เมื่อน้ำเมาเริ่มเข้าไปแทรกซึมในร่างกาย เมยาวีก็เริ่มเล่าถึงความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น เธอไม่เข้าใจว่าทำไมธิมถึงรังเกียจเธอเช่นนั้น เธอไม่ได้หวังครอบครองเขา เธอแค่อยากแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เธอไม่เข้าใจเลย เพิ่งได้เจอ แต่ก็ต้องอกหักอกเดาะจนเบรคแทบไม่ทันเลยทีเดียว
ในขณะที่ศิริอรก็ได้แต่มองเพื่อนด้วยความเห็นใจ แต่อย่างไรเสีย เธอก็ยังคิดว่าเพื่อนของเธอคงตัดใจได้ไม่ยาก เพราะมันไม่ใช่ความรัก แต่มันคือการแอบปลื้มใครสักคนเท่านั้น แค่เพียงเพื่อนของเธอยอมเปิดใจให้ใคร แค่เท่านั้น เพื่อนของเธอก็จะไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายชื่อธิมอีก
“จะไปไหนน่ะเม” ศิริอรเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เห็นเพื่อนสาวทำท่าจะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางโงนเงน
“ไปเข้าห้องน้ำ ไม่ต้องห่วงเราหรอก เดี๋ยวเรากลับมา” เมยาวีเอ่ยเสียงอ้อแอ้
“นี่เธอเมามากแล้วนะเม เดี๋ยวเราพาไป” ศิริอรเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องออยรออยู่ที่นี่แหล่ะ เราไปได้ อย่าทำให้เราต้องรู้สึกสมเพชตัวเองไปมากกว่านี้ เข้าใจมั้ย” เมยาวีกล่าวกับเพื่อน ก่อนที่เธอจะเดินไปด้วยท่าทางมึนเมา ในขณะที่ศิริอรได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง เธอกำลังจะเดินตามไป แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของศิริอรดังขึ้น และเธอก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของหัวหน้างาน ซึ่งคาดว่าการโทรมาในเวลานี้คงต้องมีเรื่องด่วนแน่ๆ ศิริอรจึงต้องปลีกตัวออกไปรับสาย จนลืมนึกถึงเพื่อนสนิทที่กำลังเมาได้ที่เลยทีเดียว
ทางด้านเมยาวี เธอเดินมาที่ห้องน้ำด้วยความยากลำบาก เมื่อเธอทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินกลับโต๊ะด้วยความยากลำบาก แต่แล้วระหว่างทางที่เธอเดินกลับ เธอกลับพบผู้ชายคนหนึ่งมารั้งแขนของเธอไว้ มันทำให้เมยาวีหันไปมองหน้าเขาทันที
“จะไปไหนครับ ให้ผมไปส่งมั้ย” ชายหนุ่มท่าทางน่ากลัวเอ่ยกับหญิงสาวด้วยสายตาโลมเลีย เขากำลังได้เป้าหมายใหม่ แถมเป้าหมายก็สวยมากเสียด้วย
“ไม่ต้องปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เมยาวีพยายามสะบัดแขนของเธอให้หลุด แม้ว่าสติของเธอจะไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ประสงค์ดีกับเธอแน่นอน
“อย่าเล่นตัวไปเลยนะครับ เพราะถ้าคุณหวงเนื้อหวงตัวจริง คุณคงไม่มาที่แบบนี้หรอกครับ” ชายหนุ่มคนนั้นยังไม่ยอมปล่อยเมยาวี
“อย่ามาตัดสินคนอื่นเพียงแค่ที่คุณเห็น ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนอื่นช่วย” เมยาวีพยายามตั้งสติแล้วขู่เขาออกไป