“นี่ตัวจะเอาจริงเหรอแก้ว”
ทัศนัยถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เพื่อนสาวข้างบ้าน ที่เขาพอจะรู้อะไรดีๆ อยู่บ้างเกี่ยวกับเจ้าหล่อน ซึ่งตอนนี้หล่อนได้บอกกล่าวหรืออันที่จริงคือไหว้วานให้เขาทำนั่นแหละ และสิ่งนั้นทำให้ชายหนุ่มแม้จะเห็นด้วยแต่ก็อดถามไม่ได้
“ก็จริงน่ะสิแทค นี่บอกตัวเสร็จเรากะว่าจะไปขอคุณย่าด้วยนะ คิดว่าท่านคงจะอนุญาตแหละ”
การะบุหนิงยืนยัน ส่ายหน้าน้อยๆ อย่างระอากับท่าทางตื่นตกใจของเพื่อนสนิท และที่สำคัญยังมีบ้านอยู่ข้างกันอีกด้วย
ทัศนัย เป็นลูกชายของเศรษฐีข้างบ้านพีระนันท์ รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ และได้เรียนที่คณะเดียวกันเมื่อเรียนที่มหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดัง ทัศนัยรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับการะบุหนิงดีทุกอย่าง และไม่คิดรังเกียจที่หญิงสาวเป็นลูกคนรับใช้ ซ้ำบางครั้งยังเคยปกป้องหล่อนเสมอในยามที่ถูกกาสะลองรังแก
ชายหนุ่มมักบ่นเสมอเวลาที่เพื่อนสาวยอมลงให้สองแม่ลูกคู่นั้น และกาสะลองก็มักด่าว่าทัศนัยว่าตาต่ำที่มาคลุกคลีกับลูกคนรับใช้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มสะเทือน และผู้ใหญ่ซึ่งก็คือบิดามารดาของเขาไม่คิดห้ามปรามให้เขาเลิกคบกับการะบุหนิงอีกด้วย ทั้งยังออกปากว่าการะบุหนิงน่าสงสารเสียด้วยซ้ำไป
“แล้วตัวมั่นใจได้ยังไงว่าคุณย่าจะอนุญาต”
ทัศนัยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก็รู้กันอยู่ว่าการะบุหนิงถูกกีดกันทุกอย่าง นอกจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยน้อยครั้งนักที่หญิงสาวจะได้ออกไปไหน คุณหญิงการะเกดสั่งห้ามลูกติดสามีออกนอกบ้านจนแทบจะกลายเป็นกักบริเวณ คล้ายกับว่ากลัวว่าการะบุหนิงจะไปป่าวประกาศว่าเจ้าหล่อนคือลูกสาวของตระกูลพีระนันท์แทนที่กาสะลองเสียอย่างนั้น
และมันน่าเจ็บใจตรงที่เพื่อนของเขายอมทำตามนี่แหละ!
“อย่ามาถามเลยน่ะแทค ตัวน่าจะรู้ดีนะว่าทำไมคุณย่าถึงอนุญาต”
“แล้วเราต้องรู้อะไรล่ะดอกแก้ว?”
ชายหนุ่มถามอย่างงุนงง
“ก็ที่บ้านพีระนันท์กำลังจะถูกยึดไง พีระนันท์ล้มละลายแล้วนะ
แทค” ตอนท้ายหญิงสาวพูดเสียงเบาลง ขณะที่ทัศนัยเมื่อได้ยินถึงกับทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่จริงน่า...พีระนันท์นี่นะ” เขาถามย้ำ อันที่จริงทัศนัยเคยได้ยินบิดาและพี่ชายซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่เปรยๆ เรื่องนี้เหมือนกันแต่เขาไม่ได้สนใจมากนัก ซ้ำยังคิดไปว่าพีระนันท์อาจแค่ขาดสภาพคล่องทางการเงินเหมือนหลายๆ บริษัทเพราะพิษเศรษฐกิจเท่านั้น ใครจะคิดว่าตระกูลใหญ่ ร่ำรวยมหาศาลเช่นนี้จะล้มละลาย!
“ก็พีระนันท์นี่แหละแทค”
การะบุหนิงยืนยัน ในน้ำเสียงของหล่อนไม่มีความยินดียินร้ายกับข่าวนี้เลยสักนิด หล่อนไม่เคยแยแสในสมบัติของพีระนันท์พอๆ กับที่อยากจะไปพ้นๆ จากบ้านที่มีแต่ความขมขื่นหลังนี้ ซึ่งมีคนในบ้านนี้ไม่กี่คนที่หล่อนรู้สึกรักและห่วงใยอย่างแท้จริง
“งั้นแก้วมาทำงานที่บริษัทเราหรือเปล่า เดี๋ยวฝากพี่ทีมให้” ชายหนุ่มเสนอ และพี่ทีมหรือทศวรรษก็เป็นพี่ชายของเขา อายุมากกว่าทัศนัยหกเจ็ดปี และดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหาร ช่วยเหลือบิดาของเขาทำงานอยู่ในขณะนี้
“จะดีเหรอ...เราไม่อยากถูกด่าว่าเป็นเด็กเส้น แต่เราก็อยากทำงานเร็วๆ เหมือนกัน”
หญิงสาวเปรยออกมา รู้สึกสองจิตสองใจ
“ก็ดีสิแก้ว เด็กจบใหม่หางานยากจะตาย” ทัศนัยยุให้เพื่อนสาวรับข้อเสนอ
“งั้น...”
ทว่ายังไม่ทันที่การะบุหนิงจะได้ตอบอะไรทัศนัย เสียงของบัว...สาวใช้วัยยี่สิบปลายๆ ก็เดินเข้ามาหาหล่อนด้วยทีท่ากระด้างกระเดื่อง บัวถือตัวว่าตนเองเป็นต้นห้องคนสนิทของคุณหญิงการะเกดและพลอยเกลียดชังการะบุหนิงไปด้วยเพื่อเอาใจนาย
“คุณย่าท่านเรียกให้ไปพบ”
การะบุหนิงถอนใจกับท่าทีของผู้สูงวัยกว่า หล่อนหันไปมองทัศนัย
ที่ได้แต่ขึงตามองบัวไม่ชอบใจนัก
“เดี๋ยวเรามานะแทค เรื่องนี้คงคุยกันอีกทีแล้วกันนะ”
“โอเคแก้ว มีอะไรก็เรียกได้นะ”
“ขอบใจจ้ะ”
บัวเห็นแม่กาฝากเอาแต่อ้อยสร้อยลาทัศนัยก็ขวางตา อดไม่ได้จะเอ่ยเร่ง
“เร็วๆ สิ คุณท่านรออยู่”
พูดจบเจ้าหล่อนก็เดินนำไปทันที การะบุหนิงจึงทำได้แต่ถอนหายใจยาวแล้วค่อยๆ ก้าวตามไป
‘ไม่รู้ว่าคุณย่าเรียกพบเรื่องอะไรนะ...สงสัยเป็นเรื่องเดียวกันเสียก็ไม่รู้’
การะบุหนิงได้แต่ครุ่นคิดในใจ