2

1793 Words
‘เพราะท่านเป็นคนสั่งให้ฉันหมั้นกับเธอเอง’ ประโยคนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของเธอตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนเย็น หลังจากที่ไทเลอร์พูดประโยคนั้นจบ ชายหนุ่มก็เดินออกไปจากห้องสมุดอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอนั่งสับสนมึนงงกับสิ่งที่เขาพูดอยู่อย่างนั้น กระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นพอเธอจะขอเข้าพบเทเรน่าเพื่อสอบถามและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนรับใช้ในบ้านซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลเทเรน่ารองจากเธอกับนิศามาศก็ออกมาบอกว่าเทเรน่าพักผ่อนแล้ว โดยที่เวลาพักผ่อนของหญิงชรานั้นชิดหทัยรู้ดีว่าไม่ควรจะรบกวนเป็นที่สุด หญิงสาวจึงยอมล่าถอยออกมารอคอยเวลาในยามเย็นที่เทเรน่าตื่นแทน ชิดหทัยจึงไพล่ไปถามถึงเจ้าของคฤหาสน์แล้วคนรับใช้ก็บอกว่าตอนนี้ไทเลอร์เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพักของเขาพร้อมกับเลขาฯ คู่ใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชายหนุ่มคงจะทำงาน หญิงสาวเลยเปลี่ยนใจเดินตามหาเพื่อนสนิทของตัวเองแทน นั่นกลับทำให้ชิดหทัยต้องตกใจซ้ำสองเมื่อเธอไม่พบนิศามาศเลยแม้แต่เงา! จนกระทั่งเธอลองไปหาที่ห้องพักซึ่งทั้งคู่อยู่ร่วมกัน ก็กลายเป็นว่าเห็นข้าวของส่วนหนึ่งของนิศามาศหายไป! “นี่มันเรื่องอะไรกัน?!” ชิดหทัยบ่นพึมพำด้วยสีหน้าตื่นตระหนก หน้าห้องนอนของเธอกับเพื่อนซึ่งตอนนี้ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งหนึ่งนั้นว่างเปล่าและไร้ข้าวของส่วนตัวของนิศามาศ เพื่อนสนิทของเธอหายไปไหนกัน! ทำไมข้าวของถึงไม่เหลือแบบนี้ หญิงสาวรีบออกไปจากห้องเพื่อตามหาใครสักคนที่จะตอบคำถามของเธอได้ จนกระทั่งไปเจอกับมาร์ธา แม่ครัวประจำคฤหาสน์ที่ค่อนข้างสนิทสนมกับเธอและนิศามาศเป็นอย่างดี “มาร์ธาคะ เห็นมูนนี่ไหมคะ ทำไมฉันตามหาเธอไม่เจอเลย” ชิดหทัยถามอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ทว่ามาร์ธากลับไม่ได้มีท่าทีแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่นิศามาศหายตัวไป มิหนำซ้ำยังขมวดคิ้วและตีหน้ายุ่งใส่เธอเสียอีก “นี่พิงกี้ยังไม่รู้เหรอว่ามูนนี่ไปจากที่นี่แล้ว” คำตอบนั้นทำให้คนฟังชาวาบไปทั้งตัว และเมื่อแม่ครัวใหญ่เห็นท่าทีคล้ายกับไม่รู้อะไรเลยของเธอ จึงเฉลยต่อไปอย่างรวดเร็วว่า “นี่คนพูดกันให้แซดเลยว่าจริงๆ แล้วสามีของมูนนี่ก็คือเพื่อนสนิทของคุณไทเลอร์ไงคะ พอดีมีคนที่จะเข้าไปทำความสะอาดห้องสมุดแล้วแอบไปได้ยินตอนสองคนนั้นพูดคุยกันมาน่ะค่ะ ตอนรู้นี่ตกอกตกใจกันใหญ่เลย แต่ก็ดีใจกับมูนนี่ด้วยที่จะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสียที คงจะตกลงกันได้แล้วน่ะค่ะ” คำอธิบายยืดยาวนั้นทำให้ชิดหทัยตาโตด้วยความตกใจ ตอนนี้เธอไม่ได้ยินแล้วว่ามาร์ธาพูดอะไรบ้าง เพราะความจริงที่ว่าไอ้ผู้ชายร้ายกาจที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของเธอเป็นถึงเพื่อนสนิทของไทเลอร์ แฮมิลตันนั้นทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า! “มิสเตอร์อัลวาเรซน่ะเหรอคะ?...” หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เธอยังจำผู้ชายหน้าดุ ดวงตาคมกริบสีเขียวมรกต และท่าทีดุดันได้ติดตา “ใช่ค่ะ ตอนนี้มูนนี่ก็ไปกับเขาแล้วด้วย ฉันนึกว่าพิงกี้รู้แล้วเสียอีก” ชิดหทัยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย เธอพึมพำขอตัวกับมาร์ธาสองสามคำแล้วเปลี่ยนเส้นทางไปยังปีกตะวันตกของคฤหาสน์ซึ่งเธอไม่ค่อยได้ย่างกรายมา เนื่องจากรู้ดีว่านี่เป็นอาณาเขตของเจ้าของบ้านหนุ่มที่ไม่ค่อยอยู่บ้านอย่างไทเลอร์ แฮมิลตัน หญิงสาวตรงไปยังห้องนอนของอีกฝ่าย สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วตัดสินใจเคาะประตูด้วยสีหน้าบึ้งตึงในที่สุด เขาทำอย่างนี้กับเธอได้ยังไง นอกจากจะบังคับให้เธอหมั้นกับเขาแล้ว ตอนนี้เขายังให้เพื่อนของตนเองลักพาตัวเพื่อนสนิทของเธอไป ทั้งๆ ที่มูนนี่กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย! ทำได้ยังไงกัน! “โครงการตรงนี้คงต้องประเมินกันใหม่อีกรอบ ว่าทำไมงบประมาณส่วนการตลาดถึงได้สูงขนาดนี้ แล้วงบตรงนี้ ฉันว่าตัวเลขมันผิดจากปีก่อนมาก มันเกิดอะไรขึ้น?” ไทเลอร์เอ่ยพลางชี้นิ้วไปบนตัวเลขของงบบัญชีโรงแรมในเครือแฮมิลตันสาขาเอเชียที่เขากำลังตรวจสอบ โดยที่เควินซึ่งถ้ารู้ข้อมูลก็จะตอบคำถาม แต่คำถามไหนที่ไทเลอร์ต้องการคำตอบนอกเหนือจากที่เขาทราบ เควินก็จะจดคำถามเอาไว้และไปตามหาคำตอบเหล่านั้นมาให้เจ้านายจนได้ “เอาล่ะ มีเท่านี้แหละ นายออกไปทำงานต่อได้” ไทเลอร์สั่งอีกฝ่าย หลังจากที่เอกสารชุดสุดท้ายที่เขาหอบกลับมาทำฆ่าเวลาด้วยนั้นหมดลงแล้ว เควิน คาร์เตอร์ เลขาฯ หนุ่มผู้มากประสิทธิภาพของเขาจึงขอตัวออกไป แน่นอนว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้หยุดพัก แต่คงจะออกไปจัดการงานที่เขาเพิ่งสั่งไปเมื่อกี้นี้แหละ เมื่ออยู่เพียงลำพัง ไทเลอร์ก็ปลดแว่นสายตาออกจากดวงหน้าของตัวเอง ชายหนุ่มสายตาสั้นนิดหน่อย แต่เพราะต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ เขาจึงมีอาการแพ้แสง และทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัดนัก ชายหนุ่มคลึงหัวตาเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดเล็กๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกาก็เห็นว่านี่เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว สองชั่วโมง...ตั้งแต่เขาออกมาจากห้องสมุดนั่น แล้วทิ้งให้ชิดหทัยนั่งนิ่งตกตะลึงกับความจริงที่ได้รับรู้ คิดถึงใบหน้าเล็กๆ และความพยายามของเจ้าหล่อนที่จะโน้มน้าวจิตใจของเขา ไทเลอร์ก็อดขำเธอไม่ได้ ชิดหทัยคงไม่รู้หรอกว่ายิ่งเธอต่อต้านมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะเอาชนะเธอเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และเธอคิดหรือว่า เขาเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว จะยอมปล่อยมือจากเธอไปได้ง่ายๆ กันน่ะ หือ? คิดถึงเรือนร่างบอบบางน่าทะนุถนอม ทว่ากลับเห็นได้ชัดถึงส่วนเว้าส่วนโค้งที่แสดงให้เห็นชัดว่าเธอเป็นสาวแล้วได้อย่างชัดเจนผิดกับร่างเล็กๆ ผอมแห้งของเด็กสาวที่ติดอยู่ในความทรงจำครั้งสุดท้ายของเขาอย่างลิบลับ หากถึงกระนั้นดวงหน้าสวยคมเพราะส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างสองเชื้อชาติและดวงตาคู่โตที่มีประกายวาววับมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความดื้อดึงก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย “มิสเตอร์แฮมิลตัน” นั่นเป็นคำเรียกขานเขาจากปากของเธอเป็นครั้งแรกที่เจอหน้ากันเมื่อต้นเดือนก่อนอย่างเป็นทางการ เสียงหวานๆ นั้นสะกดให้เขาจ้องมองเธอนิ่ง ไม่รู้ว่าดวงตาของเขามองเธอเป็นอย่างไรเพราะหญิงสาวถึงกับเม้มริมฝีปากแน่นจนเขานึกอยากจะใช้ปลายนิ้วผลักดันให้ฟันซี่เล็กๆ ของเธอเลิกทรมานริมฝีปากนุ่มสีสวยนั้นเสียที มันทำให้คนมองอย่างเขารู้สึกปั่นป่วนไปทั้งใจ และนั่นคงทำให้คนถูกมองหมดสิ้นความอดทน เธอปรี่เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่อาจฝ่าปราการอันแข็งแกร่งที่ชื่อเควินเข้ามาได้ “ฉันแค่มีธุระกับคุณนิดเดียว” หญิงสาวตะโกนบอกเขา ก่อนที่เขาจะออกเดิน ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง มองร่างเล็กๆ ที่กำลังต่อสู้เพื่อให้เข้ามาถึงตัวเขา ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอมาหาเขาด้วยเหตุผลอะไร แน่นอนว่าคนที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรก็คงมีแต่เธอเท่านั้น “ฉันติดธุระสำคัญ ถ้าเธอไม่รีบก็รอก่อนแล้วกัน” แทนที่จะยอมสละเวลานิดๆ หน่อยๆ เพื่อเธอ เขากลับเลือกที่จะถ่วงเวลาเอาไว้ เขาอยากเป็นคนที่มีตัวตนในสายตาของเธอเสียที เขากับเธอรับรู้ตัวตนของกันและกันมานานหลายปี ทว่าแม้กระทั่งจะเผชิญหน้ากันและพูดกันตรงๆ ก็ใช้เวลายาวนานมากกว่าสามปี... ฉะนั้นเขาคงไม่ผิดอะไรถ้าอยากจะให้เธอมองเห็นเขา และรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาในฐานะอื่นบ้าง...ก็ยังดี “แต่ฉันแค่...” เธอพยายามจะพูดธุระให้จบ ทว่าเขาไม่อยากจะฟัง ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกให้เธอหยุดพูด ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มที่ใครๆ ก็ชอบบอกว่ามันเจ้าเล่ห์บนเรียวปากของตนเอง “ฉันมีประชุมด่วนจริงๆ และอาจจะทั้งวัน ยังไงเธอค่อยมาใหม่พรุ่งนี้ก็แล้วกัน...ชิดหทัย” เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเธอ ชื่อจริงของเธอที่เขาเคยต้องฝึกออกเสียงเรียกมานานกว่าจะเอ่ยได้อย่างชัดเจน เขาเหยียดยิ้ม เห็นเธอมองเขาด้วยสายตาวาววับแต่เขาไม่สนใจ ชายหนุ่มมองเควิน สั่งอีกฝ่ายด้วยสายตาซึ่งเป็นอันรู้กันว่าให้เลขาฯ หนุ่มกันเธอให้ห่างจากตัวเขา ก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปห้องประชุมซึ่งอยู่ชั้นล่างของตึกสำนักงานบริษัทแฮมิลตัน เขารู้...ว่าตัวเองทำให้เธอไม่พอใจ แต่ทำอย่างไรได้ เขาอยากให้เธอจดจำเขาให้ได้นี่นา จดจำเขาในฐานะอื่น...ที่ไม่ใช่ลูกชายของผู้มีพระคุณ ทว่าก่อนที่เขาจะจมดิ่งกับความคิดไปมากกว่านี้เสียงเคาะประตูห้องรัวๆ ที่ดังขึ้นก็ทำให้หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่น แวบแรกเขาไม่ชอบใจนักที่ถูกขัดจังหวะอย่างไร้มารยาทเช่นนี้จากคนผู้มาเยือน เขาไม่ได้กลับบ้านแค่ปีกว่าๆ อาจจะมีคนใหม่เข้ามาทำงานที่บ้านก็เป็นได้ ซึ่งคนรับใช้ใหม่คงจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าไม่ควรจะมายุ่มย่ามในเขตตะวันตกซึ่งเป็นที่อยู่ของเขาอย่างแน่นอน ไทเลอร์เบือนหน้ากลับไปมองยังสวนกว้างขวางของคฤหาสน์แฮมิลตันตามเดิม ตอนนี้สวนที่เคยถูกจัดเป็นงานหมั้นเล็กๆ ที่แสนอบอุ่นนั้นก็ถูกแปรสภาพเป็นสวนสีเขียวที่เต็มไปด้วยกุหลาบนานาพันธุ์ของมารดาของเขาตามเดิมแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD