ก่อนหน้านั้น
บ้านชวัลวิทย์
พื้นที่บริเวณกว้างตรงสนามหน้าบ้านที่มีต้นหญ้าตัดสั้นเตียนถูกเนรมิตรให้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบห้าสิบห้าปีของเจ้าสัวจิณณะ ชวัลวิทย์ เจ้าของโรงงานผลิตเครื่องนอนยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศที่ตอนนี้มอบอำนาจการบริหารทั้งหมดให้กับลูกชายลูกแก้วหัวแหวนอย่างจีรรัชญ์ ชวัลวิทย์
“สุขสันต์วันเกิดค่ะเจ้าสัว”
“ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบใจมากที่มานะ”
เจ้าสัวจิณณะยิ้มแย้มตอนที่รับกล่องของขวัญจากมือของแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักธุรกิจที่รู้จักกันมาเนิ่นนาน ศมน ภรรยาวัยห้าสิบห้าปีของเจ้าสัวจิณณะก็ยืนต้อนรับแขกเหรื่ออยู่ข้างสามี
“แล้วนี่คุณจีรไปไหนคะ ตั้งแต่เข้ามาในงานยังไม่เห็นเลย”
“รายนั้นเพิ่งโทร.มาบอกว่ากำลังขับรถกลับมาค่ะ พอดีติดงานด่วนเพิ่งจะแล้วเสร็จเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ” ศมนให้คำตอบด้วยรอยยิ้ม
“แล้วหนูจิลล่ะคะ”
“อยู่ด้านโน่นค่ะ กำลังช่วยดูความเรียบร้อยของงานอยู่ค่ะ”
แขกผู้หญิงคนนั้นมองตามปลายมือที่กำลังผายไปด้านซ้าย ก็เห็นว่าจิลลาหรือที่ใครๆ ต่างพากันเรียกว่าหนูจิลกำลังดูความเรียบร้อยของงานเลี้ยงวันเกิดของผู้เป็นบิดาด้วยความตั้งอกตั้งใจ
“น่ารักจังเลยนะคะ” แขกหญิงยิ้ม “ว่าแต่หนูจิลว่าแฟนหรือยังคะเนี่ย คงจะมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะเลยสินะคะ”
“ยังหรอกค่ะ หนูจิลของเรายังไม่สนใจใคร บอกว่าจะอยู่ดูแลพ่อกับแม่แบบนี้ไปเรื่อยๆ มีความสุขกว่าค่ะ”
ศมนเป็นคนให้คำตอบของคำถามนั้น แขกหญิงยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะขอตัว
“ดิฉันขอตัวเข้าได้านในก่อนนะคะ”
“เชิญเลยค่ะ”
ศมนพายมือพลางพยักหน้าให้สาวใช้ที่วันนี้ไม่ได้สวมยูนิฟอร์มแต่แต่งกายด้วยชุดสุภาพสวยงามเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันเกิดของผู้เป็นเจ้านายทำหน้าที่พาแขกไปนั่งที่โต๊ะ
รถสีดำมันปลาบเลี้ยวเข้ามาในบ้านชวัลวิทย์ คนขับคือจีรรัชญ์หรือคนที่ใครๆ ต่างพากันเรียกว่าคุณจีร ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงวัยสามสิบเอ็ดปีแห่งเบดดิ้งเฟบริค โรงงานผลิตเครื่องนอนรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศที่ผลิตเครื่องนอนตามแบบหรือตามสั่งให้กับโรงแรม รีสอร์ต สปา เกตเฮ้าส์ เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ โรงพยาบาลและสถานที่ต่างๆ ตามความต้องการ รถหรูเลี้ยวเข้ามายังที่จอดประจำตรงโรงจอดบ้านชวัลวิทย์ เครื่องยนต์ดับสนิทก่อนที่เขาจะก้าวลงมา
“ขอบใจ”
จีรรัชญ์บอกตอนที่ส่งกระเป๋าให้สาวใช้ สูทสีดำยังคงอยู่ที่ท่อนแขนของเขาก่อนที่เจ้าตัวจะส่งให้สาวใช้ตามหลังกระเป๋าทำงาน ตาคมเหลือบมองไปยังสนามหญ้าหน้าบ้านที่ตอนนี้ครึกครื้นไปด้วยผู้คนกับเสียงดนตรีในท่วงทำนองที่ฟังสบายหูกำลังเปิดบรรเลง
“พี่จีร”
เสียงใสกับรอยยิ้มหวานที่เห็นเด่นชัดมาตั้งแต่ไกลทำให้คนที่มักจะมีสีหน้านิ่งขรึมอย่างจีรรัชญ์ขยับยิ้มออกมา ก่อนที่แขนแกร่งจะอ้าออกเมื่อจิลลาเดินกึ่งวิ่งเข้ามาสวมกอดที่เอวสอบ
“คิดถึงพี่จีรจังเลยค่ะ”
“คิดถึงอะไรกันพี่แค่ไปทำงาน”
“แต่บางวันพี่จีรก็ไม่ได้กลับมานอนที่บ้านนี่คะ บางทีก็ค้างที่โรงงาน”
จิลลายู่หน้าก่อนจะผละออกมาจากร่างสูงของคนเป็นพี่ชาย รอยยิ้มเอ็นดูเกลื่อนอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของจีรรัชญ์ มือหนาวางลงบนศีรษะของอีกฝ่ายพลางเอ่ยอย่างปลอบใจ
“ก็เฉพาะเวลาที่งานยุ่งเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรเร่งด่วนพี่ก็กลับบ้านตลอด จิลก็เห็น”
“แต่เวลาที่บ้านไม่มีพี่จีรมันเหงามากเลยนะคะ”
“เหงาอะไรกัน คุณพ่อกับคุณแม่ก็อยู่ คนงานก็อยู่ด้วยตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ถ้าเราเหงาจริงๆ ก็มีแฟนสิ จะได้ไม่เหงาไง”
“ไม่ต้องมาไล่จิลไปมีแฟนเลยค่ะ จิลจะอยู่แบบนี้กับพี่จีรไปจนแก่เลย”
“พี่จะคอยดูว่าจิลจะทำตามที่บอกได้หรือเปล่า”
“คอยดูได้เลยค่ะ จิลทำแบบนั้นได้อยู่แล้ว”
“ฮึ” จีรรัชญ์กระตุกยิ้มมุมปาก ไปดูความเรียบร้อยของงานเถอะ จิลเป็นแม่งานไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนแล้วจะรีบลงมา”
“โอเคค่ะ จิลรอนะคะ”
จีรรัชญ์ยิ้มให้น้องสาวก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านหลังใหญ่ จิลลามองตามแผ่นหลังกว้างของพี่ชายไปจนลับสายตาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปดูความเรียบร้อยในบริเวณงานอีกครั้ง
“ขอโทษทีนะหวาน พอดีรักตี้หมูทะด้วยไม่ได้จริงๆ วันนี้เป็นงานวันเกิดของเจ้าสัวจิณณะ ตอนนี้รักกำลังนั่งแท็กซี่ไปที่บ้านชวัลวิทย์ งานจัดที่นั่น”
“โอเคจ้า ไม่เป็นไรไว้นัดกันวันหลังก็ได้ เดี๋ยวหวานบอกหนูดีให้ว่ารักไปไม่ได้ ไว้เราค่อยนัดกันอีกที”
“ได้เลยจ้ะ รักต้องวางสายแล้วนะ ถึงบ้านชวัลวิทย์แล้ว”
“โอเค ไว้เจอกันจ้ะ”
ทันทีที่แสนหวานเพื่อนสนิทของเจ้าตัววางสาย แสนรักก็จัดการเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าพร้อมกับหยิบธนบัตรใบสีแดงขึ้นมาชำระค่าโดยสารตามที่โชว์อยู่บนหน้าจอมิเตอร์ ชำระเงินเรียบร้อยก็คว้ากระเป๋าสะพายพร้อมกล่องของขวัญสำหรับเจ้าสัวจิณณะลงจากรถ