“เรานี่มันชักจะมารยาททราม ปากคอเราะราย ซ้ำยังตาถั่วอีกนะดอกปีบ” ทัศนัยกอดอกปรายตามองหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าเขาอยู่สองปีด้วยสายตากึ่งรังเกียจกึ่งระอา
“พี่แทค!!!”
กาสะลองแทบเต้นเร่าๆ กับคำพูดของทัศนัย หล่อนตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ที่ทำได้ก็มีเพียงกำมือแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองถลาเข้าไปทำร้ายร่างกายตัวต้นเหตุที่ทำให้หล่อนโดนทัศนัยด่าแบบนี้
“แล้วนี่ตามมาหาเรื่องชาวบ้านแบบนี้เธอว่างนักหรือไง” ทัศนัยถามด้วยน้ำเสียงเยาะๆ ทำให้กาสะลองนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองเดินมาตาม
หาการะบุหนิงทำไม
“คุณย่าเรียกเธอไปพบด่วนดอกแก้ว รีบไปซะสิ”
หล่อนหันไปพูดเสียงสะบัดกับการะบุหนิง ทำให้หญิงสาวสะดุ้ง
“งั้นเราไปก่อนนะแทค เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ” หล่อนกันไปบอกเพื่อนสนิทเบาๆ
ทัศนัยพยักหน้ารับ “รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะโดนใครบางคนใส่ไฟถ้าเขาไปถึงก่อน”
กระนั้น ทัศนัยก็ไม่วายเหน็บ ‘ใครบางคน’ จนน้ำตาคลอ
“แทค...ไม่เอาน่า”
การะบุหนิงปรามเพื่อนสนิท พลางส่ายหน้าอย่างไม่ชอบใจ ทำให้ทัศนัยหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมเลิกลาแต่โดยดี
“ตัวไปเถอะ เราสัญญาว่าจะไม่กัดใครบางคนแถวนี้อีกแล้ว”
เขาให้สัญญา และไม่คิดจะปรายตามองกาสะลองอีกเลย
การะบุหนิงพนักหน้ารับ พลางถอนหายใจกับท่าทางและสีหน้าของกาสะลอง พร้อมกับเตรียมรับมือว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะทำอย่างไรเป็นการแก้แค้นที่ต้องเสียหน้าและถูกทัศนัยต่อว่าโดยมีหล่อนเป็นต้นเหตุ
พอคล้อยหลังการะบุหนิงไปเท่านั้น ทัศนัยก็ถอนใจโดยไม่ปิดบังแล้วหันหลังมุ่งเดินกลับบ้านตนเองทันที ไม่สนใจคนที่ยืนกำมือแน่นตัวสั่นเทา น้ำตาคลอเจียนหยดด้วยความน้อยใจและเจ็บใจในการกระทำของเขาสักนิด
‘หล่อนมันโง่! บ้า! ที่หลงรักเขาทั้งที่รู้ดีว่าเขารักใคร!
แต่...ช่างปะไร หึ! คราวนี้แหละจะเป็นพี่แทคเองที่ต้องเจ็บปวดบ้าง แล้วเขาจะได้รู้ว่าการไม่สมหวังมันเป็นยังไง!
ในเมื่อพี่แทคไม่เคยรักหล่อน...เขาก็ต้องไม่สมหวังกับนังดอกแก้วเหมือนกัน!’
…
เรือนเล็กที่พำนักของคุณหญิงกาหลงนั้นเป็นเรือนไม้ที่สร้างมาประมาณสิบปีเห็นจะได้ ตัวเรือนตั้งอยู่หลังตึกใหญ่โอ่อ่าหลังนั้น ซ่อนตัวเองอยู่หลังต้นไม้ใหญ่และสวนร่มรื่น บรรยากาศโดยรอบสงบและเงียบเย็นจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีที่ตั้งอยู่กลางกรุงเทพมหานคร
และความสงบร่มเย็นของเรือนเล็กก็ยังเป็นที่พักอาศัยของหล่อนเช่นเดียวกัน การะบุหนิงรีบเดินตรงไปยังเรือนเล็กโดยไม่แวะทักทายต้นไม้ใบหญ้าอย่างที่เคยทำในทุกๆ ครั้ง เรือนเล็กหลังนี้จะว่าไปก็เปรียบเสมือนบ้านที่แท้จริงบนพื้นที่ขนาดเกือบสิบไร่ของรั้วคฤหาสน์
พีระนันท์แห่งนี้
“คุณย่าเรียกพบแก้วหรือคะ?”
หญิงสาวถามหลังจากนั่งพับเพียบเรียบร้อยกับพื้นไม้ขัดเป็นมันวับเพราะฝีมือทำความสะอาดของหล่อนทุกวัน
“อืม...” หญิงชราใบหน้าดุแฝงเค้าทรงอำนาจไม่เปลี่ยนแปลงจ้องมองหลานสาวต่ำต้อยของตนเองเงียบๆ ถอนใจยาวกับเรื่องที่กษิดิษย์นำมาปรึกษาหารือกับหล่อนในเช้าวันนี้แล้วก็หนักใจ
กับการะบุหนิงหลานผู้ใกล้ชิด...จะว่าหล่อนรังเกียจก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะว่ารักหล่อนก็กระดากปากที่จะพูดเพราะเกิดมาจากแม่ผู้ต่ำต้อยเป็นคนใช้ในบ้าน
ทว่าตอนนี้...หล่อนรู้สึกสงสารการะบุหนิงจับใจ
“ฉันมีเรื่องจะพูดกับหล่อนอยู่สองเรื่องแม่ดอกแก้ว” คุณหญิงกาหลงเอ่ยเสียงดังกังวานชัด มองหน้าหลานสาวอาภัพแล้วก็สงสาร
“ค่ะคุณย่า”
“เรื่องแรกอย่างที่บอก ฉันขอยกเลิกคำสั่งเก็บของไปบ้านสวน ฉันจะไม่ย้ายไปไหน”
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำอย่างแปลกใจ ทั้งที่เมื่อวานนี้หล่อนถูกท่านสั่งให้เริ่มเก็บข้าวของ ในตอนที่หล่อนกับท่านได้ตกลงกันว่าทุกคนในบ้านหลังนี้ต้องย้ายออก และอีกเรื่องคือหล่อนมาขออนุญาตท่านไปทำงาน ซึ่งท่านก็อนุญาตแล้ว และการะบุหนิงก็ยังคงเงียบต่อไปเพื่อฟังอีกเรื่องที่คุณย่าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับหล่อน
“ส่วนอีกเรื่อง ฉันจะให้หล่อนแต่งงาน”
“คะคุณย่า?!”