บ้านชวัลวิทย์โอ่อ่าสมฐานะเจ้าสัวโรงงานผลิตเครื่องนอนรายใหญ่ แสนรักมาในฐานะเลขาฯ ของจีรรัชญ์ เจ้าตัวเพิ่งจะทำงานกับอีกฝ่ายได้ราวหกเดือนเศษเพราะเลขาฯ คนเก่าลาออกย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับสามี และเหตุผลที่เธอได้งานนี้ก็เพราะความโสด โสดชนิดที่ว่าโสดสนิทจริงๆ ไม่มีแม้กระทั่งคนคุยๆ อย่างที่คนอื่นเขามีกัน เธอยังจำตอนที่จีรรัชญ์สัมภาษณ์เธอด้วยตัวเองได้ดี
“ผมเลือกคุณ เพราะดูจากท่าทางของคุณแล้ว คุณคงยังไม่มีแฟนเร็วๆ นี้แน่”
คิดแบบนั้นขึ้นมาแสนรักก็อดกำหมัดแน่นไม่ได้ พูดขนาดนั้นไม่สู้ด่าเธอว่าเธอขี้เหร่จนไม่มีใครจะมาชายตามองเธอเป็นแน่ไม่ดีกว่าหรอกหรือ แสนรักได้แต่กำหมัดแน่นทั้งที่อยากจะสวนกลับแต่เพราะตัวเลขที่อีกฝ่ายเสนอมาทำให้แสนรักยอมกลืนคำพูดลงคอ
“เงินเดือนห้าหมื่น หยุดเสาร์อาทิตย์ แต่เวลาของคุณตั้งแต่เช้าวันจันทร์ถึงเที่ยงคืนคืนวันศุกร์ต้องเป็นของผม และหากมีงานเร่งด่วนเสาร์อาทิตย์ผมจะจ่ายเงินพิเศษให้”
ข้อเสนอแบบนั้นแสนรักยินดีเสียยิ่งกว่ายินดี
“และผมมีเงื่อนไขอีกหนึ่งข้อ ข้อนี้สำคัญมาก”
“อะไรหรือคะ”
“ระหว่างที่คุณเป็นเลขาฯ ของผม ห้ามมีแฟนเป็นอันขาด ถ้าคุณมีแฟนเมื่อไร ถือว่าสัญญาการจ้างระหว่างเราสิ้นสุด และคุณคงต้องหางานใหม่ ถ้าคุณรับเงื่อนไขของผมได้ ก็เซ็นสัญญาแล้วพรุ่งนี้ก็เริ่มทำงานได้”
ถึงแม้จะดูเป็นข้อเสนอที่ดูค่อนข้างจะโหดไปสักหน่อย แต่แสนรักก็ไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะจรดปลายปากกาเซ็นสัญญาเป็นเลขาฯ ของจีรรัชญ์ ไว้ถ้าเธอมีแฟนเมื่อไรค่อยว่ากันอีกที แต่ถึงตอนนั้นเธอก็คงจะมีเงินเก็บเยอะพอสมควรแล้ว โอกาสดีๆ มาอยู่ตรงหน้าหากเธอไม่คว้าเอาไว้คงโง่เต็มทน
“ค่ะ รักตกลงทำหน้าที่เลขาฯ ของท่านประธานค่ะ”
“เรียกชื่อผมก็พอ”
“ค่ะ คุณจีรรัชญ์”
“จีร”
“เรียกผมว่าคุณจีรก็พอ”
“ค่ะคุณจีร”
แสนรักหลุดออกจากความคิดที่ย้อนกลับไปเมื่อหกเดือนออก นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้ย่ำเท้าอยู่ภายในอาณาบริเวณบ้านชวัลวิทย์ที่ในความรู้สึกของเธอไม่น่าจะเรียกว่าแค่บ้าน แต่ควรเรียกว่าคฤหาสน์เสียมากกว่าเห็นได้จากความใหญ่โตโอ่อ่าที่ปรากฏอยู่ในสายตา
“สวัสดีค่ะเจ้าสัว สวัสดีค่ะคุณศมน นี่ของขวัญสำหรับเจ้าสัวค่ะ รักตั้งใจเลือกเป็นพิเศษเลยนะคะ”
“ขอบใจมากจ้ะหนูรัก”
คุณศมนเป็นคนยื่นมือมารับกล่องของขวัญจากแสนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนเจ้าสัวจิณณะที่เป็นคนค่อนข้างพูดน้อยก็ส่งยิ้มใจดีมาให้ด้วยรูัดีว่าแสนรักคือเลขาฯ ของลูกชาย
“มีอะไรให้รักช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ วันนี้หนูรักมาในฐานะแขกของเรา อย่าเหนื่อยเลย ไปหาของกินอร่อยๆ ดีกว่า ว่าแต่ทำไมไม่มาพร้อมกับตาจีรล่ะจ๊ะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณศมน ให้รักนั่งมากับคุณจีร รักคงต้องนั่งกลั้นหายใจไปตลอดทาง พอลงรถจากรถคุณจีรก็คงได้ขึ้นรถพยาบาลต่อเพราะสมองของรักขาดออกซิเจนนานเกินไป”
ศมนถึงกับหัวเราะออกมา ส่วนเจ้าสัวจิณณะยังคงมีรอยยิ้มเกลื่อนอยู่เต็มใบหน้าถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การยิ้มที่มุมปากทั้งสองข้างยกสูงขึ้นเล็กน้อยก็ตาม ด้วยทั้งคู่รู้จักนิสัยใจคอของลูกชายตัวเองดี
“ทำงานกันมาตั้งหกเดือนกว่า หนูรักยังไม่ชินอีกหรือจ๊ะ”
“ก็พอจะคุ้นชินอยู่นะคะ แต่เลี่ยงได้เลี่ยง หลบได้หลบจะดีกว่าค่ะ”
การที่แสนรักกล้าพูดคุยหยอกล้อกับเจ้าสัวจิณณะและคุณศมน ไม่ใช่เพราะเจ้าตัวถือวิสาสะเอาเอง แต่เป็นเพราะคุณศมนให้ความเป็นกันเอง โดยท่านให้เหตุผลกับแสนรักว่าแค่ต้องรับมือกับจีรรัชญ์ลูกชายของเธอก็น่าจะหนักพอสมควร ไม่อยากให้แสนรักต้องเครียดกับการรับมือกับคนในครอบครัวของเจ้านายไปด้วย
“แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้นอยู่ดี ใช่ไหมล่ะจ๊ะ”
แสนรักพยักหน้าหงึกๆ ตีหน้าเศร้าอย่างหน้าเห็นใจทำเอาเจ้าสัวจิณณะถึงกับหัวเราะในลำคอ ส่วนศมนก็หัวเราะออกมาอย่างเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่
“ว่าแต่ ตอนนี้มีสาวๆ แวะเวียนมาหาตาจีรบ้างหรือเปล่า ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าใกล้จะได้อุ้มหลานแล้วหรือยัง”
“ไม่มีเลยค่ะ เงียบเชียบมาก” แสนรักตอบออกไปตามความเป็นจริง
“เฮ้อ” ได้ยินแบบนั้นศมนก็อดถอนหายใจไม่ได้
“แต่ๆ ถ้ามีสาวๆ แวะเวียนมาหาคุณจีรเมื่อไร รักจะรีบบอกคุณศมนทันทีเลยค่ะ และจะช่วยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่”
“ดีมากจ้ะ” ได้ยินแบบนั้นศมนก็คลายความกังวลใจลงได้บ้าง “ชวนหนูรักคุยเสียนานเลย ไปหาของกินในงานดีกว่า ของอร่อยๆ ทั้งนั้น เดี๋ยวฉันให้เด็กๆ พาไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรักจัดการเอง ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ”
“ถ้างั้นมีอะไรขาดเหลือก็บอกได้เลยนะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณศมน เจ้าสัว รักขอตัวก่อนนะคะ”
บอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินก้าวเข้าไปในงาน แสนรักหยุดเท้าตรงซุุ้มขนมไทยที่จะใส่ถ้วยเล็กไว้แบบพอดีคำ แววตาเป็นประกายเมื่อเห็นของอร่อยมาอยู่ตรงหน้า ทว่าไม่ทันได้ส่งขนมเข้าปาก เสียงทุ้มแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น
“คุณมาเพื่อแสดงความยินดีกับพ่อผมหรือมาเพื่อกิน”
แสนรักช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้า ยอมรับว่าวันนี้เจ้านายของเธอดูดีเป็นพิเศษ หล่อมาก หล่อแบบลอยมา ถึงแม้ว่าเขาจะดูดีทุกวันอยู่แล้วก็ตาม ก่อนตากลมโตจะกวาดมองไปรอบๆ แขกเหรื่อหลายต่อหลายคนก็กำลังลิ้มรสอาหารตามซุ้มต่างๆ ที่จัดวางเอาไว้ไม่ต่างจากเธอ
“รักแสดงความยินดีกับเจ้าสัวแล้วนะคะ เรียบร้อยแล้วรักถึงได้มากิน อ่อ ไม่ทันได้กิน แต่คุณจีรก็มาเสียก่อน”
“จะบอกว่าผมมาขัดจังหวะคุณว่างั้น”
“แล้วใช่ไหมล่ะคะ”
“ฮึ” จีรรัชญ์แค่เสียงขึ้นจมูกไม่ทันได้พูดอะไรต่อ จิลลาก็เดินเข้ามาควงแขนเขาจากทางด้านหลัง
“อยู่นี่เองหรือคะพี่จีร จิลตามหาซะทั่วงานเลย ไปช่วยคุณพ่อกับคุณแม่รับแขกดีกว่าค่ะ มีแต่คนถามหาพี่จีรใหญ่เลย”
“อืม”
จีรรัชญ์รับคำในลำคอด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปตามแรงฉุดรั้งของจิลลา แสนรักไม่ทันได้เอ่ยปากทักทายน้องสาวของเจ้านาย ทั้งคู่ก็เดินห่างออกไปจนเกินกว่าที่เธอจะตะโกนเรียกให้เสียมารยาท หญิงสาวไหวไหล่พลางโบกมือไล่หลังทั้งคู่
“ไปดีมาดีนะคะคุณจีร รักจะได้กินของอร่อยๆ อย่างมีความสุข”