ไม่อยากเจอกันในสถานการณ์แบบนี้

1405 Words
งานสวดอภิธรรมศพของนักธุรกิจใหญ่อย่างคุณสามารถนักธุรกิจผลิตและส่งออกเม็ดพลาสติกรายใหญ่ของประเทศมีแขกร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลายคนจับจ้องที่ลูกสาวคนเดียวซึ่งมีข่าวลือหนาหูว่าตั้งครรภ์ตั้งแต่เรียนยังไม่จบและหนีไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อเมลดาเดินเข้ามากับมารดาและลูกชายคนในศาลาก็พากันมองด้วยความสนใจ เสียงซุบซิบนินทาดังมาเข้าหูอยู่เรื่อยๆ แต่หญิงสาวก็ไม่สนใจเพราะคิดแล้วว่าสักวันก็ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ “ไม่เป็นไรนะ อย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นเลย” อรอินทร์ จับมือเพื่อนไว้เพื่อเป็นการให้กำลังใจ “เรื่องที่เขาพูดมันก็คือความจริงนะอิ๊นซ์” “แต่มันผ่านมานานแล้วนะโมเดล” “แต่ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนความจริงมันก็คือความจริง ซึ่งเราคงไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้นอกจากทำใจยอมรับมันเท่านั่น” “โมเดลเข้มแข็งขึ้นมากจริงๆ เสียพ่อไปแล้ว พอกลับมายังเจอคำนินทาถ้าเป็นเราคงแย่แน่” เดนิสาจับมืออีกข้างของเมลดาเพื่อให้กำลังใจ “เราก็แย่นะเดซี่ แต่เราจะร้องไห้ให้ใครเห็นไม่ได้ เรามีทั้งแม่และลูกที่ต้องดูแล ถ้าเราจะอ่อนแออีกคนก็คงไม่ดีเท่าไหร่” ระหว่างที่เมลดากำลังคุยกับเพื่อนอยู่นั้นแต่แขกก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ โดยมีมาวินและมารดาของเธอคอยต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้าเพราะเมลดาไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไหร่ จึงได้แต่นั่งดูแลบอสตันอยู่ด้านในศาลาเท่านั้น “โมเดลกับพี่วินยังติดต่อกันอีกเหรอ” อรอินทร์เคยได้ข่าวมาบ้างว่าเพื่อนแอบคบกันแต่ตอนนั้นเมลดาก็ปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้คบกับรุ่นพี่หนุ่มคนนั้น “เราก็ติดต่อกันตลอดถ้าไม่มีพี่วินเราคงแย่” “เขาคบกับโมเดลนานแล้วเหรอ” เดนิสาถามเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย “เปล่าหรอกเดซี่ เรากับพี่วินไม่ได้คบกัน” “แต่ดูเขาสนิทสนมกับแม่ของโมเดลมากเลยนะแล้วยังจะคอยต้อนรับแขกอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าภาพอีก ถ้าเขาไม่คิดอะไรกับโมเดลเขาจะทำแบบนั้นทำไมล่ะ” “ไปกันใหญ่แล้วอิ๊นซ์” “เราก็พูดไปตามที่เห็นน่ะคนอื่นก็คงคิดไม่ต่างจากเรา” “โมเดลตอนเราไปเข้าห้องน้ำเราก็ได้ยินคนเขาพูดกันด้วยว่าพี่วินคือพ่อของน้องบอสตันเพราะทั้งสองคนหน้าตาดูคล้ายกันมากแล้วตอนที่พี่วินเขาก็ยังมาช่วยงานอีก” เดนิสาบอกถึงสิ่งที่ตนเองได้ยินมาให้เพื่อนรู้ “แล้วตอนนี้พี่วินก็เข้ามาช่วยงานคุณพ่อของโมเดลที่บริษัทด้วยเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” อรอินทร์ยังไม่หายสงสัยเธอ กำลังสับสนว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อของน้องบอสตัน “เราไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เลยเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่วิน แต่ถ้าเขาไม่พูดอิ๊นซ์กับเดซี่ก็ยังคงสงสัยเหมือนกับคนอื่น” “ถ้าโมเดลลำบากใจ ก็ไม่ต้องเล่าให้เราสองคนฟังก็ได้นะ” อรอินทร์ก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องลำบากใจถึงแม้ว่าตัวเองอยากจะรู้ความจริงมากแค่ไหนก็ตาม “เรื่องที่เราจะบอกมันเป็นความลับเดซี่กับอิ๊นซ์ห้ามบอกใครนะ” อรอินทร์กับเดนิสาพยักหน้าพร้อมกันทันทีด้วยความอยากรู้ “เรากับพี่วินเป็นพี่น้องกัน” “อะไรนะ /อะไรนะ” “เบาๆ สิ” “ก็คนมันตกใจนี่ โมเดลเสียใจจนเพ้อไปหรือกำลังสับสนอะไรหรือเปล่า” เดนิสามมองหน้าเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่โมเดล” อรอินทร์ตั้งสติได้ก็ถามต่อ เมลดาเล่าให้เพื่อนฟังว่าตนเองกับมาวินมีพ่อคนเดียวกัน แต่ที่ต้องปิดบังคนอื่นก็เพราะมารดาของมาวินเป็นภรรยาน้อยจึงไม่อยากให้คนอื่นรู้เพราะกลัวมาวินจะถูกคนอื่นมองไม่ดี “แต่พี่วินกับแม่ของโมเดลก็ดูสนิทกับพี่วินมากนะ” “พี่เขามาช่วยงานที่บริษัทตั้งแต่เรียนจบและคอยดูแลพ่อกับแม่ตอนที่เราไม่อยู่” “แบบนี้ไงคนอื่นเข้าใจผิด” “จริงๆ แม่ก็อยากบอกทุกคนนะว่าพี่วินคือลูกของพ่ออีกคน” “น่าสงสารเหมือนกันนะ ที่เขาช่วยงานคนอื่นก็คิดว่าเพราะทำเพื่อเจ้านายทั้งที่ตนเองกำลังทำหน้าที่ลูก” เดนิสาพูดอย่างเห็นใจ “แต่เขาก็ดูเข้มแข็งมากเหมือนกันนะ ต้องคอยต้อนรับแขกในฐานะลูกจ้างทั้งที่ตัวเองก็คือลูกแท้ๆ” แท้อรอินทร์รู้สึกเห็นใจพี่ชายของเพื่อนมาก “พี่วินคือพี่ชายที่ดีมาก ถ้าเราไม่มีพี่วินก็คงแย่ เราไม่เคยเห็นว่าพี่วินเป็นคนอื่นเลย เรารู้สึกว่าพี่วินเหมือนลูกชายอีกคนของแม่” “แล้วแม่เขาล่ะมาร่วมงานหรือเปล่า” “คนนั้นไง ที่นั่งอยู่ซ้ายสุดของโต๊ะ” “ดูเขาเศร้าเหมือนกันนะ” เดนิสามองหญิงวัยกลางคนที่มีนัยน์ตาเศร้าแล้วก็รู้สึกเห็นใจ “ทุกคนเศร้ามากเพราะพ่อจากไปอย่างกะทันหันแต่หมอบอกว่าพ่อไม่ได้ทรมานอะไรเลยท่านเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ” เมลดาเล่าให้เพื่อนฟังด้วยเสียงที่สั่นเครือ อรอินทร์กับเดนิสาต้องช่วยกันปลอบอีกพักใหญ่กว่าเมลดาจะกลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม “แม่ครับ แม่ครับผมอยากไปเข้าห้องน้ำ” บอสตันที่นั่งดูการ์ตูนอยู่สะกิดมารดาและกระซิบเบาๆ เพราะตกลงกันมาจากที่บ้านแล้วว่าการมาร่วมงานคืนนี้จะต้องนั่งให้เรียบร้อยที่สุดเพราะคุณตาจะคอยดูอยู่ไกลๆ “ได้สิ บอสตันเก็บแท็บเล็ตและถอดหูฟังออกก่อนนะ แล้วแม่จะพาไปเข้าห้องน้ำ” เมื่อลูกชายกำลังเก็บของเมลดาก็หันมาบอกเพื่อนทั้งสองคนว่าตนเองจะพาบอสตันไปเข้าห้องน้ำ “ให้เราไปเป็นเพื่อนไหมโมเดล” “ไม่เป็นไรหรอกเดซี่ ใกล้แค่นี้เอง” เมลดาพาบอสตันมายังห้องน้ำซึ่งตอนนี้มีคนต่อคิวอยู่ก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งคน “แม่ครับ ผมโตแล้ว ผมเข้าห้องน้ำเองได้” “หนูต่อคิวแล้วเข้าห้องน้ำคนเดียวได้จริงๆ ใช่ไหมบอสตัน” “ครับแม่” “ถ้ายังงั้นแม่ออกไปยืนรอข้างนอกนะครับ เสร็จแล้วหนูก็ล้างมือให้เรียบร้อยแล้วเดินตามออกไปได้ไหม แม่จะรออยู่ข้างนอก” “ได้ครับ” เมลดาออกมายืนรอลูกชายด้านนอก ระหว่างนั้นก็มองไปทั่วบริเวณวัดซึ่งนอกจากจะมีงานสวดอภิธรรมศพของบิดาของตนเองศาลาอีกด้านก็มีงานของคนอื่นด้วย เมื่อมองไปเรื่อยๆ สายตาของเธอก็สะดุดกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับคนรักเก่าของเธอมาก แล้วพอผู้ชายคนนั้นหันกลับมาหญิงสาวก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเขาตั้งแต่วันแรกที่กลับมาถึงไทย แต่ก็นับว่ายังโชคดีอยู่เพราะบริเวณที่เมลดายืนอยู่นั้นไม่ได้สว่างมาก เธอรีบเดินไปหน้าห้องน้ำแล้วเรียกลูกชายเพราะอยากจะรีบออกไปจากจุดนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากกลัวว่าเขาอาจจะมาใช้ห้องน้ำซึ่งมีแค่จุดที่เธอยืนอยู่จุดเดียวเท่านั้น “บอสตันเสร็จหรือยังลูก” “เสร็จแล้วครับแม่ ผมกำลังล้างมืออยู่ครับ” พอลูกชายเดินออกมาจากห้องน้ำเมลดาก็รีบพากลับไปยังศาลาที่จัดงานศพอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินมาถึงพระก็เริ่มสวดพอดีทำให้เมลดายังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้อรอินทร์กับเดนิสาฟังว่าตนเองไปถึงกับใครมา หลังจากพระสวดอภิธรรมเสร็จเธอกับเพื่อนก็ออกไปยืนส่งแขกที่กำลังจะกลับโดยไม่ลืมที่จะมอบขนมและน้ำผลไม้ให้แขกติดมือกลับบ้านไปด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD