เจ็บ ปวดหน่วง เมื่อยตัว คือความรู้สึกของเธอในตอนนี้ ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่สู้กับแสงไฟที่เปิดเอาไว้ข้างหัวเตียงตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งสองคนหลับใหลกันไปด้วยความเหนื่อยล้าจนไม่มีใครเอื้อมมือมาปิดโคมไฟ
เธอลุกขึ้นพลางมองไปยังนาฬิกาที่ติดไว้บนผนังห้องที่บอกเวลา 11.00 น.
อ่า… นี่เธอหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ วันนี้เป็นวันเสาร์ เธอจึงไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนัก สายตาเหลือบมองไปยังเตียงนอนข้างกันก็พบว่ามีใครบางคนนอนคว่ำหน้าอยู่ โดยที่สอดฝ่ามือลงไปใต้หมอน
ใบหน้าหล่อดูผ่อนคลายอารมณ์หลังจากที่เมื่อคืนนี้ใบหน้าเขาดูจริงจัง เหยเก ในยามที่เคลื่อนไหวบนตัวเธออย่างบ้าคลั่ง เส้นผมเขาที่ไม่เป็นทรงก็ยิ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้น
เขาแค่นอนเฉย ๆ แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเซ็กซี่จากเขา อีกทั้งผ้าห่มที่คลุมปิดสะโพกเขาเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ก็ยิ่งทำให้เธอเขิน...
ไม่รู้ว่าเขินอะไร แต่เธอโคตรจะเขินเลย ต่อให้มีประสบการณ์เซ็กซ์ที่เผ็ดร้อนยิ่งกว่าเครื่องแกงใต้ แต่ใครมันจะไม่เขินในเวลาปกติแบบนี้
เธอรีบเบือนหน้าหนีภาพยั่วยวนของเขาตรงหน้า ก่อนจะตวัดเรียวขาสวยลงบนพื้นห้องที่เย็นชืด และในทันทีที่ปลายเท้าแตะลงบนพื้นห้อง ความเจ็บแปล๊บก็แล่นขึ้นมายังใจกลางสาวจนต้องเบ้หน้าอย่างไม่อาจข่มกลั้น
"ซี้ด~" อาการสูดปากมาพร้อมกับความตึงแน่นบริเวณซอกเนื้อของเธอ เธอเม้มปากพลางก้มหน้าลงไปมองมัน ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะมันอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกตอนแตะปลายนิ้วลงไปมันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด เธออาจจะแค่ขยับตัวมากไป
ต่อให้เขารุนแรงและป่าเถื่อนมากแค่ไหน แต่ก็ถือว่าเขาปรานีเธอมากแล้ว เขาทำให้เธอประทับใจในเซ็กซ์ของเขาด้วยซ้ำ มันไม่ได้น่ากลัวหรือเจ็บจนเธอขยาดเรื่องพวกนี้
แต่ระหว่างเขากับเธอมันเป็นแค่การนัดมีเซ็กซ์กันเพียงครั้งเดียวทางแอปพลิเคชัน ซึ่งเธอเพิ่งรู้ว่าเขาไม่ตรงปกอย่างที่คิด
ตอนแรกเธอคิดว่าไปผิดโต๊ะด้วยซ้ำ...
กึก !
ความรู้สึกแปลก ๆ จากความคิด ทำให้เธอชะงักตัวไปเล็กน้อย
"เราไปถูกโต๊ะหรือเปล่าวะ" คนตัวเล็กพึมพำเสียงแผ่ว ก่อนจะหันหน้าไปมองคนที่นอนหลับอย่างสบาย ก่อนเลือกที่จะส่ายหน้าเบา ๆ อย่างน้อยเธอก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์อย่างว่า จะใครก็ช่างเถอะ และเขากับเธอคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
เธอส่ายหน้าอีกครั้งก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน เธอก้าวออกจากเตียงได้เพียงสองก้าวปลายเท้ากลับเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่าง เมื่อก้มหน้าลงไปดู หัวคิ้วเธอกลับขมวดเข้าหากัน
ความเย็นชืดจากสิ่งที่เธอเหยียบทำเธอขนลุกวาบไปทั้งตัว จนต้องเอื้อมมือลงไปหยิบมันขึ้นมาดูให้เต็มตา สิ่งที่เหยียบคือสร้อยคอซึ่งมีจี้รูปเกียร์ห้อยอยู่
"สร้อยเกียร์ ? มาได้ไง" เธอพึมพำเสียงแผ่ว
สร้อยเกียร์มันเป็นของคนที่เรียนคณะวิศวะไม่ใช่เหรอ แล้วมันมาตกอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร
เธอได้แต่คิดไม่ตก แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว ในตอนที่เขายกเธออุ้มขึ้นเหมือนกับมือของเธอไปดึงรั้งต้นคอเขาเพราะตกใจกับการจู่โจม และมือเธอก็เผลอกระชากอะไรบางอย่างจากคอเขา
หรือว่าสิ่งที่เธอดึงเป็นสร้อยคอของเขาอย่างนั้นเหรอ อีกทั้งยังเป็นสร้อยเกียร์ด้วย...
ฉิบหายแล้วไง ! เธอไปผิดโต๊ะจริง ๆ ใช่ไหม นี่เธอเผลอไปนอนกับแฟนชาวบ้านหรือเปล่า !!
ในขณะที่กำลังกระวนกระวายกับการกระทำที่ไม่ระวังของตัวเอง เธอแทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรใด ๆ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคนที่เคยนอนหลับอยู่บนเตียงในตอนนี้เขากำลังตื่นและลุกขึ้น
สายตาคู่คมทอดมองคนตัวเล็กที่ยังคงมองอะไรบางอย่างโดยที่ไม่ระวังตัว ว่าในตอนนี้เธอกำลังยืนเปลือยเปล่าอยู่กลางห้อง แผ่นหลังขาวเนียนนั้นมีรอยสีแดงจ้ำหลายจุดตั้งแต่หลังคอ ไล่ต่ำลงมายังบั้นท้ายอวบอั๋นนั้น
เขาขมวดคิ้วมุ่นได้แต่คิดว่าเธอมีแรงยืนด้วยเหรอ ? หลังจากที่เขากระหน่ำบทรักไปเสียขนาดนั้น... อีกทั้งเมื่อคืนยังเป็นครั้งแรกของเธอด้วยซ้ำ
แกร่งใช้ได้นี่นา...
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังมองเธออยู่ ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คนที่ยืนอยู่กลางห้องอย่างเงียบเชียบ
"ดูอะไร..." น้ำเสียงเนือย ๆ ฉบับคนเพิ่งตื่นนอนเอ่ยกระซิบชิดใบหู ความร้อนผ่าวและการปรากฏตัวที่เกินคาดของเขาทำคนตัวเล็กสะดุ้งตัวโยน รีบหันกลับมามองเขา
กึก !
แต่ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่หันตัวไปหาเขา เพราะในตอนนี้เนื้อตัวของเธอยังคงเปลือยเปล่าไร้สิ่งปิดบังแม้แต่ชิ้นเดียว
"อ๊ะ ! นาย..." เธออ้าปากค้าง เมื่อเห็นสภาพของเขาที่ยืนอยู่แทบชิดกัน สายตาของเธอเผลอก้มลงต่ำอย่างไม่ทันระวัง เพราะไม่อยากสบตากับเขา แต่นั่นคือความคิดที่แย่มาก...
หน้าเธอแดงก่ำไปหมด เมื่อสายตาหลุดโฟกัสไปยังกลางกายของเขา คนตรงหน้าเธอตอนนี้ก็ไร้ซึ่งเสื้อผ้าปกปิด แต่เขาก็ยังกล้าที่จะเดินแบบโทง ๆ ตัวเปล่าเข้ามาหาเธอ
คนตัวเล็กเม้มปากแน่น ไม่คิดว่าช่วงตื่นนอนผู้ชายจะแข็งตัวได้มากขนาดนี้...
จากที่ก้มหน้าอยู่ทำให้เธอต้องละล่ำละลักรีบเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าของร่างสูง เหมือนโลกจะหยุดหมุนไปชั่วขณะอีกครั้ง เมื่อสายตาของทั้งคู่สบกัน เขามองเธอนิ่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไร มันยิ่งทำให้เธอประหม่าไปหมด
"..." สายตาเขาผละจากดวงตาของเธอ ก่อนจะทอดต่ำลงไป...
ในตอนนั้นที่เธอได้สติกลับมาอีกครั้งก็รีบถอยหลังออกห่างจากเขา เพราะยืนชิดกันเกินไป อีกทั้งยังเปลือยเปล่าทั้งคู่ เธอไม่อยากให้อารมณ์ที่ดับมอดอยู่ในร่างกายเกิดปะทุขึ้นอีกครั้ง
แต่ยิ่งถอยห่าง ร่างกำยำกลับก้าวเดินตามมาอย่างช้า ๆ ราวกับต้อนสัตว์ให้จนมุม
"อย่ามองนะ ถอยออกไปก่อน" เธอยกมือขึ้นมาปกปิดเนินอกตัวเอง แต่มันแทบจะไม่ช่วยอะไร ยิ่งปิดก็ยิ่งทำให้เขาตาลุกวาว
จวบจนแผ่นหลังเธอสัมผัสได้ถึงผนังที่เย็นเยียบ ไม่มีที่ถอยอีกต่อไป และร่างแกร่งก็เดินเข้ามาจนชิด ก่อนจะทาบทับฝ่ามือลงบนผนังใกล้กับใบหน้าของเธอ
"อาย ?" เขาเอียงคอถามด้วยใบหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ ก่อนจะหลุบสายตาก้มมองต่ำไปตามผิวขาว ๆ ของเธอ ซึ่งในตอนนี้มีทั้งรอยแดงเป็นจ้ำ และรอยฝ่ามือเขาประทับอยู่บนผิวกาย
เขาไม่ได้รุนแรง (?) อะไรมากนัก แต่เธอผิวบอบบางต่างหาก
"อือ..." คนตัวเล็กพยักหน้า ก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตานิ่งเรียบจากเขา
เธอได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากริมฝีปากเขาเบา ๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ใช้แก้มดันแก้มให้เธอหันหน้ากลับมามองเขาอย่างอุกอาจ
นี่เขาใช้แก้มตัวเองเพื่อให้เธอหันไปมองเขาอีกครั้ง แทนที่จะใช้มืออย่างนั้นเหรอ...
"อายอะไร เมื่อคืนทำมากกว่ามองอีก" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเรื่องที่เขาพูดเป็นเพียงการพูดเรื่องธรรมดาทั่วไปอย่างไรอย่างนั้น
เขาไม่อายเลยสินะ ทั้งที่เธอเขินเขาจะตายอยู่แล้ว
"อย่ามองได้ไหม" เธอบ่นอุบอิบ เพราะต่อให้ไม่สบตาเขาเธอก็รู้ว่าเขามองเธออยู่
ฝ่ามือเล็กกำสร้อยคอเกียร์เขาแน่นจนขึ้นข้อขาวไปหมด และเขาคงสังเกตเห็น
"กำอะไร..."
เขาเอ่ยในตอนที่หลุบตาต่ำไปยังมือเล็ก เธอเองก็มองตามสายตาของเขาจนลืมไปเสียสนิทว่ากำลังกำอะไรอยู่ในมือ
"อันนี้ของนายงั้นเหรอ" เธอรีบชูของที่อยู่ในมือให้คนตรงหน้า สายตาราบเรียบนั้นกวาดตามองสร้อยที่อยู่ในมือเธอ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเบา ๆ
"อืม อยากได้ ?"
ใบหน้าหล่อนั้นเอียงคอถามเธออย่างคนกวนประสาทกัน จนเธอต้องรีบปฏิเสธทันที เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอขโมยของเขา
"เปล่า ๆ ไม่ได้อยากได้ แต่สร้อยมันขาดไปแล้ว" คนตัวเล็กเอ่ยบอกเขาเสียงอุบอิบ เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำมันขาด แต่เพราะเธอตกใจการจู่โจมของเขาเมื่อคืน ทำให้มือเผลอไปกระชากสร้อยคอเขาจนได้ "ขอโทษ พอดีเผลอดึงมัน ไม่ได้ตั้งใจ"
ริมฝีปากสีชมพูเม้มเข้าหากัน การกระทำนี้อยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา
"..."
ร่างกำยำตรงหน้านิ่งเงียบไป เขาทำแค่เพียงมองดูเธอเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น ยิ่งเขาไม่พูดอะไรออกมาเธอก็ยิ่งประหม่า หลักฐานอยู่คามือเสียขนาดนี้คงต้องรับผิดชอบสร้อยคอที่เธอทำมันขาดใช่ไหม
"ให้จ่ายเงินไหมคะ" เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา แต่เขากลับหลุบตามองสร้อยคอที่อยู่ในมือเธอเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนจะลากผ่านสายตาขึ้นมาจดจ่อกับใบหน้าเธออีกครั้ง
เขาหลุบตามองริมฝีปากของเธอ แล้วพึมพำออกมาเสียงแผ่ว
"ไม่รับเงิน"
ไม่รับเงินงั้นเหรอ... เธอควรเอามันไปซ่อมให้เขาสินะ
"งั้นเดี๋ยวซ่อมให้ก็ได้..." แต่ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยจบประโยคด้วยซ้ำ ฝ่ามือของเขากลับแตะลงบนบั้นเอวของเธอจนคนตัวเล็กสะดุ้ง "อ๊ะ ! นะ นาย !"
เธอเม้มปากแน่น ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด แต่เมื่อสบตากับเขาก็พบกับใบหน้านิ่งเรียบเท่านั้น
นี่เขากล้าแตะต้องตัวเธอด้วยสายตาราบเรียบราวกับคนที่ไม่คิดอะไรได้ด้วยเหรอ
หรือเขาจะเก็บอารมณ์เก่ง จนเธอไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของคนตัวสูงตรงหน้าได้เลย เขาทำหน้านิ่ง แต่นิ้วร้อน ๆ ของเขากลับไล้วนอยู่บนเอวของเธอจนประสาทสัมผัสของเธอต่างพากันร้อนรุ่มยิ่งกว่าโดนไฟสุม
"ไม่รู้เหรอ ว่าสร้อยมันสำคัญกับคนที่เรียนวิศวะ..." เขาก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างใบหู จงใจพ่นลมหายใจอุ่นร้อนลงมาจนเธอขนลุกซู่ไปหมด
ฝ่ามือเธอยกขึ้นแตะลงบนหน้าอกที่เปลือยเปล่าของเขาก่อนจะดันคนตัวโตออก แต่แรงที่มีอันน้อยนิดจะไปต้านกำแพงสูงใหญ่แบบเขาได้อย่างไร ยิ่งดันเขาออก ร่างแกร่งกลับยิ่งขยับตัวเข้าหา จนความแข็งแกร่งกลางกายเขาแตะโดนต้นขาของเธอ...
"ขะ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ อ๊ะ !" เธอสะดุ้งเมื่อปลายนิ้วของเขาเลื่อนต่ำลงมายังกลางกายสาว เขาแตะปลายนิ้วลงบนช่องทางรักของเธอ
แต่เมื่อเขาเห็นว่าเธอสะดุ้ง ก็กลับชะงักปลายนิ้วไป
"เจ็บเหรอ" เขาผละใบหน้าออกก่อนจะสบตาเธอ
"เปล่า..."
ร่างแบบบางส่ายหน้าให้เขา เธอไม่ได้เจ็บแล้ว แค่ตกใจที่เขาจับมันนั่นแหละ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น มุมปากเขากลับกระตุกยิ้มขึ้นมา แล้วลงแรงเข้าหาเธอตรงจุดนั้นอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ จนเธอเบ้หน้าเพราะความเสียดเสียวตรงจุดนั้น
"ฉันจับตรงนี้เจ็บหรือเปล่า"