จะรือฟื้นทำไม

1554 Words
“คุณอยากจะกินอะไรล่ะโมเดล” วาคิมถามหลังจากเขาพาเธอมายังร้านอาหาร เมลดาหยิบเมนูมาดู มีอาหารหลายอย่างที่เธออยากทานเพราะตอนอยู่อเมริกาก็ไม่ได้ทานอาหารพวกนี้เท่าไหร่ พอกลับมาเมืองไทยก็มัวแต่ยุ่งเรื่องพ่อเลยยังไม่ได้ทานอาหารที่ตัวเองชอบ “ฉันเอาห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน แกงเขียวหวานเนื้อ ยำวุ้นเส้นแบบโบราณค่ะ” หญิงสาวบอกพนักงานที่เดินมารับออเดอร์ “แล้วคุณผู้ชายจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ” พนักงานสาวถามเมื่อเห็นวาคิมพลิกเมนูกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ “ผมเอายำถั่วพูกุ้งสด ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนและต้มจืดลูกรอกครับ” อาหารทุกที่สั่งมาเป็นอาหารที่วาคิมและเมลดามักจะไปทานด้วยกันอยู่บ่อยๆ “คุณดูผอมไปนะโมเดล” วาคิมชวนเธอคุยระหว่างรออาหาร “ค่ะ” “ผมเสียใจเรื่องพ่อของคุณด้วยนะ คุณอันที่จริงวันที่เผาศพท่านผมก็ไปร่วมงานเพียง แต่คุณกำลังยุ่งอยู่ผมเลยไม่เข้าไปทัก” “ขอบคุณนะคะที่ไปร่วมงานของคุณพ่อ ความจริงคุณไม่น่าลำบากเลยเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” “ผมแยกแยะออกนะโมเดล ถึงแม้เราจะเลิกกันแล้วแต่ตอนที่เราคบกันคุณลุงท่านก็ดีกับผมมาก ผมก็อยากไปส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย” “ถ้าคุณไปด้วยใจบริสุทธิ์ฉันก็ขอขอบคุณแทนคุณพ่อด้วยค่ะ” “เราไม่เจอกันนาน คุณสบายดีใช่ไหมโมเดล” “ก็อย่างที่เห็นค่ะ ฉันสบายดี” “เขาดูแลคุณดีใช่ไหม” “หมายถึงพี่วินเหรอคะ” “ใช่เขานั่นแหละ” “พี่วินดูแลฉันกับลูกดีมาก แล้วคุณล่ะเป็นยังไงบ้าง” เมลดาตัดสินใจถามออกไปเพราะตั้งแต่ย้ายไปอยู่อเมริกาก็ไม่เคยทราบข่าวคราวของวาคิมอีกเลย “ก็สบายดีตอนนี้ผมทำหมู่บ้านจัดสรรอย่างที่ผมเคยคิดไว้กิจการกำลังไปได้สวย” “คุณเป็นคนเก่งฉันว่าอีกหน่อยความฝันที่คุณวาดไว้ก็คงจะเป็นจริงมัน” “จะมีประโยชน์อะไรล่ะโมเดลฝันที่เราเคยมีร่วมกันแต่ตอนนี้กลายเป็นผมคนเดียวที่กำลังจะทำตามฝัน” วาคิมพูดทุกอย่างออกมาทำความรู้สึกเขากับเมลดาเคยวาดฝันกันไว้ว่าทั้งสองจะร่วมกันเปิดบริษัทรับสร้างบ้าน และบ้านแต่ละหลังจะออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ไม่ใช่เหมือนกันทุกหลังเหมือนกับบ้านจัดสรรทั่วไป ทั้งสองสัญญาร่วมกันสร้างไปด้วยกัน “อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ ทุกอย่างมันจบแล้ว คุณอย่ารื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกเลย ที่ฉันมากินข้าวกับคุณก็เพื่ออยากจะบอกคุณว่าต่อไปอย่าเจอกันอีก” “ทำไมคุณใจร้ายกับผมจังเลยล่ะ เราเพิ่งได้เจอกันเองนะ” “คุณก็รู้ว่าตอนนี้ฉันมีครอบครัวแล้วจะให้ออกมาเจอคุณอีกได้ยังไงล่ะวาคิม” “แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นี่” “อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำให้สามีของฉันไม่สบายใจแค่ที่ฉันออกมากินข้าวกับคุณวันนี้ก็รู้สึกเกรงใจเขามากแล้ว” “ดูคุณรักเขามากนะ” “แน่นอนค่ะ” เมลดาตอบก่อนจะหลบสายตาของเขาที่จ้องเหมือนกำลังจะจับผิดอะไรบางอย่าง เธอทำตัวไม่ถูกแล้วเธอก็ถอนหายใจเมื่อเห็นพนักงานของร้านกำลังเดินนำอาหารมาเสิร์ฟ “เรารีบกินกันเถอะค่ะฉันหิวมากแล้ว” “ผมเองก็เหมือนกัน” ระหว่างทานอาหารวาคิมก็แอบมองเมลดาเป็นระยะๆ เขาไม่เจอเธอมานานถึงหกปีแล้ว แต่ก็ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวจะสวยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าเขาเจอเธอครั้งแรกวันนี้ก็มั่นใจได้เลยว่าตนเองจะต้องเข้าไปจีบหญิงสาวอย่างแน่นอน วาคิมอยากจะถามเมลดาว่าเหตุผลที่เธอทิ้งเขาไปเมื่อหกปีก่อนคืออะไรกันแน่ เพราะเขามั่นใจว่าตนเองทำหน้าที่แฟนได้เป็นอย่างดี เขาตามใจหญิงสาวทุกอย่างและไม่เคยมองผู้หญิงอื่นระหว่างที่คบกับเมลดาเลย ชายหนุ่มยังไม่ปักใจเชื่อว่าเมลดาทิ้งเขาเพราะมาวิน เขาคิดว่าตนเองรู้จักเธอเป็นอย่างดีและไม่มีทางเลยที่เมลดาจะนอกใจ แต่มันก็มีอีกอีกข่าวลือหนึ่งที่วาคิมพอจะได้ยินมา ก็คือเมลดาท้องเธอเลยลาออกและหนีไปอยู่ต่างประเทศ และเด็กในท้องของเธอคือลูกของมาวินเนื่องจากมีคนเห็นทั้งสองคนที่คลินิกแห่งหนึ่งซึ่งมันก็ตรงกับช่วงที่เมลดากับเขาทะเลาะกันพอดี “คุณไม่กินเหรอวาคิมเอาแต่นั่งจ้องฉันแบบนี้เมื่อไหร่จะอิ่ม” “ขอโทษนะโมเดล ผมคิดอะไรเพลินไปหน่อย” วาคิมเริ่มทานอาหารอีกครั้ง ทั้งสองนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ จนกระทั่งอิ่มเขาก็มาส่งเธอที่ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า “ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวฉันนะวาคิม” “เราจะเจอกันอีกได้ไหมโมเดล” “ฉันบอกคุณไปแล้วนี่ว่าเราไม่ควรเจอกันน่าจะดีที่สุด ฉันขอตัวก่อน” เมลดาขับรถกลับมายังบ้านของตนเองโดยมีรถของวาคิมขับตามมาห่างๆ พอเธอเลี้ยวเข้าบ้านเขาก็จอดอยู่หน้าประตูรั้วอีกพักใหญ่ก่อนจะขับกลับ “โมเดลแม่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” คุณมยุรีกดรีโมทปิดทีวีเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้าน “หนูก็มีเรื่องจะคุยกับแม่เหมือนกันค่ะ” เมลดานั่งลงข้างมารดาบนโซฟากลางห้องรับแขก “ไปกินข้าวกับใครมา ถึงได้กลับค่ำแบบนี้” “พี่วินบอกแม่ว่าหนูไปกับใครเหรอคะ” “วินเขาบอกว่าหนูไปกับเพื่อนเก่า แต่แม่ว่าคงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาใช่ไหม” “หนูไปกินข้าวกับวาคิมมาค่ะแม่” “อะไรนะลูก” คุณมยุรีตกใจเพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะออกไปกับอดีตคนรัก “หนูก็แค่ไปกินข้าวด้วยกันเท่านั้นเองไม่มีอะไรหรอกค่ะ” “ทำไมถึงไปกับเขาได้ โมเดลคงไม่คิดจะกลับมาคบกับเขาหรอกนะ” เธอมองหน้าลูกสาวอย่างต้องการคำตอบเพราะวาคิมเคยทำให้เมลดาเสียใจมาแล้วครั้งหนึ่งเลยไม่อยากให้ลูกสาวไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีก “ไม่หรอกค่ะแม่” แล้วเมลดาก็เล่าถึงเหตุผลที่ตนเองไปทานข้าวกับวาคิม ให้กับมารดาฟังทั้งหมด “แม่ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเจอหนูอีก” “หนูก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะ เขาบอกด้วยนะคะว่าวันเผาคุณพ่อเขาก็มาที่วัดและเขาก็เคยเห็นบอสตันแล้วด้วยค่ะ” “เขาไม่สงสัยอะไรใช่ไหมลูก” “ไม่นะคะ เขาคิดว่าบอสตันคือลูกของพี่วินค่ะ เพราะหน้าบอสตันกับพี่วินก็คล้ายกันอยู่” “ไม่ใช่แค่วาคิมที่คิดแบบนั้น คนอื่นก็คิดเพราะบอสตันหน้าคล้ายมาวินมากจริงๆ” มยุรีก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ “ก็เขาเป็นลุงหลานกันนี่ค่ะแม่” “แต่แม่ว่าดีเหมือนกันนะที่วาคิมคิดแบบนั้น” “แต่เราจะให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะคะแม่หนูไม่อยากให้คนมองพี่วินผิดๆ แล้วถ้าวันหนึ่งพี่วินมีแฟนหนูก็กลัวว่าเรื่องของหนูกับบอสตันจะเป็นปัญหา” “เรื่องนี้แม่ก็คิดอยู่เหมือนกันนะ” “ในวันประชุมครั้งหน้า ทุกคนก็คงจะได้รู้ความจริงว่าหนูกับพี่วินคือพี่น้องกัน” เมลดามีท่าทางคิดหนักแต่เธอจะเอาเปรียบมาวินไปแบบนี้เรื่อยๆ ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ “ถึงวันนั้นวาคิมก็คงจะรู้ด้วย แล้วหนูจะรับมือกับเขายังไงล่ะโมเดล ถ้าเขามาถามว่าบอสตันคือลูกของเขาหรือเปล่า” “ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ หนูก็จะบอกความจริงกับเขาค่ะแม่ แต่เขาก็จะรู้แค่ความจริงเท่านั้นเขาจะไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับบอสตัน” “แม่กลัวว่าเขาจะมาอ้างสิทธิ์ของความเป็นพ่อ” “เขาจะเอาสิทธิ์ที่ไหนมาอ้างกันคะแม่ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ” เมลดากำลังจะบอกวาคิมว่าตนเองท้องแต่เอก็ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเสียก่อนหญิงสาวเลยเลือกที่จะเดินออกมาจากชีวิตเขา “แล้วถ้าเขาอยากจะตรวจดีเอ็นเอล่ะลูก” “ถ้าไม่ยอมเขาก็ไม่มีสิทธิ์ค่ะ” “แม่ว่าหนูพาบอสตันไปอยู่ที่อื่นดีไหม แม่กลัวเอาเขาจะเอาบอสตันไป” “ไม่ค่ะแม่ หนูไม่อยากหนีอีกแล้วค่ะ บางทีเราอาจจะกังวลเกินไปก็ได้นะคะแม่ ผู้ชายอย่างวาคิมเขาไม่เคยอยากลูกด้วยซ้ำ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD