คนที่อยู่ข้างๆ ในวันที่อ่อนแอ

1356 Words
ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบินบอสตันก็นั่งดูการ์ตูนสลับกับเล่นของเล่นที่เตรียมมาจากบ้าน บางครั้งก็มีแอร์โฮสเตสแวะมาทักทายเพราะความน่ารักและช่างพูดของเด็กชาย เมลดาจึงได้พักผ่อนบนเครื่องอย่างเต็มที่ พอลงจากเครื่องและรับกระเป๋าเดินทางเสร็จแล้วก็เดินออกมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าซึ่งตอนนี้มาวินมารอรับอยู่แล้ว “ลุงวินคร้าบ” บอสตันวิ่งเข้าหามาวินขณะที่ชายหนุ่มย่อตัวและอ้าแขนรับหลานชายคนเดียวที่เขารักเหมือนลูก “ว่าไงครับบอสตัน นั่งเครื่องบินสนุกไหม” “ครับลุงวิน พี่แอร์สวยและใจดีมากให้ของเล่นกับขนมผมเยอะเลยครับ” “ก็หลานชายของลุงมันหล่อเหมือนลุงนี่ครับสาวๆ ก็เลยขอบเป็นพิเศษ” “ครับพี่แอร์บอกว่าผมหล่อมาก” พอได้ดีบอสตันก็อวดคุณลุง “เป็นไงบ้านโมเดล” “ก็ดีค่ะ บอสตันไม่งอแงเลย” “แม่อย่าลืมสัญญานะครับ” “ไม่ลืมครับ แต่ขอให้แม่กับลุงวินจัดการงานของคุณตาให้เรียบร้อยแล้วจะพาไปซื้อนะครับ” “สัญญาอะไรกันไว้เหรอโมเดล” มาวินถามขณะช่วยหญิงสาวลากกระเป๋าเดินทางมาบริเวณทางออก “เลโก้ครับลุงวิน แม่บอกว่าจะซื้อเลโก้ให้ผมสองกล่องถ้าผมไม่งอแงตอนนั่งเครื่องบิน” “เดี๋ยวลุงซื้อเพิ่มให้อีกสองกล่องถ้าบอสตันเป็นเด็กดี” “จริงนะครับ” “จริงสิ ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น” เขาส่งกำปั้นมาตรงหน้าและบอสตันก็เอากำปั้นของตนเองชมกับผู้เป็นลุงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข มาวินพาเมลดาและบอสตันมาส่งที่บ้านของเธอซึ่งมารดาของเมลดาออกมายืนรออยู่นานแล้ว “คุณยายคร้าบ ผมคิดถึงคุณยายมากที่สุดเลย” บอสตันเข้ากอดอย่าประจบเพราะรู้ว่าคุณยายจะใจดีและมีของอร่อยให้ตนเองทานเสมอ “ยายก็คิดถึงบอสตันที่สุดเลย” “แล้วคุณตาล่ะครับ” คำถามของเด็กชายทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามคนมองหน้ากันก่อนที่คุณมยุรีจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น “คุณตาไปอยู่อีกที่หนึ่งครับ เย็นนี้ยายจะพาบอสตันไปหาคุณตา แต่ตอนนี้หนูไปนอนพักก่อนดีไหมให้พี่ฝ้ายพาไปนะครับ” “ครับคุณยาย” “ฝ้ายพาคุณหนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะ” “ค่ะคุณผู้หญิง” “พี่ฝ้าย เอากระเป๋าใบเล็กขึ้นไปด้วยนะคะ ในนั้นมีของใช้ของบอสตันอยู่ค่ะ” “ค่ะคุณโมเดล” บอสตันเดินเข้าไปในบ้านแล้วเมลดาก็ถอนหายใจ เธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับลูกชายเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง “บอสตันเป็นเด็กฉลาดพี่ว่าแกคงจะเข้าใจ” “โมเดลก็หวังอย่างนั้นค่ะพี่วิน” “วินจะเข้าไปในบ้านก่อนไหม” “ไม่ล่ะครับคุณน้าผมมีเรื่องต้องไปจัดการอีกนิดหน่อย” “ขอบใจมากนะวิน ถ้าไม่ได้วินน้าก็คงแย่” “ไม่เป็นไรครับคุณน้า ตอนเย็นผมจะมารับไปที่วัดนะครับ” “จ้ะ แล้วเย็นนี้แม่เขาจะมาด้วยไหม” คุณมยุรีถามถึงวนิดามารดาของมาวินซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของบริษัท “เย็นนี้ที่บริษัทจะเป็นเจ้าภาพครับคุณน้า แม่ก็เลยจะมาด้วย” “น้าฝากบอกแม่เขาด้วยนะว่าไม่ต้องรอมาพร้อมคนที่บริษัทหรอก อยากจะมาวันไหนก็มาได้เลย” เธอทำใจเรื่องที่สามีตนเองมีภรรยาน้อยได้นานแล้ว เพราะมารดาของมาวินเป็นภรรยาน้อยที่อยู่อย่างเจียมตัว ไม่เคยมาวุ่นวายที่บ้านใหญ่และแสดงตัวให้ใครรู้ วนิดามารดาของมาวินนั้นทำงานในบริษัทเดียวกับคุณสามารถสามีของเธอ แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าสองคนมีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะผ่านมานานจนเท่าอายุของมาวินแต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นความลับ “ขอบคุณครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” เมื่อมาวินขับรถออกไปแล้วเมลดาก็เดินตามมารดาเข้ามาในห้องรับแขก “หนูจะไปพักก่อนไหม” “หนูว่าจะโทรหาเดซี่กับอิ๊นซ์สักหน่อยสองคนนั้นบอกว่าเย็นนี้จะมาร่วมงานของคุณพ่อด้วย แม่ไปพักเถอะค่ะ” เมื่อมารดาเดินขึ้นไปบนชั้นสองแล้วเมลดาก็โทรหาอรอินทร์ก่อนเป็นคนแรก “โมเดลมาถึงเมืองไทยแล้วเหรอ” “เพิ่งมาถึงบ้านเมื่อกี้เอง อิ๊นซ์ทำงานอยู่หรือเปล่า” “ทำบ้างไม่ทำบ้าง” อรอินทร์ตอบด้วยเสียงเบื่อหน่ายเพราะเธอเพิ่งลาออกจากงานแล้วมาช่วยงานที่บ้านซึ่งเป็นตลาดสดและเธอมีหน้าที่เก็บเงินค่าเช่าแผงและค่าเช่าตึกแถวที่อยู่บริเวณเดียวกัน “ไปสมัครงานมาหรือยังล่ะ” “ไปมาหลายที่แล้ว แต่เราประสบการณ์น้อยก็เลยไม่ค่อยมีใครรับ” “มาทำกับบริษัทของคุณพ่อเราไหมล่ะ เราก็จะกลับมาทำเหมือนกัน” “น่าสนใจดีนะ แต่เราไม่อยากเป็นเด็กเส้น” “อย่าคิดมากเลย เอาไว้เจอกันค่อยคุยเรื่องนี้ก็ได้” “อือ แล้วโมเดลโทรหาเดซี่หรือยัง” “ยังเลย เราโทรหาอิ๊นซ์ก่อนไม่รู้เดซี่จะกำลังเลี้ยงลูกอยู่หรือเปล่า” “ไม่หรอกโมเดลเพราะตอนนี้น้องติณณาไปเนอสเซอร์รี่แล้ว” “เหรอ โตวัยเหมือนกันนะ” “ลูกของเดซี่กับโมเดลโตกันแล้วแต่เรายังไม่มีแฟนเลยสักคน” “ก็อยากจะเลือกมากทำไมล่ะ ใครมาจีบก็ปฏิเสธเขาไปหมด” “ก็เรายังไม่เจอคนที่ถูกใจสักทีนี่โมเดล แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะหมอดูบอกว่าปีนี้เราจะเจอเนื้อคู่” “แต่นี่มันจะสิ้นปีแล้วนะอิ๊นซ์” “อย่าพูดให้เราใจเสียสิโมเดล” อรอินทร์บ่นพลางหัวเราะ เมื่อวางสายจากอรอินทร์แล้วเมลดาก็โทรศัพท์ไปหาเดนิสาเพื่อนสนิทอีกคนที่รู้ความเป็นไปของเธอเป็นอย่างดี “เดซี่ยุ่งอยู่หรือเปล่า” “ไม่เลย โมเดลถึงนานหรือยัง” “เพิ่งมาถึงไม่นานเมื่อกี้โทรหาอิ๊นซ์แล้ว อิ๊นซ์บอกว่าเย็นนี้ เดซี่จะมาที่งานของคุณพ่อด้วย” “ใช่จ้ะ เย็นนี้อาหมอไม่มีตรวจนอกเวลาเราเลยให้อาหมอเลี้ยงลูกอยู่บ้าน” “ไม่รบกวนอาหมอใช่ไหมเดซี่” “ไม่หรอกอาหมอชอบเลี้ยงลูกและเลี้ยงเก่งกว่าเราอีกนะ” “น่าอิจฉาเดซี่นะที่มีสามีดีอย่างอาหมอ” “โมเดลเราขอโทษนะ” เดนิสารู้สึกผิดมากที่พูดเรื่องสามีของตนออกไปเพราะที่ผ่านมานั้นเมลดาเลี้ยงลูกตามลำพังมาตลอดหลายปี “ไม่เป็นไรหรอกน่าเดซี่ อย่าคิดมากไปเลยตอนนี้เราเข้มแข็งกว่าแต่ก่อนเยอะเลย” “เราดีใจที่โมเดลเข้มแข็งขึ้นนะและก็เสียใจเรื่องพ่อด้วย เย็นนี้เราจะเอาขนมที่ร้านคุณยายไปช่วยงานนะ” “ขอบใจจ้ะ แต่เดซี่ไม่น่าต้องลำบากเลยนะ” “ลำบากที่ไหนล่ะการเอาขนมไปเป็นเบรกในงานแบบนั้นก็เท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านด้วยนะ” “เดซี่มีความสุขกับร้านขนมใช่ไหม” “เราว่าการทำขนมทำให้เราเป็นคนใจเย็นขึ้นเยอะเลยนะโมเดล อีกอย่างถ้าจะออกไปทำงานข้างนอกอาหมอก็ไม่ยอม” “อาหมอกลัวหนุ่มๆ จะมาจีบเดซี่นั่นล่ะสิ” “แต่เราก็ว่าดีไปอย่างนะโมเดล เพราะตอนนี้คุณยายก็ยืนทำขนมไม่ค่อยไหวแล้ว เราเลยต้องช่วยน้าษามากขึ้น” ตั้งแต่เรียนจบเดนิสาก็แต่งงานและเป็นแม่บ้านให้กับสามีหญิงสาวจึงใช้เวลาว่างไปช่วยงานที่ร้านเบเกอรีของคุณยายและน้าสาวในทุกๆ วัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD