@ห้องตรวจผู้ป่วยจิตเวช
ห้องตรวจผู้ป่วยจิตเวชในช่วงสายของวัน บรรยากาศเงียบสงบ แสงแดดนวลส่องลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ ที่คลุมหน้าต่าง ทำให้ภายในห้องอบอุ่นแต่ไม่อึดอัด กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ ลอยปะปนกับกลิ่นเครื่องปรับอากาศจาง ๆ
ประตูถูกเปิดออกโดยไม่เคาะเสียก่อน ร่างสูงของเด็กหนุ่มหน้าคมคายเดินยิ้มกวนเข้ามาในห้องตรวจโดยไม่ลังเล มือหนึ่งถือแก้วชาเขียวสีเขียวอ่อนวางลงตรงหน้าหญิงสาวที่นั่งหลังโต๊ะไม้เรียบหรูด้วยท่าทางมั่นใจ ใบหน้ายิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์อย่างมีจุดมุ่งหมาย
"ชาเขียวหวานน้อยของโปรดพี่หมอครับ :)"
"นายรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบกินชาเขียวหวานน้อย" : น้ำเสียงติดสงสัย เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตาจับจ้องเขาอย่างสำรวจ
"เชื่อไหม ถ้าผมจะบอกว่า ผมรู้ทุกอย่างที่เป็นพี่..."
"ทุกอย่างเลยเหรอ...หึ..ขี้โม้หรือเปล่า" : คุณหมอสาวพิงพนักเก้าอี้ หลุบตามองเขาอย่างไม่เชื่อแต่แฝงความขำเบา ๆ มุมปากยกน้อย ๆ อย่างท้าทาย
"พี่อยากให้ผมพิสูจน์ยังไงครับ พี่ถึงจะยอมเชื่อ"
"ฉันชอบสีอะไร" : เธอเอียงคอนิด ๆ พูดคล้ายถามเล่น ๆ แต่แววตาท้าทาย เอนหลังพิงเบาะพร้อมกอดอก
"พี่ชอบสีฟ้า เพราะเวลาเห็นแล้วมันสบายตา"
"อาหารที่ชอบล่ะ?"
"กระเพราปลาหมึกไม่เผ็ดไม่หวาน ไข่ดาวเยิ้มๆ พี่ไม่กินอาหารรสจัดเพราะชอบปวดท้องกระเพาะอยู่บ่อยๆ"
".....แล้ว......."
"พี่ชอบทานขนมหวาน แต่อะไรที่ผสมถั่วพี่จะไม่กิน เพราะพี่แพ้"
"ชอบกินชาเขียวหวานน้อย ถ้าวันไหนไม่ได้กินพี่จะนอนไม่หลับ"
"กลางคืนต้องเปิดไฟหัวเตียงเอาไว้ เพราะเวลาหลับพี่ชอบฝันร้าย สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอยู่บ่อยๆ"
"พี่ชอบอากาศหนาว ไม่ชอบอากาศร้อน เปิดแอร์สิบแปดองศา นอนห่มผ้าห่มทุกคืน :)"
"ชอบคนพูดง่าย ไม่งี้เง้า ไม่ติดหรู คุยกันแล้วสบายใจ ลักษณะนิสัยแบบนี้ ตรงกับผมเดี้ยะ :)" : เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างภาคภูมิใจ สายตาจริงจังแต่ยังแฝงความทะเล้น เอนตัวพิงเก้าอี้ สายตาไม่ละจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว
พูดจบอีกคนถึงกับทำหน้าเอ๋อ ระยะเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ เจ้าเด็กนี่หาข้อมูลเกี่ยวกับเธอมาได้ขนาดนี้เลยเหรอ
"อยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองอีกไหมครับ :)" : เสียงนุ่มชวนหลงใหลเอ่ยถาม พร้อมกับรอยยิ้มมั่นใจจนเกินวัย
"นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?" : เอ่ยถามเพราะความสงสัย คิ้วขมวดแน่นน้อย ๆ มือวางแก้วลงกับโต๊ะช้า ๆ แววตาเริ่มเปลี่ยนเป็นกังวลเล็ก ๆ
"พี่ไม่ต้องรู้หรอกครับ เอาเป็นว่าผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพี่ก็แล้วกัน" : กว่าจะรู้ก็เล่นเอาหนักพอสมควร พยายามอยู่หลายวันกว่าจะหาข้อมูลมาได้ เสียเงินหลายแสนเพียงแค่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของว่าที่เมีย
"........." : คุณหมอเงียบไป ก้มมองชาเขียวที่ค่อย ๆ ละลาย ริมฝีปากเม้มแน่นเหมือนกำลังใช้ความคิดหนัก
"ผมใส่ใจพี่ขนาดนี้ พี่คิดจะชอบผมบ้างหรือยัง :)" : เสียงพูดอ่อนโยนลง ราวกับตั้งใจให้เป็นประโยคสารภาพรัก
"เฮ้อ ~ นายนี่มันตื้อจริงๆเลย ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบเด็ก มาตามกันทุกวันแบบนี้ไม่เบื่อบ้างเลยรึไง" : เธอถอนหายใจแรง ลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ พลางส่ายหัวอย่างระอา
"ไม่เบื่อ ผมบอกแล้วไง ผมจะจีบพี่ จีบจนกว่าจะติด และอีกอย่างถึงพี่ไม่ชอบเด็ก แต่พี่ก็กินเด็กอย่างผมไปแล้ว กินไปตั้งหลายน้ำ แถมผมยังเป็นคนแรกและคนเดียวของพี่ด้วย" : เขาขยับตัวโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย ยักคิ้วกวน ๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปากสุดยั่ว
"นายมั่นใจได้ยังไงว่านายเป็นคนแรกของฉัน" : เธอกระพริบตาช้า ๆ หน้าร้อนวูบวาบ พยายามเก็บสีหน้าไม่ให้แสดงพิรุธ
"ก่อนเจอพี่ ผมก็เสือตัวหนึ่งแหละครับ ทำไมจะแยกไม่ออก ปกติเสืออย่างผมจะไม่กินเหยื่อตัวเดิม แต่สำหรับพี่ผมยอมถอดเขี้ยวเล็บ ยอมเป็นแมวเหมียวให้ก็ได้นะ :)" : เสียงทุ้มกวน ๆ หยอดคำหวานแบบหน้าตาย สายตาวาววับเต็มไปด้วยเจตนา
"ตกลงจะจีบฉันให้ได้เลยใช่ไหม"
"ครับ...จะจีบจนกว่าจะติด"
"นายมันดื้อ"
"ดื้อเฉพาะกับพี่แหละครับ ผมใส่ใจพี่ขนาดนี้แล้ว บวกคะแนนให้ผมแล้วหรือยัง :)" : น้ำเสียงจริงจังสลับหยอกเย้า ดวงตาเป็นประกายวาววับ ชวนให้ใจสั่นอย่างห้ามไม่ได้
"คะแนนอะไรของนาย" : ไม่สบตา คุณหมอคนสวยยื่นมือไปหยิบชาเขียวที่หนุ่มรุ่นน้องซื้อมาฝาก ทำทีไม่จนใจจนกระทั่งใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้
"เอ็นดูเด็กดื้อคนนี้หน่อยนะครับพี่หมอคนสวย :)" : เสียงกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหู ริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ขณะที่สายตาไม่ละไปจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว
บรรยากาศในห้องตรวจผู้ป่วยจิตเวชเงียบงัน แสงแดดอ่อน ๆ จากภายนอกลอดผ่านม่านสีครีมตกกระทบบนพื้นอย่างแผ่วเบา กลิ่นหอมสะอาดของน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ ยังคงลอยปะปนกับกลิ่นชาเขียวในแก้วพลาสติกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
"นะ..นาย..."
ใบหน้าหล่ออยู่ใกล้เพียงแค่คืบ ปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขารินรดที่ปลายจมูกของเธอ สองสายตาสบประสานจ้องมองกันนานหลายวินาที ดวงตาเขาแน่วแน่ ลึกซึ้ง และทรงพลังจนแทบสะกดเธอให้นิ่งงันอยู่กับที่
หัวใจที่เคยเต้นเป็นจังหวะปกติธรรมดา กลับเต้นเร็วและแรงขึ้นจนแทบจะหลุดออกมานอกอก คุณหมอคนสวยออกอาการประหม่า ดวงตากะพริบถี่ ลมหายใจติดขัด มือทั้งสองข้างกำแน่นอยู่บนตักอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบเบนหน้าหนี หลบสายตาอันตรายคู่นั้นอย่างร้อนรน ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่
"ชะ..ฉัน..มีงานต่อ นายกลับไปได้แล้ว" : เสียงสั่นนิด ๆ พยายามทำเสียงขรึมกลบเกลื่อนความเขินอาย
"เขินเหรอครับ แก้มพี่แดงนะ" : เขายิ้มอย่างรู้ทัน ดวงตาวิบวับอย่างผู้ชนะ
"เขินบ้าเขินบออะไร ฉันมีงาน ไม่ว่างมาคุยเล่นกับนายหรอกนะ" : ทำทีเป็นหยิบประวัติคนไข้ขึ้นมาอ่าน ทำตัวเหมือนยุ่งทั้งที่จริงแล้วเธอไม่ได้ยุ่งอะไรเลยสักนิด มือที่จับกระดานเอกสารสั่นเล็กน้อย แววตาพยายามหลบหน้าเขาไม่ให้เห็นสีหน้าแดงจัดของตัวเอง
"งานอะไรครับ ผมเช็คตารางพี่หมอแล้ว บ่ายนี้พี่ไม่มีตรวจ" : เขายืนเท้าเอวเล็กน้อย ทำสีหน้าทะเล้น สายตามองตรง ไม่หลบเลี่ยง
"นายเช็คตารางฉัน ???" : รีบวางกระดานบอร์ดประวัติคนไข้ลงทันที ก่อนจะเงยหน้าสบตากับเขาอีกครั้งด้วยความตกใจ นอกจากจะตื้อเก่ง แล้วยังสืบเก่งด้วยเหรอ ดักกันทุกทางเลยมั้งนั้น ใจเต้นระรัวเพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำขนาดนี้
"ครับ...วันนี้พี่หมอไม่มีตรวจ ยาวไปจนถึงสี่โมงเย็น" : เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความมั่นใจจนน่าโมโห
"แต่ฉันมีตรวจคนไข้เคสพิเศษ..พยาบาลพึ่งแจ้งเมื่อไม่นานนี่เอง..." : สายตาหลบเลี่ยงอย่างมีพิรุธ เสียงแผ่วลงราวกับไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเอง
"อย่ามาโกหกนะครับ มุสาวาทา หลอกเด็ก มันบาปนะ" : เขาขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ยิ้มกวนประสาท ทำตาโตนิด ๆ อย่างล้อเลียน
"เฮ้อ ~~~ นายจะตื้อฉันให้ได้เลยใช่ไหม" : เธอถอนหายใจแรง มือยกขึ้นนวดขมับเบา ๆ อย่างระอา ใจหนึ่งก็เหนื่อยใจ แต่อีกใจก็เผลอยิ้มในใจ
"ครับ ตื้อจนกว่าพี่จะยอม" : เขาพูดเสียงนุ่ม แต่ชัดเจน แววตาแน่วแน่ ใจกล้าจนเธอรู้สึกว่าโดนไล่ต้อนจนจนมุม
"ต้องการอะไร" : ถอนหายใจออกมาอย่างจำยอม น้ำเสียงติดเหนื่อยใจเล็กน้อย ชีวิตคุณหมออิงฟ้าเคยเรียบง่ายมาตลอด แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงดูวุ่นวาย ไม่สงบสุขเอาซะเลย มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่นอย่างพยายามควบคุมอารมณ์
"ผมอยากไปดูหนังกับพี่หมอ จ้องตั๋วเอาไว้แล้ว" : หยิบตั๋วหนังในมือขึ้นมาโชว์ ก่อนจะยิ้มร่าให้คนตรงหน้า ดวงตาเปล่งประกายความหวัง ทำหน้าออดอ้อนอย่างที่หมอปลายฝนแนะนำมา หมออิงฟ้าแพ้คนขี้อ้อน อ่อยบ่อยๆเดี๋ยวก็ใจอ่อนเอง ดูท่าจะจริงอย่างที่คุณหมอปลายฝนบอก
"แล้วนายไม่มีเรียนหรือไง...อย่าบอกนะว่าโดดเรียนมา" : คิ้วขมวดทันที สีหน้าจริงจัง น้ำเสียงเริ่มกลายเป็นโหมดคุณหมอที่เคร่งครัด
"เปล่าครับ ผมไม่ได้โดด แค่ขอลาออกมาทำธุระ" : ตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อ ใบหน้าไร้เดียงสา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"เด็กเกเร" : เธอส่ายหน้าเล็กน้อย แววตาเหมือนจะดุ แต่ก็แฝงความเอ็นดูจนปิดไม่มิด
"เกเรแค่กับพี่หมอคนเดียวนะครับ ปกติผมเป็นเด็กดีจะตาย เข้าเรียนทุกคาบไม่เคยขาดไม่เคยลา" : เอียงคอยิ้มนิด ๆ พูดอย่างภูมิใจแต่แอบอ้อน
"แล้ววันนี้คืออะไร ? ลาเรียนมาเพื่อที่จะไปดูหนังกับฉัน ?" : เลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ ถามเสียงเรียบ แต่ใจเต้นผิดจังหวะนิดหน่อย
"ครับ :) ผมน่ารักไหม :)" : ยิ้มแป้น ทำหน้าตาใสซื่อเหมือนเด็กขอขนม เสียงทุ้มของเขาดูอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
"เฮ้อ ~~~~~" : ถอนหายใจยาว ลึก และเต็มไปด้วยความอ่อนใจอย่างถึงที่สุด
"ไปนะครับพี่หมอ...นะ..ไปดูหนังกับผมนะครับ :)" : ทำหน้าแป้น ยิ้มจนตายี่ ดวงตาเป็นประกายขอความเห็นใจ ร่างสูงเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยเหมือนลูกหมาน้อยที่รอคำตอบ
ไม่อยากจะเชื่อ คืนนั้นยังทำเสียงดุใส่เธออยู่เลย มาตอนนี้ทำไมเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน หรือเขาจะเคยเป็นเสืออย่างที่พูดจริง ๆ แต่ถ้าใช่...เสือจะยอมถอดเขี้ยวเล็บง่าย ๆ แบบนี้จริงเหรอ...เป็นไปไม่ได้มั้ง