ตอนที่ 6 แค่เอ็นดู

1908 Words
ฟาริคใช้สายตาเรียบนิ่งของเขาจ้องมาที่ริมฝีปากของเลย์ลาครู่หนึ่งและเหมือนว่าใบหน้าหล่อคมคายกำลังขยับโน้มเข้าไปหาเธอ เลย์ลาที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกตัวแข็งทื่อมือเรียวของเธอที่วางอยู่บนบ่าเขากำลังกำเสื้อคลุมที่เขากำลังสวมใส่แน่น ก๊อก! ก๊อก! แต่ทว่าเสียงเคาะประตูห้องพักหรูก็ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กที่กำลังนั่งตัวเกร็งอยู่บนตักแกร่งรีบดีดตัวลุกพรวดออกจากตักของฟาริค "อะ เอ่อ ละ เลย์ลาขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ เดี๋ยวเลย์ลาต้องมีไปทำธุระข้างนอกต่อค่ะ" เลย์ลาเอ่ยพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก เธอก้มหัวให้ ฟาริคเล็กน้อยก่อนจะรีบหมุนตัวเดินไปเปิดประตูแล้วเธอก็พบเข้ากับลูอิสที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูพอดี เลย์ลาก้มหัวให้ลูอิสเล็กน้อยก่อนที่เธอจะรีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก ทำเอาลูอิสถึงกับมองตามแผ่นหลังของเลย์ลาไปด้วยสายตางุนงง "มึงมาทำไม" เสียงทุ้มต่ำของฟาริคเอ่ยพูดกับลูอิสด้วยสีหน้าหงุดหงิด ทำเอาลูอิสที่สาวเท้าเข้ามาแสดงสีหน้างุนงงไปยิ่งกว่าเดิม "เฮียเรียกผมให้เอาเอกสารมาให้ไงครับ" "กูเรียกไปตั้งนานทำไมเพิ่งเอามาตอนนี้" "ก็เฮียบอกผมว่าอีกยี่สิบนาทีค่อยเข้ามา เฮียจะอาบน้ำก่อนผมก็เลยรอยี่สิบนาทีแล้วค่อยเข้ามาครับ" "อืม มึงนี่ตรงเวลาดีเนอะ" "แน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นผมจะได้มาเป็นลูกน้องคนสนิทของเฮียเหรอครับ" ลูอิสยกยิ้มขึ้นมาด้วยสีหน้าภูมิใจ "อันนี้กูไม่ได้ชมนะ กูประชด" "อ้าว" ลูอิสทำหน้าเหวอออกมาแต่ในตอนนั้นดวงตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกตรงหน้าเจ้านายของเขา "ว่าแต่แก้วกาแฟใครเหรอครับเฮีย" "ของกู" "แต่เฮียไม่ดื่มกาแฟไม่ใช่เหรอครับ" "…" ฟาริคเงียบไม่ตอบอะไรกลับไป เขาเพียงแค่ใช้สายตาเรียบนิ่งของตัวเองจ้องมองไปที่แก้วกาแฟนั้นแถมในหัวก็พลางไปนึกถึงร่างเล็กของใครบางคน ลูอิสมองท่าทีของเจ้านายของตัวเองด้วยสีหน้างุนงงแต่เมื่อในหัวพลางนึกไปถึงท่าทีของเลย์ลาเมื่อสักครู่นี้ลูอิสก็ค่อย ๆ ยกยิ้มออกมาอย่างเริ่มเข้าใจอะไรได้ ฟาริคดึงสายตาราบเรียบของตัวเองออกมาจากแก้วกาแฟก่อนจะตวัดสายตาไปมองหน้าลูกน้องตัวเองแทน "ยิ้มเหี้ยอะไรของมึง" "ผมเปล่าครับ" ลูอิสรีบหุบยิ้มก่อนจะแสดงสีหน้าจริงจังในแบบของลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่ม "เปล่าอะไร ก็เมื่อกี้มึงยิ้มอยู่" ฟาริคที่รู้ว่าลูอิสกำลังจะกวนประสาทก็เลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามแบบที่เขาชอบทำเช่นกัน "เฮียผมถามจริง ๆ เฮียกำลังชอบเธอใช่มั้ยครับ" "ไอ้นี่ พูดอะไรเพ้อเจ้อ กูไม่สนใจเรื่องไร้สาระแบบนั้นอยู่แล้ว" "…" แม้ลูอิสจะได้ยินเจ้านายตัวเองปฏิเสธออกมาเสียงแข็ง แต่ยังคงทำหน้าไม่เชื่อออกมาอยู่ดี "กูก็แค่เอ็นดูเธอ กูไม่เอาเด็กที่อายุเกือบเท่าน้องตัวเองมาทำเมียหรอก กูไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วย งานกูเยอะจะตายมึงก็รู้" "งานเยอะแต่ก็ยังจะจัดหาที่หลับที่นอนให้เธอแถมยังเรียกเธอมาหาทุกวั๊น ทุกวัน" "มึงทำงานกับกูมากี่ปีมึงเคยเห็นกูสนใจเรื่องอะไรแบบนั้นมั้ย กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่ได้สนใจอะไรเธอแบบนั้น กูก็แค่สงสารเธอ" "เพราะทำงานกับเฮียมาหลายปีนี่แหละครับถึงรู้ว่าอาการของเฮียตอนนี้มันเริ่มไม่ปกติ" เมื่อถูกหยอกล้อจนเกือบจะจนมุม ฟาริคก็หยิบกระดาษแผ่นนึงมาขยำ ๆ ในมือก่อนจะปาใส่ลูกน้องตัวเองทันทีด้วยความหงุดหงิด "พูดมากจริง ๆ มึง ออกไปได้แล้วกูปวดหัว" "ครับเฮีย งั้นผมวางเอกสารไว้ตรงนี้นะครับ" ลูอิสพูดขึ้นก่อนจะวางซองเอกสารไว้ตรงโต๊ะข้าง ๆ แก้วกาแฟ จังหวะที่จะหมุนตัวกลับลูอิสก็ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าติดกวนก่อนจะเอ่ยพูดกับเจ้านายตัวเองว่า "แต่ถ้าเฮียมีอะไรอยากปรึกษา เรียกผมได้นะครับ ผมช่ำชอง" "กู ไม่ ต้อง การ!" ฟาริคตะโกนไปตามหลังก่อนจะหยิบกระดาษมาขยำ ๆ และง้างมือทำท่าจะปาใส่ลูอิสอีกครั้ง "กูน่าจะเอาไอ้เดียนไว้แล้วส่งมึงให้ไอ้ฟิลิกซ์ นิสัยแบบเดียวกันแม่งอยู่ด้วยกันได้เลย ไอ้เวร" อีกด้าน "สายตาเมื่อกี้มันคืออะไรน่ะ" เลย์ลายืนอยู่หน้ากระจกและเอ่ยพูดขึ้นกับตัวเอง เธอใช้ดวงตากลมของตัวเองมองเงาสะท้อนใบหน้าของตัวเองในกระจกและพบว่าตัวเธอเองมีสีหน้าที่แดงก่ำในตอนนี้ เลย์ลาหลับตาและพยายามสลัดภาพที่ฟาริคกำลังโน้มใบหน้าเข้ามาหาเธอออกจากหัว แต่ทว่าทั้งภาพและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายของฟาริคที่เธอได้กลิ่นมันยังคงหอมหวนติดอยู่ที่ปลายจมูกเธอไม่หาย หากเมื่อกี้ไม่มีเสียงเคาะประตูเกิดขึ้นมันจะเกิดอะไรขึ้นนะ เธอจมอยู่กับความคิดของตัวเองนานหลายนาที ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอที่เหมือนมาช่วยเรียกให้ได้สติกลับมาดังขึ้น "เลย์ลา ตอนนี้อยู่ไหนแล้วเหรอ" "เลย์ลายังไม่ได้ออกไปเลยค่ะ พี่กวินมีอะไรหรือเปล่าคะ" "พี่จะฝากเลย์ลาซื้อของเข้ามาหน่อยได้มั้ย พอดีว่ากล่องใส่ขนมเค้กที่ร้านมันหมด พี่เตรียมเปิดร้านอยู่เลยไม่สะดวกขับรถออกไปซื้อ" "อ๋อ ได้เลยค่ะพี่กวิน เดี๋ยวเลย์ลาแวะซื้อให้แล้วจะรีบเข้าไปนะคะ" "ไม่ต้องรีบก็ได้ เดินทางมาดี ๆ ก็พอ เพิ่งเปิดร้านคนยังไม่เยอะเท่าไหร่หรอก" "รับทราบค่ะพี่กวิน" เลย์ลาขานตอบกวินเจ้าของร้านกาแฟที่เธอกำลังทำงานอยู่ก่อนที่เลย์ลาจะรีบจัดข้าวของของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็รีบสาวเท้าออกมาจากห้องพักของเธอ จังหวะที่เธอเปิดประตู เธอเหลือบไปมองประตูห้องตรงข้ามเล็กน้อยและเห็นว่ามันปิดสนิทอยู่ สุดท้ายร่างเล็กก็ละสายตาออกมาและรีบสาวเท้าเดินออกมาทันที ใช้เวลาไม่นานเลย์ลาก็เดินทางถึงร้านกาแฟที่อยู่ใกล้มหาลัยของตัวเอง "พี่กวิน เลย์ลามาแล้วค่ะ" เลย์ลาเอ่ยทักทายกวินเจ้าของร้านกาแฟที่เธอทำงานด้วยมานานนับปี มือเรียวของเลย์ลาถือถุงกล่องขนมเค้กมืออีกข้างก็ถือกระเป๋าสะพายตัวเองด้วยท่าทีพะรุงพะรัง "เดี๋ยวพี่ช่วย" กวินเดินเข้าไปหาเลย์ลาก่อนจะเอื้อมไปช่วยหยิบถุงกล่องขนมเค้กมาถือ "ขอบคุณนะคะพี่กวิน" "ไม่น่าใช้เราให้ซื้อของเลย ถุงอันนี้กับคนถือเกือบจะเท่ากันอยู่แล้ว" "พี่กวินอย่าหาแกล้งเลย์ลา เลย์ลาสูงตั้งร้อยห้าสิบห้าเลยนะคะ" "เลย์ลา เราใช้คำว่าตั้งร้อยห้าสิบห้าเลยเหรอ" "เลย์ลาจะไปฟ้องกรมแรงงาน โดนเจ้าของร้านแกล้งทุกวันเลย" เลย์ลาแสดงสีหน้างอแงออกมาเมื่อโดนกวินพูดหยอกล้อเรื่องส่วนสูงของเธอ "หึ เขาจะไล่เรากลับมาน่ะสิ เพราะพี่พูดความจริงทั้งนั้น" "เลย์ลาไปจัดของดีกว่า อยู่ไปก็โดนพี่กวินแกล้งเปล่า ๆ" เลย์ลาหันไปทำหน้ายู่ใส่กวินก่อนจะสาวเท้าเดินไปสวมใส่ผ้ากันเปื้อนและเริ่มจัดข้าวของแบบที่เธอทำเป็นประจำ กวินลอบยิ้มออกมาเบา ๆ ด้วยความชอบใจในท่าทีน่าเอ็นดูของเลย์ลา ก่อนที่เขาจะหยิบถุงกล่องขนมเค้กไปเก็บไว้ที่ชั้นเก็บของ เมื่อถึงเวลาทำงานเลย์ลายังคงทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจเหมือนเคย เธอเต็มที่กับทุกอย่างที่เธอรับผิดชอบมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปช่วงพลบค่ำ ถึงเวลาเลิกงาน เลย์ลาช่วยกวินเก็บของเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเธอก็เดินไปถอดผ้ากันเปื้อนออกและเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง "พี่กวินเลย์ลากลับก่อนนะคะ พอดีเลย์ลามีไปทำงานต่อค่ะ" "เดี๋ยวพี่ไปส่งมั้ย" กวินที่กำลังถอดผ้ากันเปื้อนออกก็หันไปเอ่ยพูดกับเลย์ลา "ไม่เป็นไรค่ะ เลย์ลานั่งรถเมล์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว" "เดี๋ยวพี่ไปส่ง อยากไปขับรถเล่นพอดี" กวินยกยิ้มพูดขึ้นต่อ พร้อมกับเดินสาวเท้าไปเก็บของใส่กระเป๋าสะพายและคว้ากุญแจรถบิ๊กไบค์ของตัวเองมาถือไว้ในมือ "เจ้าของร้านพอปิดร้านแล้วก็ว่างแบบนี้นี่เอง" เลย์ลาที่ค่อนข้างสนิทกับกวินพอสมควรก็พูดกวนเขาไปเล็กน้อยตามนิสัยของหญิงสาว "แน่นอน พี่ใจดีขนาดนี้อย่าลืมไปถอนฟ้องกรมแรงงานล่ะ" คำตอบที่กวินตอบกลับมาทำให้เลย์ลาหัวเราะออกมาในลำคอเบา ๆ หึ กวินก็ลอบยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปหยิบหมวกกันน็อกของตัวเองมาถือไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินมาที่รถบิ๊กไบค์คันใหญ่ของกวิน "ใส่ซะสิ" กวินยื่นหมวกกันน็อกของตัวเองให้กับเลย์ลา "แล้วพี่กวินล่ะคะ" เลย์ลาเอ่ยถามเขากลับ ในขณะที่มือก็เอื้อมไปหยิบหมวกกันน็อกนั้นมา "พี่มีประกัน เธอใส่ไว้เถอะน่า" "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" หลังจากนั้นรถบิ๊กไบคันใหญ่ก็ถูกขับออกมาโดยเลย์ลาที่นั่งซ้อนอยู่ก็ใช้มือกำชายเสื้อของกวินแน่น แต่โชคดีที่กวินไม่ได้ขับเร็ว ใช้เวลาไม่นานรถบิ๊กไบค์ก็ขับมาจอดหน้ากาสิโนหรูใจกลางเมือง เลย์ลาก็ค่อย ๆ กระโดดลงจากรถและถอดหมวกกันน็อกยื่นให้กวิน ซึ่งตอนนั้นมันเป็นจังหวะเดียวกับที่รถหรูของฟาริคกำลังเลี้ยวเข้ากาสิโนตัวเองพอดี ดวงตาของฟาริคจ้องมองเลย์ลาที่กำลังยืนฉีกยิ้มให้ชายหนุ่มที่คร่อมบิ๊กไบค์อยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนที่รถของเขาจะขับเข้าไปในกาสิโนโดยที่เลย์ลาไม่ทันได้สังเกตเห็น "ทำงานที่นี่เหรอ" กวินเอ่ยถามเลย์ลา เลย์ลาที่ได้ยินก็พยักหน้าและยิ้มตอบ "ใช่ค่ะ" "งั้นพี่กลับแล้วนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ" "รับทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่งเลย์ลา"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD