หลังจากที่การะบุหนิงเดินออกมาจากเรือนหล่อนก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เดินดุ่มตรงไปยังหลังเรือนเล็ก มุมสงบอันเงียบเหงาและปลอดคนของหล่อน แล้วอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหล่อนอีกครั้ง หล่อนร้องไห้อยู่อย่างนั้นซบหน้าสะอื้นด้วยกริยาน้ำตาเช็ดหัวเข่าอย่างแท้จริง
นั่งอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ กว่าจะรู้สึกตัวอีกที หล่อนก็พบว่าท้องฟ้ามืดสนิทเสียแล้ว นี่สงสัยหล่อนคงนั่งอยู่อย่างนี้นานจนเผลอหลับไป หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่อาการเหน็บชาทำให้หล่อนได้แต่นั่งทุบขาตัวเองให้อาการเจ็บจี๊ดไปทั่วขานั้นหายเร็วๆ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปด้านหน้าเรือนเล็ก ซึ่งเมื่อไปถึงหล่อนก็เห็นเพื่อนสนิทนั่งรออยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่ด้วยทีท่ากระวนกระวาย
การะบุหนิงถอนใจยาว เอามือเช็ดๆ คราบน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองออกลวกๆ กันไม่ให้ทัศนัยเห็น แต่หล่อนคงกำจัดออกไม่หมดหรือที่จริงมันไม่มีทางทำได้ตั้งแต่แรกก็ไม่รู้ ทัศนัยจึงมองหล่อนด้วยสายตาสงสัย ขณะที่ลุกเดินมาหาหล่อนเอง
“เกิดอะไรขึ้นน่ะแก้ว ตัวร้องไห้ทำไม”
ทัศนัยถามเมื่อสังเกตร่องรอยบนใบหน้าของการะบุหนิงได้ ตอนนี้เขาและเพื่อนสนิทอยู่ใต้แสงไฟสว่างจึงเห็นสิ่งผิดปกติบนใบหน้าของการะบุหนิงได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปลายจมูกแดงก่ำ ดวงตาแดงช้ำ และไหนจะคราบน้ำตาอีกล่ะ
ชายหนุ่มถอนหายใจยาว นึกเดาถึงสาเหตุไปต่างๆ นานา และมันก็มีเกือบร้อยข้อสงสัยที่เป็นไปได้เสียด้วย!
“เราไม่อยากปิดบังตัวนะแทค แต่อย่าเพิ่งถามอะไรเราตอนนี้เลย”
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ เมื่อมีคนมาสะกิด น้ำตาหล่อนที่เหือดหายไปก็พานที่จะไหลรินอีกครั้ง
“ไม่ได้ดอกแก้ว บอกมาเลย ยายปีบรังแกอะไรเธอหรือเปล่า”
ทว่าคราวนี้ทัศนัยไม่ยอม ชายหนุ่มชักจะเดือดร้อนแทนเพื่อนสาวที่ตลอดมามักไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคนในครอบครัว
“ไม่ใช่นะแทค” การะบุหนิงปฏิเสธเสียงรัวเร็ว แต่นั่นกลับทำให้ทัศนัยหรี่ตามองคล้ายกับไม่อยากจะเชื่อ
“ถ้าไม่ใช่งั้นก็บอกมา!”
เขาสั่งเสียงเข้ม จับไหล่คนที่พยายามหันหน้าหนีเอาไว้มั่น คราวนี้การะบุหนิงน้ำตาไหลอีกครั้งอย่างระงับไม่อยู่พร้อมกับบอกเสียงสั่นเครือยอมตอบในที่สุด
“เราถูกสั่งให้แต่งงานแทค...เราต้องแต่งงานใช้หนี้ให้พีระนันท์!”
“ว่าไงนะ”
สองแขนที่ยึดจับบ่าเล็กร่วงตกลงมาแนบข้างลำตัวโดยที่ทัศนัยแทบไม่รู้ตัว ชายหนุ่มมองเพื่อนสนิทที่ยืนร้องไห้ด้วยสายตาสับสนกึ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงดอกแก้ว...”
ทัศนัยถามเสียงคล้ายคนอ่อนแรง สงสารคนที่ยืนร้องไห้ตรงหน้าก็สงสาร แต่ความมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกก็มีมากกว่าเช่นกัน
“เราก็ไม่รู้นะแทค...เราไม่รู้จริงๆ”
“แล้วตัวปฏิเสธไม่ได้เหรอ...ถ้าไม่อยากแต่ง”
คราวนี้การะบุหนิงส่ายหน้า “คุณย่าท่านขอมา ท่านไม่อยากเสียบ้านหลังนี้ไป”
“ดอกแก้ว...ตัวเสียสละแบบนี้แล้วได้อะไร คนบ้านนี้ไม่มีใครรักตัวเลย...ตัวก็รู้ดีนี่”
ทัศนัยถามอย่างไม่เข้าใจ...ความคิดของการะบุหนิงที่มีต่อคนในบ้านหลังนั้นทำให้เขาที่เป็นเพื่อนทั้งชีวิตก็ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมหล่อนจึงยอมลงให้ฝ่ายนั้นเสมอ จะว่าหล่อนไร้สิ้นหนทางไปก็ไม่อาจพูดได้แล้วใน
ตอนนี้ อย่างน้อยก็มีเขาคนหนึ่งล่ะที่พร้อมจะช่วยหล่อนหากหล่อนคิดจะดิ้นรนไปให้พ้นจากพวกพีระนันท์ แต่การะบุหนิงกลับไม่เคยยอมทำเช่นนั้น หล่อนปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาในเรื่องนี้เสมอมา
“แต่เราเห็นแก่ตัวทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกแทค คุณย่าท่านขอมา
แล้ว อีกอย่าง...เราได้สิ่งตอบแทนที่เราต้องการมาทั้งชีวิตด้วยนะ”
“อะไรล่ะ?” ทัศนัยถามเสียงสะบัดไม่รู้ตัว ขณะที่คนตอบกลับโพล่งขึ้นมาทันที
“อิสระไงแทค อิสระจากที่นี่ เมื่อเราแต่งงานจากไป อิสระจะเป็นของเราอย่างแท้จริง!”
แม้น้ำเสียงที่พูดจะสั่นเครือ แต่ประกายตาวาววับบนนัยน์ตายาวรีสวยดั่งตากวางก็เป็นประกายมุ่งมั่นจนทำให้ทัศนัยถึงกับพูดไม่ออก
รู้มานานแล้วว่าการะบุหนิงมีสภาพอึดอัดใจกับการเป็นอยู่ของหล่อน แต่ไม่คิดว่าหล่อนจะเป็นมากถึงขนาดยอมเช่นนี้
ยอม....ซื้ออิสรภาพด้วยการแต่งงาน...ชดใช้หนี้!