“คะคุณย่า?!”
การะบุหนิงอุทานเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำให้คุณหญิงกาหลงปรายตามองหล่อนตาดุ
“ฉันจะให้หล่อนแต่งงาน ทีนี้ได้ยินชัดหรือยัง” คุณหญิงวัยชราย้ำชัด เสียงดุดันกลบเกลื่อนคำสงสารในยามมองหน้าซีดๆ ของหลานชังของท่าน
“แต่...แต่งงานกับใครคะ แก้ว...แก้วขอปฏิเสธได้ไหมคะ”
การะบุหนิงพูดเกือบกึ่งเป็นอ้อนวอน หล่อนคลานเข้าไปเกาะขอคุณย่าอย่างขอความเมตตา
คุณหญิงชราตัวแข็งทื่อ และไม่ปรายตามองใบหน้าเรียวซีดเซียวของการะบุหนิง
“ฉันไม่ได้ให้ทางเลือกหล่อนนะดอกแก้ว คิดซะว่าแต่งงานตอบแทนบุญคุณฉันจะได้หรือเปล่า ช่วยแต่งงานตอบแทนฉันที...ฉันไม่อยากเสียบ้านพีระนันท์ไป” หญิงชราพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่าก็ยังแข็งอยู่ดีตามวิสัยเด็ดขาดของท่าน “ฉันไม่อยากเห็นพีระนันท์ล่มสลายก่อนที่ฉันจะตาย”
น้ำเสียงหญิงชราอ่อนระโหยอย่างที่การะบุหนิงไม่เคยได้ยินมาก่อน หล่อนเงยหน้ามองคุณหญิงกาหลงด้วยสายตาพยายามอ้อนวอนว่าอย่าส่งหล่อนไป
“แต่ว่า...คนที่เขาต้องการไม่ใช่แก้วนี่คะ เป็นคุณปีบนะคะเท่าที่แก้วทราบ”
หญิงสาวพยายามค้าน ทำให้หญิงชราพยักหน้ารับ
“ฉันรู้ แต่แม่เกดเขาไม่ยอมนี่ อีกอย่างฝ่ายนั้นก็เสนอแค่ว่าจะแต่งงานกับลูกสาวนายดิษย์ แต่ดันไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แม่เกดเขาเลยเล่นแง่ อยากให้หล่อนมีตัวต้นขึ้นมาไงล่ะทีนี้”
“คุณย่า...ไม่เอานะคะ แก้วไม่แต่ง”
“เห็นแก่ฉันเถอะนะ อย่างน้อยให้ฉันได้ตายในบ้านหลังนี้ก็ยังดี”
หญิงชรากล่อม และคราวนี้น้ำตาของการะบุหนิงก็ไหลรินไม่ขาดสาย หล่อนสะอื้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
ไม่เคย...ไม่เคยมีใครรักหล่อนเลย
หญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น ร้องไห้ให้กับตัวเอง ร้องไห้ให้กับอนาคตที่คิดไปเมื่อวานนี้ยังสดใส ทว่าวันนี้กลับมืดมนด้วยการแต่งงานกับใครที่หล่อนไม่รู้จักเขาเลย
การแต่งงานคราวนี้ก็เหมือนกับขายตัว...ขายศักดิ์ศรีความเป็นคนของตัวเองทั้งหมด!
การะบุหนิงสะอื้น...แต่เอาเถิด หล่อนจะยอม ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองในวันนี้ ยอมขายตัวเองในวันนี้ให้แก่คนที่หล่อนไม่รู้จัก
เพื่อคุณย่า...เพื่อค่านามสกุลพีระนันท์ที่ยิ่งใหญ่...และ...เพื่ออิสรภาพของตัวหล่อนเอง!
การะบุหนิงเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้า มองหน้าคุณย่าที่ดูแลหล่อนมาตลอดนับตั้งแต่แม่ตาย แม้จะรู้ว่าท่านไม่ไยดีหล่อนนักก็ตาม ดวงตาเรียวสวยดั่งนัยน์ตากวางที่ประจำสุกสกาวบัดนี้ยังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็มีแววตัดสินใจที่คุณหญิงกาหลงมองเห็นได้ชัดเจน
“ตกลงค่ะคุณย่า แก้วจะยอมทำเพื่อคุณย่า เพื่อพีระนันท์ แต่แก้วขอสัญญาจากคุณย่าเหมือนกันนะคะว่านับจากนี้แก้วขออิสระของแก้วคืน ไม่ว่าต่อไปนี้ชีวิตของแก้วจะเป็นอย่างไรแก้วจะไม่กลับมาบ้าน
พีระนันท์อีก!”
“ยายดอกแก้ว!”
หญิงชราอุทานกับสิ่งที่ได้ยิน ดวงหน้าเหี่ยวย่นซีดเผือดกับวาจาของหลานสาวใกล้ชิด
“ปล่อยแก้วไปเถอะนะคะ อย่าจองจำแก้วเหมือนทาส เหมือนนักโทษอีกเลย คุณย่าขา...ขอโทษที่แก้วเหมือนหลานอกตัญญู แต่แก้วสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมคุณย่าบ่อยๆ นะคะ”
ไม่มีคำพูดใดจากคุณหญิงกาหลง นอกจากมืออันเหี่ยวย่นที่ลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมยาวสลวยของหลานสาวคนโตผู้อาภัพคนนี้ที่กำลังร้องไห้ซบลงบนตักของท่าน
ย่าขอโทษนะ...ดอกแก้ว
…
“แม่คุณว่ายังไงบ้างคุณดิษย์”
คุณหญิงการะเกดถามทันทีที่เห็นสามีเดินขึ้นมาบนตึกใหญ่ กษิดิษย์มีสีหน้าหนักใจ แต่ก็พยักหน้าน้อยๆ รับเป็นการตกลง
“ดีจริงๆ” หล่อนยิ้มผ่องใส “นี่ฉันโทรให้ทนายสมชัยร่างสัญญาให้แล้วนะคะ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงคงเอามาส่ง แล้วพอได้สัญญาคุณกับฉันคงต้องไปเจรจาตกลงกับฝ่ายนั้น”
ได้ยินคำสั่งรวบรัดจากภรรยากษิดิษย์ก็ตกใจ
“มันไม่เร็วไปหน่อยหรือคุณหญิง”
“ไม่หรอก” คุณหญิงการะเกดปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ของอย่างนี้ต้องเร็วสิคะ พอเซ็นสัญญาเสร็จฝ่ายนั้นก็ทำอะไรเราไม่ได้”
“แต่ว่า...สัญญาของคุณมันจะใช้ได้ตามกฏหมายหรือคุณหญิง”
“ก็คงต้องรอดูกันต่อไปนั่นแหละค่ะ”
คุณหญิงการะเกดเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก ทิ้งให้สามีเป็นกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพียงลำพัง