิลเพิ่งรู้จักกับคุณพีย์วันนี้เองนะคะ จะให้ไปค้างที่บ้านด้วยคงไม่เหมาะสม"
"ไม่มีใครมาว่าไม่เหมาะหรอกครับ เพราะที่บ้านคุณพีย์ค่อนข้างเป็นส่วนตัว รับรองว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้" พีย์แกล้งหลับตาลงและซบใบหน้าลงบนหัวไหล่เล็กของมิลล่า ในขณะที่ท่อนแขนกำยำยังคงโอบกอดเอวเล็กของเธอไว้ ดูเหมือนหญิงสาวจะปฏิเสธพวกเขาไม่ได้เสียแล้ว...
ติดกับคนแกล้งเมาหรือเปล่าคะน้องมิลล่า แต่ก็อย่างว่าแหละท่านประธานของขาด5555
ฝากส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจปันหยีด้วยนะคะ คู่นี้เขาจะหวานกันมากๆ เลยล่ะค่า