อ่อยหรือเปล่า

1411 Words
ตอนที่ 3 อ่อยหรือเปล่า “หืมตัวหอมจัง” ติณกระซิบต่อในระยะใกล้จมูกโด่งเป็นสันของเขาแทบจะชนกับแก้มเนียนของเธอ เจนจิรารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะถูกกินติ่งหูเข้าไปด้วย หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อมือหนาเกาะกุมมือเธอไว้แน่น โดยไม่สนใจเม้าส์ที่เลื่อนหลุดไปไกล ตึ้ง! ไลน์ของเธอดังขึ้น และข้อความจากพี่วิทย์รุ่นพี่ในแผนกIT คนที่คุยๆกับเธออยู่ก็เด้งให้เห็น (ตอนเย็นไปทานอาหารเวียดนามกันนะครับ) เจนจิรา มองข้อความที่เด้งจากจอมือถือของตัวเอง และปรากฎรูปโปรไฟล์ของ วิทย์ รุ่นพี่แผนกไอทีในบริษัทที่มาขายขนมจีบให้เธอตั้งแต่เข้ามาทำงานใหม่ๆ วันนี้นึกอย่างไงจะชวนไปกินอาหารเวียดนาม เหมือนสายตาคมคายของติณจะเห็นข้อความนั้นด้วย เขาละมือหนาออกจากและเหยียดตัวตรงเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเพราะเห็นข้อความนั้น หรือเพราะเพื่อนร่วมงานเริ่มทยอยเดินเข้ามาในออฟฟิศ “คุณติณคะ ได้เวลาประชุมแล้วค่ะ” พี่ดา เลขาของเขาเดินมาบอก ติณพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงเป็นทางการว่า “ยังไงคุณเจนเอาไฟล์นี้เข้าไปพรีเซ้นต์ในห้องผม หลังประชุมด้วยนะครับ” เอ่ยเสร็จร่างหนาก็เดินจากไป ดวงตาคู่สีนิลภายใต้แว่นตานั้นไม่บ่งบอกว่าเขารู้สึกเช่นไร “ค่ะคุณติณ” เจนจิรา รับคำอย่างฉงนด้วยวันนี้ เขาอาจจะต้องประชุมทั้งวัน กว่าจะเสร็จแล้วยังต้องให้เธอเอาไฟล์เข้าไปให้ดูอีก อย่างนั้นเธอคงต้องกลับบ้านค่ำ และจะทันเวลานัดไปกินข้าวกับพี่วิทย์เหรอเปล่าเนี่ย แต่เหมือนเจ้านายรูปหล่อไม่สนใจ เมื่อสั่งเสร็จแล้วก็หันหลังกลับเพื่อไปเตรียมประชุมต่อ เจนจิราจำต้องไลน์ตอบกลับพี่วิทย์ว่า วันนี้มีคุยงานกับนายต่ออาจจะเลิกค่ำ (ไม่เป็นไรครับ พี่รอได้) (เสร็จเมื่อไหร่ ก็บอกพี่ละกัน) พี่วิทย์ไลน์ตอบกลับมา ติณประชุมยาวจนถึงเกือบเย็นจริงๆ และเมื่อออกจากห้องประชุม เขาก็รีบปรี่เข้าห้อง และโบกมือให้เธอเพื่อให้เข้าไปพรีเซ้นต์ในห้อง เจนจิราถอนหายใจเบาๆเล็กน้อย ไม่ลืมที่จะฉีดน้ำหอมเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะยกโน๊ตบุ๊คเข้าไปในห้อง ติณ ยังคงวางสีหน้าเคร่งขรึมไม่เปลี่ยน หน้าหล่อเหลาจับจ้องอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องและสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อลอบมองเขาด้วยติณเป็นคนเอาการเอางานและเมื่อเวลาจอจ่อกับสิ่งใด เขาจะเป็นคนน่าเกรงขามคนหนึ่งเลยละ แต่นั่นก็คือเสน่ห์ของเขา ..ที่เธอหลงไหลนักหนา “อันนี้เป็นรายการแสดงสต็อกสินค้าทั้งหมดของเราค่ะ” ฉันเริ่มต้นพรีเซ้นต์ เมื่อวางโน๊คบุ๊คบนโต๊ะและหันหน้าจอให้เขาเห็นได้ถนัด คิ้วหนาเข้มของติณขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อมองจอด้านหน้า ก่อนลุกขึ้นเดินอ้อมมายังฝั่งที่เธอนั่ง “ผมเห็นไม่ถนัด ขอนั่งฝั่งนี้ละกัน” เขาลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆเจนจิรา และนั่งลงจนต้นขาหนาของเขาแทบจะเกยชิดกับต้นขาอ่อนของเธอที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นตัวจิ๋ว มือหนาของเขาลูบโคนขาอ่อนของเธอไปมา จนฉันเริ่มขนลุกตั้งชูชัน “คุณติณคะ” “ครับ” “ปิดไฟล์ทำไมคะ” เธอถามเมื่อเขาคลิ๊กเม้าส์ ให้ไฟล์ที่หน้าจอหายไป เขายกไหล่เล็กน้อยลุกขึ้นเดินไปล็อคประตูห้อง และหันกลับมามองเธอ “เมื่อคืนเจนทำผมอารมณ์ค้างนะครับ” เขาบอกเสียงราบเรียบ และเดินเข้ามาใกล้ เธอได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ เมื่อเห็นท่าทางของเขาที่คล้ายจะไม่พอใจและมีแววตาขุ่นเคือง “ห๊ะ” เธออุทานด้วยคาดว่าเขาน่าจะลืมเรื่องเมื่อคืนไปเสียแล้ว และไม่ถือสาที่เห็นว่าเธอเมามายไม่ได้สติแบบนั้น หรือว่าเขาไม่พอใจกับการรุกเร้าของเธอเมื่อวานนี้ “เจนขอโทษค่ะ คือเมื่อวานเจนแค่..” เธอก้มหน้าหลุบตาต่ำ รู้ว่าการยั่วยุเจ้านายเป็นการกระทำที่ไม่สมควรยิ่ง คุณติณเป็นผู้บริหารของที่นี่และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท หากมีอะไรที่ไม่พอใจ เธออาจจะโดนไล่ออกได้ง่าย แม้รู้ว่ามันเสี่ยงนะ ...แต่ก็แค่อยากลองเท่านั้น “แค่อะไรครับ?” เขาแค่นยิ้ม เอื้อมมือหาเชยคางของเธอให้หันขึ้นมองสบตาเขา “....” “เมื่อวาน เจนจงใจอ่อยผมใช่มั้ย” เขาถามต่อเหมือนต้องการคาดคั้น ให้เธอพูดออกมา “คะ..คือ” “ตอบครับ” “ค่ะคือเจนเมา ก็เลยไม่รู้ตัวว่าอ่อยคุณติณ” เธอจำต้องตอบไปตามความจริง เขาโน้มหน้าหล่อเหลาลงมาใกล้ จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายสะอาด และมืออีกข้างก็ลูบไล้โคนขาอ่อนและเริ่มถลกไล่เข้ามายังเนินเนื้อภายใต้แพนตี้ตัวจิ๋ว “ไม่รู้ตัวจริงเหรอครับ?” เขาย่อกายลงนั่งตรงหน้า มืออีกข้างกดตัวฉันให้ตรึงไว้กับพนักเก้าอี้ เจนจิราเริ่มเกร็งขาทั้งสองของตัวเองไว้แน่นอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นท่าทางของเขา “คือเจนขอโทษค่ะ เจนรู้ว่ามันไม่สมควร” เธอบอกเสียงสั่น เมื่อมือเรียวเขาไล้ยังเนินร่องที่เริ่มชื้นแฉะและคลึงเคล้นไปมา ตาคู่สีนิลจ้องมองเธอนิ่ง “ไม่สมควรยังไงเหรอครับ?” หน้าหล่อเหลากระซิบถาม แพนตี้ตัวสวยของเธอถูกเขาดึงร่นมากองตรงหัวเข่า นิ้วเรียวแข็งแหวกยังกลีบร่องอย่างตื่นเต้นและคลึงเคล้นปุ่มกระสันต์เบาๆเหมือนกลั่นแกล้ง “คะ..คุณติณคะ” เธอจิกไหล่เขาไว้แน่น กดปลายเท้าลงบนพื้นเมื่อนิ้วของเขาเริ่มแหย่เข้าไปในโพรงนุ่ม ตอนนี้สติสัมปัญชะเธอครบถ้วน และไม่ได้ดื่มเหล้าย้อมใจอย่างคืนนั้น และไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าทำอุกอาจเช่นนี้กับเธอ “ทำไมเหรอครับ? คืนนั้นอยากให้ผมทำอย่างไง” ติณเอ่ยถามเสียงแหบพร่า แววตาของเขาดำมืดขึ้นเมื่อมองกริยาของเธอ “อ๊าย...ตรงนั้น อา” เธอครางเสียงกระเส่า จิกเล็บลงบนบ่าของเขาแน่นจนน่าจะเข้าเนื้อ แต่เหมือนเขาจะไม่สนใจ นิ้วแข็งแรงยังคงชักเข้าออกรัวเร็ว “อืม ตอดรัดนิ้วดีจังครับ” เขารำพึงอย่างสุภาพ ย่อกายลงนั่งระหว่างขาของเธอ มืออีกข้าง ล้วงเข้าไปยังแผ่นหลังนวลเนียนและปลดตะขอบราฉันออกจากด้านหลัง ก่อนจะถลกเสื้อครอบตัวสวยร่นไปยังต้นคอแล้วก้มลงครอบครองสองเต้าเต่งตึงของเธอ ดูดเฟ้นสลับไปมาอย่างหนักหน่วง จ๊วบๆๆ “อ๊าย.. คะคุณติณ” เธอครางเสียงสั่น พยายามข่มความรู้สึกไว้เกรงว่าเสียงของตัวเองจะเล็ดลอดไปด้านนอกจนเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ได้ยิน นี่มันอะไรกันเขาอุกอาจกับเธอในห้องทำงานแบบนี้ และเธอก็ไม่อาจจะต้านทานได้ ตึ้ง! ไลน์จากพี่วิทย์ ดังขึ้นอีกรอบแล้ว และเธอดันเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊ค จึงทำให้มองเห็นข้อความจากเขาได้ชัดเจน (เดี๋ยวพี่ไปรอที่ร้านนะครับ จะได้สั่งอาหารไว้รอ) ติณหลุบตาต่ำและเหมือนจะขุ่นเคืองใจอย่างยิ่ง เมื่อเหลือบเห็นข้อความนั้น นิ้วเรียวแข็งของเขาจึงรูดเข้าออกในโพรงนุ่มอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม “อะ ..อ๊ายส์” เธอครางลั่นบิดกายร่อนไปมา เมื่อเขาทั้งบีบเคล้นและรุกเร้าจนน้ำหวานไหลฉ่ำเยิ้มไปหมด “คุณอ่อยผมขนาดนี้ ยังอยากจะไปกินมื้อเย็นกับผู้ชายคนอื่นอยู่อีกเหรอเจน” ติณแค่นยิ้ม ซุกหน้าหล่อเหลาไซ้เนินอกอีกรอบ และขบเม้มอย่างรุนแรง เหมือนต้องการฝากรอยสีกุหลาบไว้บนผิวขาวของเธอ ***************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD