หลังจากเสร็จสิ้นอาหารมื้อเย็นและเขาก็ถูกแมทธิวจับให้นั่งโต๊ะเพื่อพิจารณางานจนเสร็จเรียบร้อยล่วงเลยเข้าสู่เวลาสี่ทุ่มตามเวลาประเทศไทย คีธจึงมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง
ว่าที่นายใหญ่แห่งฟีนิกส์ที่บัดนี้ทั้งร่างมีเพียงเสื้อคลุมขนหนูสีขาวตัวเดียว เผยให้เห็นแผงอกแกร่งกำลังนั่งเอกเขนกด้วยท่วงท่าสบายบนโซฟาตัวใหญ่ ขณะที่มือก็ถือโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กราคาแพงของตนเองแนบชิดกับใบหู
“ว่าไง โทรมาหาฉันนี่มีธุระอะไรโธมัส” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทที่บอกให้โทรกลับตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วแต่เขาก็ทอดเวลามาจนถึงเวลานี้
“กว่าแกจะโทรมาได้ไอ้คีธ!” ปลายสายโวยวายลั่น
คีธหัวเราะ “ก็ติดธุระ เอาน่า...นี่ก็โทรกลับมาแล้วไง” เขาทำเสียงราวกับจะง้อ
อีกฝ่ายสบถอีกนิดหน่อย แต่ก็ยอมบอกแต่โดยดีถึงธุระที่ติดต่อเข้ามา “ฉันว่าจะไปหาแกที่เมืองไทย”
“หืม?” คีธขมวดคิ้วอย่างสงสัย “มาทำไม ไหนแกบอกไม่ชอบเมืองร้อน” เขาถามกลับ
และ...เมืองไทยร้อนจะตาย เพื่อนเขามันจะทนไหวหรือ?
“ไม่มีอะไรทำ เบื่อทางนี้ อยากพักผ่อน” คำอ้างของอีกฝ่ายทำให้
คีธยิ้ม
“ไหนเคยบอกว่าเกลียดเอเชีย”
เขาถามราวกับจะดักคอ ก็ไอ้โธมัสใครจะเคยบังคับมันได้ คนอย่างมันรักแรงเกลียดแรงจะตาย จู่ๆ จะตามเขามาเมืองไทยมันชักจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล
“ไม่มีอะไรจริงๆ โว้ย แต่เบื่อที่นี่ เบื่อจะตายอยู่แล้ว”
“เออๆ จะยอมเชื่อแล้วกัน นี่แกจะมาคนเดียวหรือจะหนีบเอาไอ้ฌาคส์มาด้วย” คีธถามถึงเพื่อนสนิทอีกคน ฌาคส์ เมอริเนซ คนนี้ถือได้ว่าเป็นเจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริง ทั้งๆ ที่มาดของมันไม่ให้เลยสักนิดเดียว
จะว่าไปพวกเขาสามคนก็คบกันมายาวนานและแน่นแฟ้น ความ
สัมพันธ์คือเพื่อนตายที่พร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน เห็นจะเพราะเคยถูก
ไล่ล่าแล้วบังเอิญได้หนีตายด้วยกันหลายครั้งเข้ากระมัง ก็...ธุรกิจของตระกูล ทำให้พวกเขาพลอยมีศัตรูไปด้วยไม่น้อย
“มันคงยอมมาหรอก เห็นว่ากำลังคั่วดาราอยู่ แซะมาด้วยยาก”
คำตอบของโธมัสทำให้คีธยิ้ม ในบรรดาสามคนฌาคส์คือคนที่ดูเหมือนจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญมากที่สุด ผิดกับเขาและโธมัสที่ไม่สนใจผู้หญิงแต่ก็มิวายสลัดไม่หลุด
ในกรณีของเขาเอง คีธแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ผิดปกติ แต่ผู้หญิงสำหรับเขาน่ารำคาญแต่ไม่ได้รังเกียจ ผิดกับโธมัสที่จู่ๆ ก็เหมือนกับจะตัดผู้หญิงทั้งโลกทิ้งและดูเคียดแค้นชิงชังอย่างไรชอบกล...น่าจะมาพร้อมกับอาการเกลียดเอเชียของมันนั่นแหละ ดีที่มันไม่เกลียดเขาที่เป็นลูกครึ่งเอเชียเข้าไปด้วย คีธคิดอย่างขำขัน
“ถ้าจะมาเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน อย่าลืมล่ะ”
หนุ่มลูกครึ่งบอกเพื่อนสนิทของตนเอง ทำให้อีกฝ่ายได้แต่รับคำพร้อมกับวางสายไป
เมื่อวางสายจากเพื่อนสนิท ห้องพักทั้งห้องของคีธก็ตกเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มจึงเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ที่นั่นมีซองเอกสารสีน้ำตาลที่เขานำไปวางทิ้งไว้ก่อนเข้าไปอาบน้ำ ซองนี้แมทธิวเพิ่งส่งให้เขาอ่านก่อนแยกย้ายกันมาพักผ่อนนี่เอง ชายหนุ่มฉวยมันติดมือเดินตรงมาที่เตียงนอนใหญ่ขนาดคิงไซส์ ตวัดผ้าห่มขึ้นก่อนจะแทรกตัวลงไปนั่งกึ่งเอนตัวนอนบนเตียงกว้างนั้น
และสิ่งที่เห็นในตอนที่เปิดซองเอกสารขึ้นมาอ่านก็คือประวัติของผู้หญิงที่เขาหมายตาหล่อนเอาไว้
กาสะลอง พีระนันท์
จำได้ว่าเห็นหล่อนในงานเลี้ยงสักงานนี่แหละ แต่จำหน้าได้ไม่แม่นยำ จำได้แต่ว่าสวย เห็นแล้วสะดุดตา ประกอบกับที่เขามีแผนในใจจะสั่งสอนและประกาศให้พวกภัทรอนันต์รู้อยู่แล้วด้วยการกว้านซื้อหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ของพีระนันท์จนตัวเองกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่แทน ยิ่งพอมารู้ทีหลังว่าหล่อนคือพีระนันท์ก็นึกสนใจมากยิ่งขึ้นจนเร่งรัดดำเนินแผนการนี้
ชายหนุ่มมองสบตากับหญิงสาวใบหน้าสวยสะดุดตาในรูป เจ้าหล่อนเพิ่งจะเรียนจบหมาดๆ ดี...อย่างน้อยเขาคงไม่มีปัญหาพรากผู้เยาว์ คิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ไม่คิดอ่านประวัติอะไรของหล่อนต่อ ที่สั่งให้แมทธิวไปหาก็เพราะอยากดูรูปหล่อนให้ชัดๆ แค่นั้นแหละ ชายหนุ่มเหวี่ยงๆ เอกสารนั้นไปวางแหมะลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ปิดโคมไฟก่อนจะเลื่อนตัวลงนอนเพื่อหลับพักผ่อน
หวังว่าเขาจะได้ข่าวดีจากพวกพีระนันท์